ค่าไฟยายแพงแปลก ๆ ทั้งที่ใช้พัดลมแค่ตัวเดียว หนุ่มเอะใจลองเช็ค

Advertisement 19 พ.ย.67 ผู้ใช้ TikTok @bank_waiyaphat ซึ่งเป็นพนักงานที่ออกมาแจกบิลแจ้งเตือนค่าไฟฟ้า ได้โพสต์คลิปถึงความผิดปกติของค่าไฟฟ้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีตายายอยู่กัน 2 คน และค่าไฟแพงถึง 500 บาท ทั้งที่มีพัดลมใช้แค่ตัวเดียว Advertisement ซึ่งในคลิป ผู้โพสต์เห็นความผิดปกติเพราะค่าไฟแพงเกินไป จึงได้เข้าไปพูดคุยกับยายเจ้าของบ้าน แต่ด้วยความที่ยายหูตึง จึงทำให้สื่อสารกันลำบาก ต้องให้ชาวบ้านมาช่วยถึงจะรู้เรื่อง Advertisement   โดยทั้งบ้านมีพัดลมแค่ตัวเดียว และค่าไฟก็ไม่น่าจะแพงขนาดนี้ ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนก็สงสัยว่ามันไม่น่าถึง 500 บาท เพราะใช้พัดลมแค่ตัวเดียว อาจจะมีคนมาลักไฟบ้านยายใช้หรือไม่ หรือไฟฟ้าอาจจะรั่ว และขอให้ผู้โพสต์ช่วยตรวจสอบด้วย ซึ่งผู้โพสต์ก็รับปาก นอกจากนี้ ยังมีคนมาคอมเมนต์เปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้าบ้านตัวเองให้ฟังว่า “ขนาดพ่อแม่อยู่บ้านต่างจังหวัดมีทั้งพัดลม ตู้เย็น ทีวี อยู่ต่างจังหวัด ประมาณ 400 กว่าเองนะคะ นี่จ่ายให้แกทุกเดือนที่กรุงเทพ ทำไมของคุณยายแพงมาก” ขณะเดียวกันมีชาวเน็ตเห็นใจอยากช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าให้ แต่ผู้โพสต์เข้ามาคอมเมนต์บอกว่าลูกชายที่ทำงานอยู่ภาคใต้จ่ายให้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้บอกถึงสาเหตุค่าไฟแพง นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังชมผู้โพสต์ว่า ทำได้ดีมากที่เห็นความผิดปกติแล้วเข้าไปช่วยเหลือ ไม่นิ่งดูดาย

จับตา! ค่าไฟปี 68 แพงขึ้นสูงสุด 5.49 บาท/หน่วย

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. ครั้งที่ 49/67 มีมติให้ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 68 แบ่งเป็น 3 กรณีอยู่ที่ 4.18 – 5.49 บาทต่อหน่วย โดยมองว่าแนวโน้มต้นทุนค่าไฟลดลงจากเงินบาทแข็งค่า ถือเป็นจังหวะดีที่จะเร่งใช้คืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงคงค้างที่ยังสูงกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อรักษาความมั่นคงให้ระบบ กรณีที่ 1 : ค่า Ft ขายปลีกเท่ากับ 170.71 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.49 บาท/หน่วย (ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 31%) ชำระภาระต้นทุนการจัดการไฟฟ้าคงค้าง กฟผ. ภายในงวดเดียว รวมทั้งสิ้น 85,236 ล้านบาท ชำระภาระต้นทุนการจัดหาก๊าซคงค้างของ กฟผ. และ ปตท.รวมทั้งสิ้น 15,084 ล้านบาท กรณีที่ 2 […]

การไฟฟ้าฯ ลดค่าไฟ4เดือนสุดท้ายของปี67 ต้องมีเงื่อนไขดังนี้!

30 ส.ค.67 การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีการลงประกาศแจ้งมาตรการลดค่าไฟฟ้า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนในเรื่องค่าครองชีพและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ดังนี้ สำหรับนโยบายที่ออกมานั้น จะมีการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์ต่อหน่วย ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ คือผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งใช้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน – ธันวาคม 2567  

พีระพันธุ์ แจง ขึ้นค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วย ไม่เป็นความจริง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวผ่านสื่อเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วย ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปประชุมกับทางกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย ทำให้ไม่ได้อยู่ชี้แจงข้อเท็จจริงส่งผลให้เกิดความสับสนขึ้นในสังคม แต่เป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่มีการปรับค่าไฟก็จะมีข่าวในทางลบออกไป ซึ่งความจริงเป็นเรื่องที่ทางกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กับรัฐบาล โดยกระทรวงพลังงานจะต้องมีการหารือร่วมกันทุกครั้ง ซึ่งได้เชิญประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและผู้ว่า ปตท. มาหารือร่วมกันและได้ข้อยุติที่จะยืนค่าไฟไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยตามเดิม อย่างไรก็ตามการจะช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือน้ำมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระทรวงพลังงานเพียงกระทรวงเดียว แต่ต้องอาศัยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยปลัดกระทรวงพลังงานได้พยายามประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา รองนายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ยืนยันจะพยายามตรึงราคาไว้ตามเดิม แต่ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นกลไกหลักมาอย่างยาวนานในการดูแลราคาน้ำมันให้ประชาชนนั้นมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการและพยายามตรึงราคาน้ำมันไว้ที่ประมาณ 33 บาท แต่ก็ต้องอยู่ที่ความร่วมมือของส่วนราชการอื่นด้วย ส่วนของกระทรวงพลังงานจะทำเต็มที่เช่นเดิม นอกจากนั้น รองนายกฯ ย้ำว่า ข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการพยายามที่จะสร้างข่าวเชิงลบ ทำให้ประชาชนตกใจหรือเข้าใจผิด ทั้งนี้ สื่อมวลชนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนและตื่นตกใจ   ข่าวจาก : PPTV Online

สุดงง ติดโซลาร์เซลล์ หวังประหยัด แต่ค่าไฟพุ่ง จากหลักพันเป็นหลักหมื่น

20 พ.ค.2567 มีสมาชิกกลุ่มพวกเราคือบริโภครายหนึ่ง ออกมาโพสต์เล่าถึงความผิดปกติบางอย่างที่ทางการไฟฟ้ากำลังตรวจสอบอยู่ หลังติดโซลาเซลแต่ค่าไฟกลับขึ้นสวนทาง??? โดยสมาชิกบัญชีดังกล่าว ได้โพสต์ภาพบิลค่าไฟ พร้อมระบุว่า หน้าร้อนปีนี้ ทำไมทำให้ฉันหนาวสั่นสะท้านขนาดนี้ กฟภ.ช่วยเร่งตรวจสอบ แล้วรีบกลับมาคุยกันดีๆ หลังติด Solar Cell 20KW มาได้ 5 เดือน เข้าหน้าร้อนปีนี้ #จากหลักพันทะยานสู่หลักหมื่น เพิ่มเติมข้อมูลครับ จากที่หลายๆ ท่าน สอบถามมา กฟภ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ มีการดึง Profile มาดูหม้อทตั้งแต่ต้นเมษาไปละครับ ยังรอ Feedback จากการไฟฟ้า วันนี้ ก็โทรติดตามไปอีกรอบ ส่วนเรื่องยกหม้อ ตัดไฟ ก็เกือบไปนะครับ ล่าสุด ต้น พค. มีเจ้าหน้าที่จะมายกหม้อ ดีที่ นิติ โทรมาหา ผมเลยอธิบายเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แล้วเขาก็โทรไปคุยที่ออฟฟิต สักพักก้อแจ้งว่า ไม่ยกหม้อ ไม่ตัดไฟ ครับ #ค่าไฟหลังติดSolarCell #ฉันคงได้ระดับPlatinumของลูกค้าครัวเรือน #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ผู้โสต์ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า […]

โดนใบแจ้งหนี้ค่าไฟ 77 ล้านบาท แถมเดือนก่อนหน้าค่าไฟเพิ่มพรวด

ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุแบบนี้ เรื่องที่หลายคนกังวนคงหนีไม่พ้นค่าไฟ ที่ต้องเสียไปกับการเปิดแอร์ เปิดพัดลมเพื่อช่วยคลายร้อน ล่าสุดกลายเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดีย หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์ภาพใบแจ้งหนี้ค่าไฟประจำเดือน เม.ย. ของเธอ พร้อมข้อความโดยระบุว่า “ใช้ไฟทั้งจังหวัดเลยมั้ง หัวจะปวด” โดยในภาพ เป็นใบแจ้งหนี้ค่าไฟประจำเดือน เม.ย. ที่ออกโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยมีค่าไฟสูง 77,034,286.30 บาท โดยผู้โพสต์ระบุเพิ่มเติมว่า อัตราค่าไฟของเธอนั้นเริ่มมีความผิดแปลกมาตั้งแต่เดือน มี.ค. แล้ว โดยจะเห็นว่า ค่าไฟเดือน ก.พ. เธอเสียประมาณ 2,503 บาท แต่เมื่อเดือน มี.ค. เธอเสียค่าไฟมากกว่า 11,524 บาท ซึ่งเพิ่มมากว่า 8,000 บาท ขณะที่หลายคนระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า น่าจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบ หรือไม่เจ้าหน้าที่กรอกตัวเลขผิดมากกว่า อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว ยังไม่มีการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเกิดขึ้นจากความผิดพลาดหรือบกพร่องในส่วนไหนกันแน่ แต่ใครเห็นบิลค่าไฟแบบนี้ก็คงจะต้องช็อกไปตามๆกัน   ข่าวจาก : PPTV Online

“พีระพันธุ์” สั่ง กฟผ. แบกหนี้ตรึงค่าไฟ 4.18 บาท แม้ภาระหนี้พุ่งเกือบแสนล้าน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังดูการดำเนินงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ กฟผ. และผู้บริหารระดับสูง ว่า ให้ดำเนินการดูแลระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ข้าราชการ 100% แต่ภารกิจหน้าที่ก็ไม่ได้ต่างกัน นั่นคือทําเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยกฟผ.เป็นผู้ที่ต้องแบกรับภาระหนี้เพื่อดูแลค่าไฟให้อยู่ที่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยต่อไป “เข้าใจว่าในการบริหารองค์กรแบบนี้ ต้องทำองค์กรให้รอดด้วย แต่ต้องไม่ลืมว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติ เพราะฉะนั้น กฟผ. จึงต้องแบกรับภาระหนี้ต่อไป” อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก กฟผ. พบว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 66 กฟผ. รับภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอหที (Ft) ค้างรับสะสม เป็นเงิน 99,689 ล้านบาท ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 67 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 […]

‘กกพ.’ เคาะค่าไฟงวด ม.ค. – เม.ย. 67 ประชาชนทั่วไปจ่าย 4.18 บาท ตามมติ ครม.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 (ครั้งที่ 887) วันที่ 10 ม.ค. 2567 มีมติเห็นชอบค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ขายปลีกเรียกเก็บสำหรับงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 จำนวน 39.72 สตางค์ต่อหน่วยตามสูตรการคำนวณเอฟที ทั้งนี้ได้ปรับปรุงการคำนวณดังกล่าวตามมาตรการลดค่าไฟฟ้าของกระทรวงพลังงานที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบในการประชุมครั้งที่ 3/2566 (ครั้งที่ 166) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 และตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 โดยมีรายละเอียดการปรับปรุงการคำนวณ ดังนี้ 1. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 53/2566 (ครั้งที่ […]

จับตารัฐบาลบีบ ‘ปตท.’ ลดราคาก๊าซ อุ้มค่าไฟประชาชนทั่วไป 4.1 บาท

รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปล (เอฟที) ขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลอยู่ระหว่างหาแนวทางเพื่อปรับลดค่าไฟฟ้าเพื่อคงให้อยู่ในระดับ 3.99 บาทต่อหน่วย เทียบเท่างวดที่เรียกเก็บปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 2566) หรือไม่ควรเกิน 4.20 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 4.20 บาทต่อหน่วย ในขณะที่ นายกฯ ต้องการที่จะให้ลดค่าไฟฟ้าให้เหลือในระดับ […]

พลังงาน เตือนรับมือ ‘ค่าไฟ-เบนซิน-ดีเซล’ ขึ้นราคา

พลังงาน คือแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ในที่นี้รวมถึงค่าไฟฟ้า และ ราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจัยภายนอกทั้งสงครามและกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิดระบาดทำให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยทำให้การบริหารจัดการด้านพลังงานต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและเป็นธรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่หน่วยละ 4.68 บาทนั้นเป็นแค่ตัวเลขเสนอแนะ ส่วนราคาสุดท้ายอยู่ที่ฝ่ายบริหาร กระทรวงพลังงาน ภายใต้การกำกับของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะมีมาตรการเพื่อให้ค่าไฟอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ “ขอยืนยันว่าราคาขายไฟฟ้าจริงจะไม่ใช่ตัวเลขที่สำนักงานกกพ. มีมติแน่นอน เพื่อที่จะไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ไฟไม่ต้องรับภาระ จนหน้ามืดอย่างแน่นอน ราคาค่าไฟที่ 4.68 บาทต่อหน่วย เป็นแค่ตัวเลขการคำนวนเบื้องต้นที่คำนวนจาก กกพ. โดยยึดโยงจากตัวแปรหลักตัวแปรเดียว คือการชำระหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งการทำงานของกกพ. ทำหน้าที่เป็นการเสนอแนะแนวทางเชิงทฤษฎี เสมือนทีมวิชาการ (Think Tank) ส่วนทีมบริหาร คือกระทรวงพลังงาน” พีระพันธุ์รื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้า ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้กำชับคณะทำงาน โดยให้หาแนวทางลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้ไม่ให้เจอแรงปะทะหลังเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ โดยเบื้องต้นจะจัดการราคาไว้ให้อยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย และจะพยายามทำตัวเลขให้ลดลงได้มากที่สุด […]

1 2 6
error: