ชาดา

Advertisement จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตีกลับรายชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ของรัฐบาลแพทองธาร 1 Advertisement โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา 3 ก.ย. 2567 นายชาดา ยืนยันว่า “ผมไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ“ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถามนายชาดา อีกครั้ง ยืนยันว่า ตนได้ถอดรายชื่อออกเอง โดยจะส่ง น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาว มาสานงานต่อ Advertisement ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้ารายชื่อคณะรัฐมนตรีว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่หารือกับทางพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้มีจุดเสี่ยงเรื่องใดบ้างนั้น นายอนุทิน บอกว่า ตอนนี้ทุกอย่างต้องเดินไปข้างหน้า ทราบมาว่า นายกรัฐมนตรี กำลังรวบรวมในขั้นตอนสุดท้าย ที่จะนำรายชื่อของคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน   ข่าวจาก : PPTV Online

19 สิงหาคม ที่อาคารชินวัตร 3 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรึ ได้เดินทางกลับ โดยได้แวะทักทายกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่เดินทางเข้าประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก่อนปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อ โดยไม่ว่าสื่อมวลชนจะสอบถามถึงประเด็นการประชุมหรือการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาไม่ตอบแม้แต่คำถามเดียว ได้แต่ยิ้ม แล้วหันมองไปทางอื่น ก่อนเดินทางกลับออกจากอาคารชินวัตรสาม จากนั้นบรรดาแกนนำพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นางมนพร เจริญศรี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นต้น เพื่อร่วม ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยในเวลา 17.00 น. ซึ่งคาดว่าจะมีการสรุปและหารือถึงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยว่า กรณีที่ยังมีความเห็นต่างในเรื่องคุณสมบัติของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานล่าสุดจากพรรคเพื่อไทยว่า จะหาทางออกโดย ส่งคุณสมบัติให้ฝ่ายกฎหมายคือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้วินิจฉัยคุณสมบัติ หลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีที่แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จนทำให้นายเศรษฐาต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีว่าที่รัฐมนตรีหลายคน เข้าข่ายมีปัญหาเรื่องของคุณสมบัติจึง […]

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 บุกเข้าจับญาติชาดา นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ พร้อมกับพวก หลังรับแจ้งมั่วสุมปาร์ตี้ยาเสพติดในห้องพัก ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งพื้นที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาเสพติด อาวุธปืน และกระสุน ก่อนคุมตัวส่ง สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีต่อไป เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุด นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า นายนรเศรษฐ์ เป็นหลานชายของตนจริง โดย นายชาดา กล่าวอีกว่า คนนี้มันแสบไปทั่วหมด ก็สมควรแล้ว แม้จะเป็นหลานของรัฐมนตรี ตนก็ต้องขอบอกว่าเอาให้เต็มที่เลย ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เต็มที่เลย และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนอยู่แล้ว นอกจากนี้ นายชาดา ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก็เคยตักเตือนว่ากล่าวหลานชายไปตั้งนานแล้ว และไม่ได้เคยเข้าบ้านด้วย เพราะที่ผ่านมาเป็นคนเกเรและมีข่าวเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งตนก็เคยตักเตือนไปแล้วแต่ไม่ฟัง   ข่าวจาก : thainewsonline

วันที่ 11 มิ.ย.2567 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ของวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 บุกเข้าจับกุม นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ พร้อมด้วย นายกิจจา (ขอสงวนนามสกุล), น.ส.วาลิส (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.อัญชลีพร (ขอสงวนนามสกุล) ได้ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 6 ถุง, อาวุธปืน 11 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืน 6 นัด หลังรับแจ้งมั่วสุมเสพยาเสพติดในห้องพักดังกล่าว โดยหนึ่งในผู้ต้องหา นายนรเศรษฐ์ เป็นญาติของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพ่อของ นายชาดา เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของพ่อนายนรเศรษฐ์ ผู้ต้องหา เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 […]

ตำรวจ บก.ปปป. ตำรวจกองปราบ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าจับกุมตัว นายวีระชาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศบาลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ลูกเขย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมพวก ร่วมกันทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อน้ำประปา ตามที่มีการนำเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ ทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 4 แสนบาท ยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน ก่อนพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะมีความเห็นอนุญาตให้กลุ่มผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเห็นว่ามีหน้าที่การงาน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และ ไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งเมื่อสำนวนคดีเสร็จสิ้น เพื่อส่งตัวไปยัง ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป   ข่าวจาก : ข่าวสด

4 ตุลาคม ที่กระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่เดินทางไปพบเด็ก 14 ปี ที่ก่อเหตุยิงกลางห้างสยามพารากอน ว่า ช่วงขณะเกิดเหตุตนอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงเดินทางเข้าไปเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ภายในห้าง ตอนแรกไม่ได้เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพราะมีมารยาท ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจุดเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ เพียงไปอยู่หน้าประตูเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน นายชาดา กล่าวต่อว่า แต่เมื่อเจอกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จึงเชิญตนไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุที่เป็นเด็ก แต่ตนขอไม่เปิดเผยรายละเอียดการพูดคุย เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอยู่ในสำนวนคดี โดยอยากบอกว่าน้องน่าสงสาร แต่ความผิดก็คือความผิด นายชาดา กล่าวชี้แจงภาพถ่ายมือที่อยู่ในลักษณะชูนิ้วโป้งขณะเดินออกจากห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเดินออกจากห้าง และพยายามส่งสัญญาณไปยังสื่อมวลชนที่พยายามจะเรียก เพื่อขอสัมภาษณ์ตนว่าให้รอคนข้างใน เพราะไม่ใช่หน้าที่ตน นายชาดา กล่าวต่อว่า ปกติก็ไม่ใช่คนหิวแสงที่จะมาทำอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ แต่เนื่องจากสื่ออยู่ไกลจากตนมาก จึงยกมือทำสัญลักษณ์ชี้ไปด้านหลัง เพื่อให้รอ ผบ.ตร.มาแถลง จากนั้นตนก็เดินทางกลับมาเลยเพราะหมดหน้าที่แล้ว แต่ภาพที่ปรากฏออกมาเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพียงช็อตเดียว อย่าแปลผิด “จะให้ผมเอาอะไรชี้ อย่ามาใช้เหตุการณ์นิดเดียวทำลายสังคมแบบนี้ ผมบอกแล้ว หน้าไหนที่พูดเรื่องนี้ผมไม่สน ผมมีหน้าที่ผมก็ทำ ผมต้องไป ถ้าผมอยู่บริเวณนั้นแล้วผมไม่ไป ประชาชนด่าผมไหม อย่าเอาสื่อประเภทนิสัยไม่ดีมาเล่นกับผม อย่ามาชกใต้เข็มขัด […]

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์สื่อที่ระบุว่า “หากแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล 6 เดือนไม่สำเร็จก็พร้อมพิจารณาตัวเองนั้น” ว่า ตนขอเรียนชี้แจงว่า จากคำสัมภาษณ์ดังกล่าว เป็นประโยคที่ติดต่อกัน จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตนบอกว่า 6 เดือนจะเริ่มเห็นผล ภาพจะเริ่มชัดขึ้น เพราะ 6 เดือนเริ่มจะเห็นผล เนื่องจากการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเปรียบเสมือนไฟไหม้ฟาง วูบวาบ มาหลายครั้ง แต่ตนไม่ต้องการทำงานแบบนี้ ซึ่งจะต้องมีการใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล ในการตรวจสอบ รวมถึงดูให้เป็นธรรม เช่น ตนขอยกตัวอย่างตามหลักอาชญาวิทยาว่า ในความคิดตัวเองว่า คนไหนถ้าเลิก หรือเลิกจริงๆ แต่ถ้าทำอีกก็จะหนักว่าเดิม 2 เท่า ส่วนใครที่ประพฤติดีเราก็ต้องตอบแทน แต่ถ้าเลวเราก็ต้องจัดการ รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วจากนี้ก็ต้องดูถึงวิธีการทำงาน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้กำชับในที่ประชุม ครม. และได้สั่งการมาที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มาแล้ว และท่านอนุทิน ก็ได้สั่งตนมาอีกทีหนึ่ง ซึ่งตนได้มีกรอบระยะเวลา การทำงานแล้ว ทั้งนี้ตนมองว่านายกรัฐมนตรีที่มาจากนักธุรกิจซึ่งถือเป็นเรื่องดี […]

30 ส.ค.66 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ทุกอย่างต้องอธิบายด้วยหลักของกฎหมาย ซึ่งพรรคตรวจสอบคุณสมบัติในระดับหนึ่ง และทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ก็ตรวจสอบอีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ประชาชนก็ตรวจสอบอีก ดังนั้นอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เราไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน ความรู้สึกของคนมีทั้งชอบ และไม่ชอบ จะเอามาเป็นสาระสำคัญไม่ได้ ต้องดูตามกฎหมาย เมื่อถามว่า ตอนนี้ในโซเชียลมีเดีย มีการวิจารณ์นายชาดา เรื่องของยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน ตนก็ไม่เคยเห็นนายชาดา ทำผิดกฎหมาย หรือทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมใดๆ เวลาอยู่ที่ จ.อุทัยธานี นายชาดา ก็ลงพื้นที่พบชาวบ้าน ทำตัวกลมกลืน และต้องไปถามคนอุทัยธานี ว่านายชาดาเป็นอย่างไร คนมั่นใจว่าคนอุทัยธานี ต้องตอบว่านายชาดาเป็นคนที่ดี รับใช้ประชาชนและเสียสละ ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส่งนายตำรวจไปคุมกระทรวงศึกษาธิการคุมครู นายอนุทิน ย้อนตอบทันทีว่า “พล.ต.อ.ครับ ผ่านตำแหน่งสำคัญมาแล้ว” เมื่อถามย้ำว่า อาจจะไม่มีประสบการณ์ทางด้านของการศึกษา นายอนุทิน […]