คาเธ่ย์แปซิฟิกปลด พนง.ต้อนรับ เหตุดูถูก ผดส.ที่พูดอังกฤษผิด ป้องกันพิพาทข้ามชาติ

Advertisement บีบีซี รายงานว่า สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก สายการบินแห่งชาติของฮ่องกง แถลงปลดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 3 คน เพราะดูถูกผู้โดยสารที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ Advertisement หลังจากมีคลิปเสียงเผยแพร่ว่าพนักงานต้อนรับแสดงกิริยาไม่ดีกับผู้โดยสาร ขณะเดียวกันสายการบินได้ออกมาขอโทษและกำลังเร่งสอบสวนเป็นการภายใน รายงานระบุว่าผู้โดยสารคนหนึ่งที่เดินทางจากนครเฉิงตูไปยังฮ่องกง เอ่ยขอผ้าห่มจากพนักงานต้อนรับ แต่พูดภาษาอังกฤษผิด ใช้คำว่า “carpet” ที่แปลว่าพรม แทน “blanket” ที่หมายถึงผ้าห่ม ในคลิปเสียงที่ผู้โดยสารบันทึกไว้ มีเสียงหัวเราะและพนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ถ้าพูดคำว่าผ้าห่มเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ก็จะไม่ได้รับนะคะ พรมอยู่บนพื้นค่ะ” เหตุดังกล่าวจุดประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์จีนและผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบางคนเรียกร้องให้คว่ำบาตรสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก ด้านสื่อทางการจีนวิจารณ์ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการดูถูกคนจีนแผ่นดินใหญ่ นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวว่าเหตุการณ์นี้ทำร้ายความรู้สึกของเพื่อนร่วมชาติในฮ่องกงและแผ่นดินใหญ่ ส่วนนายโรนัลด์ หล่ำ ซีอีโอสายการบิน กล่าวขอโทษและว่าจะเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนจริยธรรมของบริษัท Advertisement ทั้งนี้ สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกพยายามสร้างกำไรหลังฮ่องกงยกเลิกระเบียบตามมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ในช่วงการระบาดใหญ่ ซึ่งสายการบินได้รับผลกระทบอย่างหนักจนนำไปสู่การปลดพนักงานจำนวนมากในปี 2563 นายเกรก วัลดรอน ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ FlightGlobal กล่าวว่าสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกต้องพึ่งจีนเพราะเป็นตลาดหลัก มีผู้โดยาสารเดินทางเข้าฮ่องกงและเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงเพื่อเดินทางไปยังต่างประเทศด้วย ที่ผ่านมาแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งเฮชแอนด์เอ็ม ไนกี้ อาดิดาส และพูมา รู้ดีถึงผลกระทบจากแรงต่อต้านจากสื่อสังคมออนไลน์ในจีนจากกรณีความขัดแย้งทางวัฒนธรรมและการเมือง นางหัว ชุนหยิง […]

หนุ่มเรียน ป.เอก หลายปียังไม่จบ ลูกป่วยหนัก รับจ๊อบขี่รถส่งอาหาร ยังโดนดูถูก

25 กันยายน 2565 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยเรื่องราวชีวิตของ เหมิง เหว่ย หนุ่มนักศึกษาปริญญาเอกใจแกร่งจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ในประเทศจีน ที่ต้องเผชิญชะตากรรมราวถูกกลั่นแกล้ง ภายหลังประสบความล้มเหลวในการทำวิทยานิพนธ์ ลูกชายของเขาดันป่วยหนักเป็นโรคหัวใจ ที่รุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต เหมิงไม่ล้มเลิกการไล่ล่าปริญญาเอก แต่เขาตัดสินใจทำงานเสริมพิเศษ ด้วยการเป็นคนขี่รถส่งอาหาร เพื่อหาเงินไปเป็นค่ารักษาให้ลูกชาย และต้องใช้เป็นค่าเล่าเรียน แม้ว่าในสังคมของเขาจะถูกวิจารณ์ว่า ไปทำงานที่ใช้ระดับความรู้ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับการศึกษาของเขา เหมิง กล่าวว่า เขาไม่รู้สึกเสียใจในตัวเอง เพราะงานส่งอาหารช่วยให้เขาสามารถเลี้ยงดูครอบครัว และยังสามารถสานต่อความฝันในการได้รับปริญญาเอกได้ด้วย เหมิง เล่าถึงสถานการณ์ของเขาว่า เขามุ่งมั่นตั้งใจที่จะคว้าปริญญาเอกมาให้ได้ แม้เส้นทางการศึกษาของเขาจะยากลำบากและใช้เวลานาน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เลิกล้มความตั้งใจหรือยอมแพ้ สู้มาตลอด จนมาในปี 2564 เขาต้องทราบข่าวช็อกครั้งใหญ่ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าลูกชายของเขา เผชิญโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นภาวะโรคหัวใจที่หายาก และมักนำไปสู่การเสียชีวิต เขาใจสลาย แต่ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตให้นานที่สุด “ผมไม่มีเงิน การทำงานเป็นคนขับรถส่งอาหารเป็นงานที่เหมาะสม นอกจากจะเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงแล้ว งานนี้ยังช่วยให้ผมคลายความกังวลจากการเรียนด้วย ผมไม่ได้ต่ำต้อยเลย ที่ทำงานนี้” เหมิง กล่าว ภายหลังจากเรื่องราวชีวิตของเหมิงถูกเผยแพร่ไปในสื่ออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก […]

error: