งานแต่งงาน

Advertisement กลายเป็นประเด็นถกเดือดในสังคมโซเชียลฯ หลังผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ออกมาให้ความรู้เรื่อง ‘ความสำคัญของการกั้นประตูเงิน-ประตูทอง’ ในพิธีแต่งงาน Advertisement โดยบอกว่า “เป็นบททดสอบที่เจ้าบ่าว จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปหาเจ้าสาวให้ได้” เป็นการสอนเจ้าบ่าวให้รู้จักการให้ นอกจากจะต้องดูแลเจ้าสาวแล้ว ต้องดูแลญาติและเพื่อน ๆ ของเจ้าสาวด้วย Advertisement ท่ามกลางคนในโซเชียลฯ ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยบอกว่าการกั้นประตู เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน ตามธรรมเนียมเท่านั้น แต่ควรทำแบบพอดี ไม่ให้มันมากเกินไป ขณะที่บางส่วนบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น สามารถตัดออกได้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง   ข่าวจาก : ข่าวสด

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงาน เรื่องราวสุดพีกจนกลายเป็นคลิปไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อสาวรายหนึ่งชื่อ อาร์ตี้ โพสต์คลิปวิดีโอลงติ๊กต็อกโดยใช้บัญชีชื่อว่า @firstseedfoods ขณะที่เธอใช้เวลาเดินทางกว่า 12 ชั่วโมง จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ ไปยังกลาสโกว์ สกอตแลนด์ เพื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานของเพื่อนสนิทของเธอ แต่เมื่อเธอมาถึงสถานที่จัดงาน หญิงสาวก็ตกตะลึงทันทีที่เห็นหน้าเจ้าสาวและเจ้าบ่าว กลายเป็นทิ้งตำนานชวนตะลึงไว้แทน จากคลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อาร์ตี้ ขึ้นเที่ยวบินระยะไกล 4,800 กิโลเมตร ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อมาให้ทันเวลาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิท หลังจากลงจากเครื่องบิน หญิงสาวเดินทางต่อด้วยแท็กซี่ไปอีกไกลเพื่อไปยังเมืองกลาสโกว์ ซึ่งอาร์ตี้คิดว่าเป็นสถานที่สำหรับงานแต่งงานของเพื่อนของเธอ แต่เมื่อเธอมาถึงสถานที่จัดงาน และหวังจะได้เห็นใบหน้าที่มีความสุขของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวด้วยตาของเธอเอง อาร์ตี้ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเธอมางานแต่งงานผิดที่ เบื้องหน้าของอาร์ตี้คือคู่บ่าวสาวแปลกหน้า พวกเขากำลังแลกเปลี่ยนรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก อย่างไรก็ตาม อาร์ตี้รีบตรวจสอบสถานที่ และชัดเจนว่าเธอมาผิดที่ เมื่อปรากฎว่าเพื่อนของเธอมีพิธีแต่งงานในสถานที่แต่งงานอีกแห่ง ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อไม่สามารถซ่อนความอับอายนี้ได้ อาร์ตี้หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาเพื่อบันทึกช่วงชีวิตที่น่าจดจำ คลิปแสดงให้เห็นว่าอาร์ตี้ดูเขินอายขณะจ้องมาที่กล้อง โดยระบุแคปชั่นว่า “คุณเดินทางเกือบ 5,000 กม. และบังเอิญไปงานแต่งงานผิดที่” ต่อมา อาร์ตี้ เล่าต่ออีกว่า เธอใช้บริการอูเบอร์ไปงานแต่งงานของเพื่อนของเธอ เนื่องจากเธอมาสาย เธอจึงพลาดช่วงกล่าวสุนทรพจน์ในงานแต่งงานของเพื่อน ทั้งนี้ […]

สมรสเท่าเทียม เป็นการเรียกร้องสิทธิ ให้คนที่มีเพศสภาพเดียวกันสามารถมีสิทธิตามกฎหมายเหมือนคู่สมรสทั่วไปได้ ซึ่งนับเป็นการเรียกร้องที่เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีความคืบหน้าทางกฎหมายสำเร็จ โดยสมาชิกเฟซบุ๊ก Matcha Phorn-in เผยภาพความเป็นครอบครัว ที่ได้รับการแชร์กว่าหมื่นครั้ง โดยเป็นภาพความอบอุ่น ของคนสองคนที่ช่วยเลี้ยงดูเด็กอีกคนมา ข้อความดังกล่าวระบุว่า “ไม่มีแหวน ไม่มีงานแต่ง เราอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 54 เราไม่เคยทะเลาะกัน ไม่เคยเลิกรา แต่รักกันเสมอและตลอดไป ไม่ได้ท้อง ไม่ได้ให้นม และลูกเกิดจากใครบางคนที่ไม่ใช่เรา แต่ลูกได้เติบโตท่ามกลางความรักและการดูแลอย่างดีที่สุด ของเรา 2 แม่ มาตั้งแต่ 9 ขวบ จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว ครอบครัวของเราไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า #สิทธิในการก่อตั้งครอบครัว #การยอมรับทางสังคม #การปกป้องทางกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มี #สมรสเท่าเทียม เราต้องการแก้ #ปพพ1448 Merry Christmas และ สวัสดีปีใหม่” ท่ามกลางเสียงชื่นชมและสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว   ข่าวจาก : ข่าวสด

การเลือกช่างแต่งหน้าในงานแต่งงาน หลายคนมักจะเลือกให้ดีที่สุด เพราะถือว่าเป็นงานครั้งเดียวในชีวิต แต่ดีที่สุดบางทีก็ไม่ได้ขึ้นกับราคาต้องแพงที่สุดเสมอไป เหมือนกับเคสของลูกค้า-ช่างแต่งหน้าเคสหนึ่ง ที่เพจ ชีวิตช่างแต่งหน้า+ทำผม โพสต์มาให้ลูกเพจตัดสินใจเอาเองว่าใครถูกใครผิด? แบบนี้ถือว่าโกงหรือไม่? โดยเคสตัวอย่างนี้เป็นการเล่าถึงลูกค้าคนหนึ่งที่เป็นเจ้าสาว แต่ตัดสินใจเลือกราคา 2,000 บาท แต่ไม่เลือกราคา 6,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเฉพาะเจ้าสาวโดยตรง พอช่างแต่งหน้ารู้ทีหลังก็รู้สึกว่าเป็นการโกงรึเปล่าที่เห็นแก่ราคาถูก   แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนก็เห็นว่ากรณีดังกล่าวนี้อาจถือว่าเป็นความพึงพอใจของลูกค้า ที่ต้องการในเรตราคานี้ และต้องการแต่งแต่พอดี ๆ ไม่จัดเต็มมาก หากเขาต้องการจัดเต็มกว่านี้ คงจ้างราคา 6,000 ไปแล้ว ขอบคุณข้อมูลจาก : ชีวิตช่างแต่งหน้า+ทำผม

  สาวติดธุระ ไม่ได้ไปงานแต่ง กลับเจอเจ้าสาวแชตทวงเงินค่าซอง บอก ไม่ใช่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว งานนี้โซเชียลวิจารณ์ยับ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 เฟซบุ๊ก Gstrong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง. มีการโพสต์เรื่องราวของสาวคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่งงานพี่ที่ทำงานเก่า อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถไปงานแต่งได้ จึงยังไม่ได้ให้ซอง สุดท้ายกลับถูกอีกฝ่ายทวงค่าซอง ให้โอนเงินมาแทน พร้อมอ้างเหตุผล ถ้ายังคิดว่ารักและเคารพอยู่ ไม่ใช่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ด้านคนที่ได้อ่านเรื่องดังกล่าว ต่างมองว่า เจ้าของเรื่องควรห่างคนเหล่านี้ให้มาก เพราะได้แสดงนิสัยที่แท้จริงออกมาแล้ว   ขอบคุณข้อมูลจาก : Gstrong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง.

  คุณ สุกัญญา ทรงกลิ่น เจ้าสาวป้ายแดง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดหัวร้อน เกี่ยวกับออร์แกไนซ์จัดงานแต่ง ว่า 1.ราคา 70,000 ขอเบิกตลอดเวลา เบิกยันวันจัดงาน ตามตกลงคือมัดจำครึ่งนึง วันจริงจ่ายครึ่งนึงแต่เบิกไปแล้ว 50,000 บาทด้วยกัน 2.ไม่มาดูสถานที่ เลย มาจัดให้ทีเดียวตอน 4 ทุ่มครึ่งวันที่ 27 3.ขันหมากตกลง 14 อย่าง แต่จัดมาให้แค่ 4 อย่าง (ไม่มีฝาครอบขันหมาก ) จัดมาแบบโดดๆเลย 4.ฉากเช้าตกลง 5 เมตร จัดให้ 3 เมตรไม่มีขาตั้งรูป (ต้องวางรูปกับพื้นเอา) ดอกไม้สดสลับปลอม (แต่ไม่มีดอกไม้สดเลยสักดอก) มีแค่ต้นคัตเตอร์ที่เป็นสดแค่นั้น ฉากสงฆ์ ไม่มีโลโก้บ่าวสาว ไม่มีดอกไม้ มีแค่ผ้าม่านบางๆยับๆ และ สั้น ไม่มีพรมปู พื้นทั้งฉากรดน้ำ และ พิธีสงฆ์ใช้พลาสติกสีขาวปู และพลาสติกสั้นมาก ไม่ตกแต่งห้องเจ้าบ่าว-เจ้าสาว 5.งานเย็น งานกินเลี้ยงเย็นงานเริ่ม […]

  ในงานวิวาห์ช่วงพิธีหมั้นและสวมแหวนเสร็จสิ้น เรามักจะเห็นภาพฝ่ายเจ้าสาวก้มกราบเจ้าบ่าว เพื่อแสดงถึงความอ่อนน้อมและอยู่ในโอวาสของสามี ซึ่งแทบทุกงานจะเห็นเป็นเรื่องปกติ     แต่ล่าสุดมีคลิปคุณเจ้าบ่าวที่ใจถึงสุดๆ เพราะแทนที่จะให้เจ้าสาวก้มกราบเจ้าบ่าวเหมือนงานอื่นๆทั่วไป แต่งานนี้เจ้าบ่าวได้ก้มกราบบนตักเจ้าสาว ก่อนเจ้าสาวจะใช้มือแตะศีรษะเบาๆ     โดยเพจช่างภาพฝีมือดีที่มีรางวัลการันตีความสามารถมามากมาย อย่าง  Friday Studio ได้เผยแพร่ภาพและคลิปประทับใจนี้ลงในเฟซบุ๊ก โดยสร้างรอยยิ้มให้กับแขกที่มาร่วมงาน พร้อมระบุแคปชั่นว่า “กราบเมียตั้งแต่วันนี้…ได้ดีทุกคน” #ไม่กราบวันนี้วันหน้าก็ต้องกราบ #เจ้าบ่าวได้กล่าวไว้ ขอบคุณที่มาและติดตามได้ที่ Friday Studio  

  ตากล้องหนุ่มโพสต์เตือนสาว ๆ หลังรับจ้างถ่ายรูปงานแต่ง งานนี้ต้องขออุทานดัง ๆ เพื่อนเจ้าสาวแต่งหน้าจัดเต็ม ลั่น ! ไม่มีเจตนาประจาน แต่โพสต์เพื่อเตือนเป็นวิทยาทานเฉย ๆ โลกออนไลน์กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 กรณีตากล้องหนุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Patipran Suksen ได้มีการโพสต์เรื่องราวเตือนสาว ๆ หลังได้รับว่าจ้างถ่ายรูปงานแต่ง แต่งานนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับต้องร้องอุทานดัง ๆ เมื่อได้พบกับใบหน้าของเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งแต้มชนิดจัดเต็มจนอาจเกินเบอร์     โดยหนุ่มเจ้าของโพสต์ระบุว่า .. "บ้าไปแล้วววววว จะทำรูปยังไง ? ในใจก็อยากจะดึงมือน้องสองคนไปเข้าห้องน้ำ เอาสบู่ให้คนละก้อน ล้างหน้าละมาถ่ายใหม่ แต่มันก็แค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของพี่ เอาเป็นว่าตามเวรตามกรรมละกันเนาะลูก จำไว้นะครับ ถ้าเป็นงานใคร ถ้าแต่งไม่เป็นอย่าแต่ง อย่าดันทุรัง ช่างแต่งหน้าแพง ๆ นะจ้างไปเถอะ กว่าเขาจะเก่งมาขนาดนี้เขาหมดเครื่องสำอางไปเท่าไหร่ เครื่องสำอางของเขาก็ไม่ใช้ถูก ๆ ทำเถอะครับ เพื่อคนที่คุณรัก ไหว้ล่ะ"   […]

  แชร์กระหึ่ม เมื่อ “โบ” สาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแห่งเพจ ตามติดชีวิตผีบ้า  ได้โพสต์เล่าว่า ต้องสตรองแค่ไหนถึงไปงานแต่งแฟนเก่าได้ ไม่ต้องสตรองหรอกค่ะ แค่เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิต เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สิ่งที่หนีไม่พ้นไม่ว่าเป็นใคร สถานะไหน จากคนรัก เปลี่ยนสถานะเป็นคนเคยรัก เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง มีคนเคยกล่าวว่า แฟนกันเลิกกันไป ถ้ายังคุยกันได้ แสดงว่ายังรักกันอยู่ หรือไม่เคยรักกันเลย ไม่ใช่หรอก เราแค่โตพอที่จะเข้าใจได้ว่า ความสัมพันธ์มันมีหลายรูปแบบมากกว่านั้น เลิกกันไป จบกันไป ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนที่เลวร้าย ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราตกต่ำ เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง แต่อาจจะด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ไปต่อในฐานะคนรักกันไม่ได้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตัดคนดี ๆ ออกจากชีวิตนะ เรายังอยู่ในวงจรชีวิตกันได้ แม้สถานะความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป ยังหวังดี ยังเป็นห่วงกันได้ แค่ไม่ใช่แบบแฟนน่ะ และที่สำคัญต่างคนต่างมีและรู้ระยะห่างในวงโคจรที่ว่า รู้ว่าเราเป็นห่วงกัน หวังดีต่อกันได้ในลักษณะไหน แค่ไหน รู้ขอบเขต รู้ว่าต้องแสดงออกอย่างไร ไม่ก้าวก่าย ไม่ทำให้อีกฝ่ายอึดอัด อยู่ในสถานะเพื่อน พี่ น้องกันแบบจริงๆ เลิกกันไป ไม่ใช่จะรู้จักกันไม่ได้เลย หากจบกันด้วยดี ไม่ได้มีเรื่องผิลศีลธรรม […]