ซ่อมทหาร

Advertisement Advertisement

  จากกรณี น้าสาว ของ “พลทหารคชา พะชะ” (หรือเข้ม) อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เผยว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา หลานเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น แต่ไม่แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จนต่อมาญาติได้ทราบว่า มีการซ่อมพลทหารคชา โดยรุ่นพี่ 3 คน ได้ยอมรับว่าซ่อมจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่าน : ธำรงวินัยโหด! รุ่นพี่รุมซ่อมพลทหารปางตาย หัวใจหยุดเต้น แพทย์ยื้อสุดชีวิต อ่าน : ผู้พันแอ่นอกรับ ดูแลลูกน้องไม่ดี! ปมซ้อมพลทหารปางตาย ตั้งกก.สอบ-ไม่ปกปิด อ่าน : สามพลทหารรุ่นพี่ กราบขอขมา ลั่นไม่ตั้งใจ เมียอุ้มท้อง 5 เดือน เผยอาการล่าสุด! อ่าน : พ่อเผยอาการ ‘พลทหารเหยื่อรุ่นพี่ซ่อมโหด!’ ยังวิกฤต ยังคาใจคดี!(คลิป) ล่าสุด ได้รับการยืนยันจากญาติของพลทหารเข้มแล้วว่า พลทหารเข้ม ได้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rejecttime Yok ได้โพสต์ภาพกำลังจับมือกับพลทหารเข้ม พร้อมระบุว่า “เข้มสู้เต็มที่แล้ว​ เข้มจากเราไปแล้วตอนตี5:45​ น้องทำดีที่สุดแล้ว” […]

  พ่อแม่ และภรรยาของ พลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี นำหลักฐานจากแพทย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ให้ดำเนินคดีกับพลหทารรุ่นพี่ 3 นาย ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในค่ายทหารที่ จ.ลพบุรี พ่อผู้บาดเจ็บ เล่าว่า พูดคุยกับพลทหารทั้ง 3 นายแล้ว ทราบว่า วันเกิดเหตุ ลูกชายกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่ห้องพัก จากนั้นพลทหารรุ่นพี่ ทั้ง 3 นาย ได้เรียกลูกไปที่โรงนอนด้านล่าง สั่งให้มีการดันพื้น แต่ระหว่างที่ดันพื้นอยู่ รุ่นพี่ได้ใช้เท้าเตะไปที่เอวคนละที จนลูกชายชัก แต่แทนที่จะช่วยเหลือกลับกระทืบซ้ำ แล้วยังพยายามช่วยกันลากไปทิ้งที่เชิงเขาในป่า โชคดีที่มีเพื่อนพลทหาร มาเห็นจึงแย่งตัวลูกชายมาได้และพาตัวส่งโรงพยาบาล พฤติกรรมเช่นนี้เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย และไม่เชื่อว่าลูกชายจะถูกเตะเพียงแค่ 3 ครั้ง เนื่องจากอาการหนักขนาดนี้ จึงอยากให้ตำรวจ สอบสวนเค้นเอาความจริงมาให้ได้ และจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเพิ่มด้วย ข่าวจาก : ข่าวช่อง 8

  เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค. น.ส.รุ่งฤดี สิหะวงษ์ นายคมฉัน พะชะ แม่และพ่อ พร้อมด้วยภรรยาและญาติๆ ของพลทหารคชา พะชะ หรือเข้ม อายุ 22 ปี ที่ถูกพลทหารรุ่นพี่รุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลอานันทมหิดล ลพบุรี ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์ตู้ของทหาร ร.31 พัน 3 รอ. เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมกับพลทหารทั้ง 3 นายในข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากอาการของพลทหารตอนนี้มีแต่ทรุดลง โดยเมื่อเช้าแพทย์ออกมาระบุว่า พลทหารคชา มีภาวะปอดติดเชื้ออีก ซึ่งทำให้พ่อแม่ ภรรยาและญาติๆ มีความกังวลอย่างมาก เกรงว่าพลทหารจะทนกับความทุกข์ทรมานในการเจ็บป่วยในครั้งนี้ไม่ได้ และขอร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารพาไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี อาทิ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เจ้าพระพระกาฬ และศาลหลักเมืองลพบุรี เพื่อให้พลทหารคชาฟื้นขึ้นมาหาพ่อแม่ภรรยาและพี่น้องที่รอคอยปาฏิหาริย์     ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. ผู้บังคับบัญชาได้นำตัวพลทหารทั้ง 3 นาย ติดโซ่ตรวน เดินทางเข้าพบกับ […]

  “ผบ.ทบ.” แจง พลทหาร สังกัด ร.31 พัน 3 รอ. ไม่ใช่ถูกซ่อม ยืนยัน ระบบซ่อมในค่ายไม่มีแล้ว เผยจะตรวจสอบรายละเอียดให้ ระบุไม่ต้องกังวล หากพบใครผิดก็ต้องดำเนินการทางวินัยและอาญา จากกรณีน้าสาวของพลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เผยว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา หลานเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น แต่ไม่แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จากนั้นช่วงสาย พ่อหลานก็โทร.ไปหานายทหารคนหนึ่งยศพันโทว่า น้องไม่น่าน็อกไปเอง เพราะไม่มีโรคประจำตัว และเป็นคนแข็งแรง อยู่ดีๆ จะน็อกไปได้อย่างไร นายทหารคนดังกล่าวก็ยอมรับกับพ่อของหลานว่ามีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมหลานจริง เขาจับทั้ง 3 คนขังคุกทหารแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เบื้องต้นทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) […]

  14 พ.ค. 2561 สำนักข่าวอิศราเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา กองทัพบก ได้จัดทำหนังสือด่วนมาก ลงนามโดย ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ทำการแทน ผบ.ทบ. ถึงมาตรการเกี่ยวกับการฝึกทหารใหม่ผลัดที่ 1/2561 ดังนี้ 1.ให้หน่วยฝึกทหารใหม่ กำหนดมาตรการควบคุมการฝึกให้เป็นไปตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก โดยวิธีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ดูแลความเป็นอยู่ให้ถูกสุขลักษณะ เสริมด้วยการจัดอาหารเสริม และเกลือแร่ให้เพียงพอ สำหรับการลงทัณฑ์จะต้องเป็นไปตามกฏ ระเบียบ ข้อบังคับที่กระทรวงกลาโหมกำหนดเท่านั้น ห้ามใช้กำลังทำร้ายร่างกาย และการกลั่นแกล้งอันมีลักษณะเป็นการทำลามกอนาจาร หากมีการกระทำเกิดขึ้น กองทัพบกจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดใด โดยจะดำเนินการด้านกำลังพลถึงขั้นปลดออกจากราชการ และจะดำเนินคดีอาญากับกำลังพลที่เกี่ยวข้อง 2.กำหนดมาตรการ ชี้แจงทำความเข้าใจ ห้ามใช้กำลังพลเผยแพร่ภาพนิ่ง หรือวีดีโอคลิป อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร การฝึก การลงทัณฑ์ และการปรับปรุงลักษณะทหารของทหารกองประจำการในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยเด็ดขาด ซึ่งการกระทำดังกล่าว ส่งผลให้กองทัพบกเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้ถือว่ากำลังพลที่กระทำการดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.isranews.org/isranews/65920-isranews-65920.html