ดอกเบี้ยบ้านพุ่ง! หนุ่มแชร์ประสบการณ์ กู้บ้าน13ล้าน ผ่อนจนจบต้องจ่าย33ล้าน แนะวัยสร้างตัวระวังสิ่งต่อไปนี้!

Advertisement หนุ่มคนนี้ได้โพสต์ข้อความว่า เพื่อนของตนซื้อบ้านในราคา 12.9 ล้านบาท และจากเอกสารก่อนปรับดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ที่ดอกเบี้ย MRR 8.350% พบว่า หากเพื่อนผ่อนบ้านโดยที่ไม่โปะเลย จะจ่ายค่าบ้านรวมดอกเบี้ยที่ 33.1 ล้านบาท เท่ากับว่าจะต้องจ่ายค่าบ้านเกือบ 3 เท่าจากราคาบ้านที่กู้มา Advertisement หนุ่มคนนี้ได้ตั้งคำถามว่า ทำแบบนี้ถือว่าธนาคารเอาเปรียบเกินไปหรือไม่ ดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้นแค่ 0.25% แต่ดอกเบี้ยเงินกู้กลับสูงลิบ และมีการยัดเยียดให้พนักงานขายสินค้าประกันชีวิตให้ลูกค้า จึงจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าปกติ ตนมองว่าเป็นการหลอกล่อน่าดู และตนขอฝากไปถึงรัฐบาลชุดต่อไป ให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ประชาชนด้วย ประชาชนได้รับผลกระทบกว้างมาก และจะมีกี่คนในประเทศนี้ที่สามารถซื้อบ้านเงินสด ถ้าไม่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดก็ทุนสีเทาทั้งนั้น ที่มีเงินสด 1,000,0000 ทุกวันนี้คอนโดยังแทบไม่ได้เลย บ้านเดี่ยวหลังเล็ก ๆ ราคาก็ 4-5 ล้านบาทไปแล้ว ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้นขนาดนี้ ประชาชนไม่ต้องใช้ชีวิตหรอก จ่ายเงินแบงก์จ่ายนายทุนหมด มันมากเกินไป ทั้งนี้ เรื่องนี้ได้ถูกแชร์ออกไปนับหมื่นครั้ง และมีคนเข้ามาวิจารณ์เป็นจำนวนมาก พร้อมกับที่เจ้าของโพสต์ได้มาเพิ่มเติมว่า “ตนไม่ได้ต้องการบ่นหรือโวยวาย มันคือการตั้งคำถามจากคนที่ไม่รู้ ตนต้องการพูดถึงดอกเบี้ยลอยตัว ดอกเบี้ยขาขึ้นที่ทำประชาชนต้องรับภาระมาก เพราะตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่มีแบบดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี […]

คนซื้อบ้านเครียดหนัก ดอกเบี้ยพุ่งพรวด ค่าผ่อนพุ่งตาม

เอฟเฟ็กต์การประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับอีก 0.25% ต่อปี จาก ระดับ1.25% เป็นระดับ 1.50% เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ถึงจะขยับในอัตราที่น้อย ส่งผลกระทบไม่มาก แต่ถ้าขยับบ่อยๆ ก็กระอักเลือดเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าบ้านหรือคอนโดมิเนียมในปีนี้ ว่ากันว่าต้องเจอ 2 เด้ง โดยเด้งแรกซื้อในราคาที่แพงขึ้น หลังผู้ประกอบการพาเหรดทยอยปรับขึ้นราคากันมาอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 และในปี 2566 ยังคงปรับขึ้นอีกตลอดทั้งปีนี้ ส่วนเด้งที่ 2 นอกจากจะกู้ได้ไม่เต็ม 100% จากกฎเหล็กของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กลับมาใช้มาตรการ LTV อีกครั้ง ต้องหาเงินก้อนวางดาวน์มากขึ้น ยังต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านเพิ่มตามอัตราดอกเบี้ยที่ขยับขึ้น และต้องผ่อนในระยะเวลาที่ยาวขึ้น เช่น จาก 30 ปี เป็น 40 ปี ก่อนหน้านี้ วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) วิเคราะห์สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์หลังปรับขึ้นดอกเบี้ยว่า การขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้ง ย่อมมีผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ […]

ข่าวดีคนกู้บ้าน! ธอส.ใจป้ำ ตรึงดอกเบี้ยบ้านถึงสิ้นปี!

  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขณะนี้มีทั้งปรับขึ้นและลดลง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและการบริหารของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่ง เช่น ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินมากในระยะข้างหน้า อัตราดอกเบี้ยก็มีทิศทางปรับขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ในส่วนของดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้นนั้น ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งมีการปรับฐานคำนวณ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้กู้รายใหม่ แต่ถ้าหากผู้ขอกู้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป ก็สามารถมาขอกู้กับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เพราะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด “กระทรวงการคลังมีนโยบายให้ ธอส. ต้องดูแลประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยถูกหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาด แต่ธนาคารก็จะต้องอยู่ได้และมีอิสระในการดำเนินการด้วย”นายอภิศักดิ์ กล่าว นอกจากนี้ ธอส. ยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลให้ผู้มีรายได้น้อยทุกคนมีบ้าน ซึ่งมองไปข้างหน้า หากไทยก้าวข้ามเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ราคาที่อยู่อาศัยก็จะปรับเพิ่มขึ้นไปด้วยการจะมีที่อยู่อาศัยจึงเป็นเรื่องยากไปอีก ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังไม่แพงมาก และประชาชนหากอยู่ในวิสัยสามารถกู้ได้ มีรายได้ในการจ่ายค่างวด ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่จะสนับสนุนให้คนกลุ่มนี้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่ง ธอส. อยู่ระหว่างออกแพ็กเกจสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้ผู้กู้มีการผ่อนชำระค่างวดในอัตราใกล้เคียงกับค่าเช่าในปัจจุบัน ซึ่งหากผ่อนจนหมดก็มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนสิ้นสุดไตรมาส 3/2561 ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หากปีนี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี […]

error: