“อนุทิน” อนุโมทนาสาธุ “ทักษิณ” ทุ่มควัก300ล้าน ปรับปรุงโอท็อป

Advertisement เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์การค้า Phoenix ประตูน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Phenix The Best tourist OTOP in Bangkok ที่ศูนย์การค้า Phoenix ประตูน้ำ ซึ่งเปิดพื้นที่การค้าโซนใหม่ OTOP ถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปราศรัยบนเวทีหาเสียงว่า จะใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาท จ้างชาวต่างชาติรื้อระบบโอท็อปใหม่ ว่า อย่างนี้ก็ยิ่งดี Advertisement เมื่อถามย้ำว่า จะได้ไม่เปลืองงบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน จึงย้อมถามว่า แล้วเอาเงินมาจากไหน ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า เป็นเงินส่วนตัวของนายทักษิณ นายอนุทิน ร้องโอ้โห พร้อมกับ ยกมือพนมมือ Advertisement และกล่าวคำว่าอนุโมทนา สาธุ เป็นคุณูปการกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก และคนไทยทุกคน […]

อสส. ไม่รับดำเนินการคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ชี้ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง

19 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่อัยการสูงสุดส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญมีข้อมูลในการสอบถ้อยคำ ทั้งทางฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปแล้ว โดยไม่ได้มีการสอบถ้อยคำ นายทักษิณ ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 อัยการสูงสุดยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของคณะทำงานที่เสนอมายังอัยการสูงสุดก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม แม้อัยการสูงสุดจะมีมติไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะยังมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้.   ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

ครั้งหน้าเพื่อไทยเกิน200เสียง! “วิสุทธิ์” ชี้เพราะ รบ.ทำพืชผลดีขึ้น

17 พ.ย. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปราศรัยบนเวทีหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) อุดรธานี ประเมินว่าเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยได้ไม่ต่ำกว่า 200 เสียงว่า ไม่ใช่แค่เพียงแต่ท่านที่มองแบบนั้น แม้แต่ตนก็มองว่าเกิน 200 เสียงเช่นกัน เพราะขณะนี้รัฐบาลทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรขยับขึ้น เช่น ข้าวหอมมะลิ 12-13 บาท ยางก้อนถ้วย 30 กว่าบาทต่อกิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ 16-17 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีราคาขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนรวมถึงผู้ปลูกยางมีความสุขกันถ้วนหน้า ขณะที่โครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทก็กำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี รวมถึงการเอาจริงเอาจังกับปราบปรามเรื่องยาเสพติด จากปัจจัยเหล่านี้ถามว่าทำไมเราจะไม่ได้เกิน 200 เสียง “ส่วนพวกนักร้องทั้งหลายที่เห็นท่านเคลื่อนไหว แล้วพากันชักดิ้นชักงอ จะต้องหาเรื่องร้องท่านตลอดเวลา ถามว่าจะกลัวท่านทำไม การเมืองคือการแข่งกันว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข มีอยู่มีกิน อะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน มาช่วยกันทำไม่ดีกว่าหรือ บางคนร้องก็เป็นประโยชน์ แต่บางคนร้องเพื่อให้ได้อะไรจากใครหรือทำเพื่อใคร มันไม่เหมาะสมประชาชนดูออก ตอนนี้เห็นหลายคนโดนคดีกันเยอะ ก็ต้องระวัง […]

ทักษิณ โชว์แพ็กเกจรัฐบาล ค่าแรง 400 บาท-ผ่อนบ้านเพียง 4,000 บาทต่อเดือน!

การปราศรัยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปช่วยหาเสียงให้ นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ที่สนามทุ่งศรีเมือง อ.ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังมุ่งขายนโยบายเกี่ยวกับการลดหนี้ครัวเรือนให้ประชาชน โดยได้โชว์แพ็กเกจใหญ่ผ่อนบ้าน 4 พันบาท และค่าแรง 400 บาท โดยย้ำว่า นายกฯ เล่าให้ฟัง และยังพูดเรื่องที่กระทรวงการคลังจะร่วมมือกับแบงก์ชาติในการลดหนี้ส่วนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับตา เพราะก่อนหน้านี้แบงก์ชาติมีท่าทีไม่เห็นด้วยมาตลอด นายทักษิณ กล่าวว่า “นายกฯ เล่าให้ผมฟังว่า ได้ให้สมาคมธนาคารมาร่วมมือกับกระทรวงการคลังและแบงก์ชาติรวบรวมเงินที่ต้องจ่ายให้แบงก์ชาติเพื่อมาแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูสมัยก่อน ปีหนึ่งประมาณ 3 หมื่น 5 พันล้าน แล้วแบงก์สมาคมธนาคารจะเสริมเข้าไปอีก 3 หมื่น 5 พันล้าน เพื่อล้างหนี้ลดหนี้ให้กับหนี้ครัวเรือนประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้พี่น้องเบาบาง โดยเฉพาะหนี้ผ่อนรถ หนี้ผ่อนบ้าน” “และถ้าทำเศรษฐกิจให้ดี ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท และ […]

“อิ๊งค์” ดินเนอร์ชื่นมื่น ไม่แตะ112 ทักษิณไม่ได้ครอบงำ

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่โรงแรมโรสวูด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำหัวหน้า และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า การพูดคุยวันนี้พูดคุยกันหลายเรื่องที่คิดจะทำร่วมกัน รวมถึงการทำงานต่อไป เมื่อถามว่า นายกฯได้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอความร่วมมือไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือในการทำงาน เพราะเป็นนายกฯได้ไม่นาน จึงอยากให้ทุกคนพูดคุยกัน และคิดว่า เรื่องของการสื่อสารสำคัญ ทั้งการสื่อสารกันเองในครม. ในพรรคร่วมและการสื่อสารกับประชาชน โดยลดกำแพงลงเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารซึ่งกันและกัน นอกนั้นการพูดคุยเป็นเรื่องคลายเครียดและเรื่องตลก ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องการนิรโทษกรรม ได้พูดคุยหรือไม่ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกัน และเห็นไม่ตรงกัน เพราะเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกเรื่องสามารถตกลง พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ โดยรายละเอียดเป็นเรื่องเซนซิทีฟ และขอให้เป็นเรื่องของสภาฯว่ากันต่อไป รัฐบาลและสภาแยกกันโดยไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน เมื่อถามว่าทางเรื่องการนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ให้เป็นเรื่องของสภาฯแล้ว จะต้องพรรคร่วมจะต้องเห็นไปในแนวทางเดียวกันหรือให้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน และในการพูดคุยวันนี้หากจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเว้นหมวดหนึ่งและหมวดสอง ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดคุยและเห็นพ้องต้องกันมาตลอด ส่วนเรื่องของการแก้ไขธรรมนูญขอไม่ลงในรายละเอียดให้เป็นเรื่องของรัฐสภาว่ากันไป เมื่อถามย้ำถึงจุดยืนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เราไม่แตะมาตรา 112 […]

ด่วน! นายทะเบียนชี้คดียุบ “เพื่อไทย” มีมูล ปม“ทักษิณ”ครอบงำ

วันนี้ (18 ต.ค.67) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้ นายทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ โดยเห็นว่า คำร้องมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ กรณีดังกล่าวมีผู้ร้องที่ถูกระบุว่า เป็นบุคคลนิรนาม น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 เป็นผู้ยื่นคำร้อง อ้างถึงพฤติการณ์ของ นายทักษิณ ทั้งการที่แกนนำ […]

“อนุทิน” งงใครพูด “จบแล้วครับนาย” แฮปปี้พา “เนวิน” พบ “ทักษิณ”

เมื่อเวลา 12.40 น. 8 ต.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า “ผมก็ไปทานข้าวเย็นที่บ้านอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งผมไปประจำอยู่แล้ว ก็แค่นั้น” เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายเนวินกับนายทักษิณกลับมาชื่นมื่นแล้วหรือใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “มันไม่ได้โกรธอะไรกันเลย ไอ้เรื่องที่บอกว่าโกรธ มันจบแล้วครับนาย ใครก็ไม่รู้ไปพูด ผมอยู่มาตั้ง 10 กว่าปีไม่เคยได้ยินคำนี้ ไกลเกินไป กล้าพูดหรือถามจริงกับคนที่เป็นเจ้านายเรา มันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอก ก็พูดมาไม่รู้กี่ทีก็ยังเอาคำนี้ มันไม่มีอะไรหรอก“ เมื่อถามว่า บรรยากาศวันที่กินข้าวแฮปปี้กันหมดใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ถ้าไม่แฮปปี้ ไม่มั่นใจ ก็คงไม่ชวน เพราะคนที่ชวนคือผม” เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งอะไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เอาไม่คุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คุยได้อย่างไร คนแก้ไขคือพวกผมนั่งอยู่ใน ครม. ต้องคุยกับนายกฯ […]

“ทักษิณ” โว เลือกตั้ง’66 ถ้า “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ลาคลอด ชนะแล้ว

22 ส.ค.67 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามที่ประชาชนตั้งคำถามว่า 17 ปีที่ออกจากประเทศไทยไป และเมื่อปี 2566 ได้กลับมาประเทศไทยในรอบนี้มีเงื่อนไขต้องเป็นตัวประกัน หรือดีลหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีใครมาดีล ไม่มีใครกล้าดีล เพราะตนไม่มีอะไรจะให้มาดีล เพราะเสียเวลา แต่ต้องยอมรับว่าตนรักบ้านเมือง และคิดถึงหลานเวลาที่ไปหา เขากลับ เราก็น้ำตาตกทุกที ซึ่งมีความทุกข์ ที่อยากกลับประเทศตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า และสุดท้ายก็ประสานกับทางรัฐบาล ซึ่งเป็นในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าตนจะเดินทางกลับ เพราะตนไม่มีพาสปอร์ต เขายึดพาสปอร์ตตนไปแล้ว ซึ่งเมื่อมีการประสานมา เขาก็เตรียมการให้ ถือว่าได้รับพระกรุณาธิคุณ เมื่อพูดถึงท่อนนี้ นายทักษิณยกมือไหว้เนื้อหัว ก่อนจะกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งตนสำนึกว่าสิ่งที่เราได้รับ เรามีหน้าที่ต้องตอบแทนทุกอย่างให้บ้านเมือง และมีหน้าที่ที่จะต้องจงรักภักดีต่อไป เป็นสิ่งที่ทำให้ตนได้กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้ง เมื่อถามถึงคำแนะนำต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งชนะพรรคประชาชนได้ นายทักษิณกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นที่ 1 การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หากหัวหน้าพรรคไม่ลาคลอดแล้วเดินหน้าหาเสียงไปเรื่อยๆ ตอนนั้นลาคลอดไป 10 […]

“ทักษิณ” เผย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ถึงผู้เปราะบาง 14.5ล้านคน ก.ย.นี้แน่นอน!

22 ส.ค.67 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าววิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รู้ปัญหาตัวเองหมด แต่ไม่ยอมแก้ปัญหา ซึ่งเมื่อเรารู้ปัญหาแล้วต้องแก้ไขให้ได้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องเตรียมตัวไว้ว่า นายกรัฐมนตรีใหม่ต้องหาเจ้าภาพในแต่ละปัญหา ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าภาพใครจะแก้ ดังนั้น ทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ โดยเรื่องแรกคือการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังคงต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ทั้งหลายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อกล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เท่าที่ทราบคือเรื่องนี้มีคนค้านเยอะ เพราะบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่จริง ๆ แล้วดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ระบบบล็อกเชน ให้กระตุ้นเศรษกิจได้แม่นยำชุ่มฉ่ำทั้งประเทศ แล้วคนไทยจะเข้าใจเทคโนโลยีและให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกนิดรัฐอาจออกบอนด์ขายประชาชนรายย่อย นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า นี่คือสิ่งที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษกิจ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ทางคณะกรรมการฯ เล่าให้ฟังว่า เมื่อมีการตั้งงบปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนกว่าล้าน บวกกับงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้าน รวมเป็น 1.45 แสนล้าน ใช้ในกันยายน 2567 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน […]

เปิดทาง“ประชาธิปัตย์”ร่วมรัฐบาล เพื่อเพิ่มเสถียรภาพรัฐบาล

(20 ส.ค.67) ที่อาคารชินวัตร 3 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โทรหา ว่า “ไม่เคยได้ยินเสียงพลเอกประวิตรเลย เคยได้ยินแต่เสียงที่รอดออกมาจากโทรศัพท์ของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงเป็นคนรอบข้างที่เล่ากันมา” นายทักษิณ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลยังไม่เคยพูดคุยกัน เพราะเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรคการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ใครทำอะไรก็ควรจะต้องรู้ตัวเอง ผู้สื่อข่าวถามว่ามองปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลช้าไปหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ทางรัฐบาลมีคณะกรรมการฯ อยู่ในการแต่งตั้ง และในส่วนของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีการตั้งคณะกรรมการฯ ช่วยกันสกรีนให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด เมื่อถามว่าตอนนี้ทางพรรคพลังประชารัฐ แตกเป็นสองฝ่ายระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มองว่าฝ่ายใดเหมาะสมเข้าร่วมรัฐบาลมากกว่ากัน นายทักษิณ ตอบว่า “ฝ่ายที่ทุ่มเททำงานให้กับรัฐบาลมาตลอด” เมื่อถามว่ากรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะไม่ให้มีตระกูล “วงษ์สุวรรณ“ ในรัฐบาลชุดนี้จริงหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อันนี้ต้องแล้วแต่คณะกรรมการ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าการจะเข้ามาร่วมรัฐบาลควรจะเข้ามาทั้งพรรคหรือไม่ นายทักษิณ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “อยากจะร้องเพลงของ อัสนี-วสันต์ […]

1 2 8
error: