ทุนจีนเหิมเกริม สร้างโรงงาน ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ใครอยู่เบื้องหลัง ?

Advertisement ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ม.9 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา รวมตัวกันมากกว่า 200 ชีวิตถือป้ายเดินคัดค้านไม่เอาโรงงานที่เป็นมลพิษ Advertisement โดยนัดหมายกันเดินจากหมู่บ้านหนองกลางดง ไปยังโรงงานที่กำลังก่อสร้างของกลุ่มทุนต่างชาติ เป็นระยะกว่า 1 กม. พร้อมป้ายผ้าซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และ ภาษาไทย ระบุข้อความว่า “ชาวบ้าน ม.9 เขาหินซ้อน ไม่เอาโรงงานรีไซเคิล โรงหลอม ทุนจีนทุกชนิด เอาอากาศบริสุทธิ์เราคืนมา” จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวได้มีการสร้างโรงงานขึ้น 2 โรงงาน โรงงานแรกได้มีการผลิตแล้ว เนื่องจากได้รับใบอนุญาต ทว่าโรงที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างนั้น ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้าง และไม่มีการทำประชาคม พูดคุยกับชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้ทราบ Advertisement ขณะที่ภายในโรงงาน พบถุงสีขาวขนาดใหญ่กองอยู่มาก มีเม็ดพลาสติกสีดำกองอยู่ด้วย นายวิเชียร จิตสำราญ กำนันตำบลเขาหินซ้อน กล่าวว่า ปัญหาคือมันมีกลิ่นควัน โรงงานที่เขามาสร้างนั้นเขาไม่เคยมาบอกกล่าวกับชาวบ้านและผู้นำเลยว่าจะมาสร้างอะไร แต่ตนไม่สามารถติดต่อใครในโรงงานได้ จากที่ตนไปประชุมเมื่อวันที่ 21 ต.ค. อบต. […]

พาณิชย์เตรียมเชิญอินฟลูฯ ต่างชาติ ช่วยไลฟ์ขายสินค้าไทย ลดขาดดุลจีน

13 ส.ค.67 ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุผ่าน Facebook ว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดมหกรรม Live Commerce ในช่วงเดือนกันยายน โดยให้ Influencer จากต่างประเทศเข้ามาคัดเลือกสินค้าไทย นำไป Live เพื่อขายสินค้าจากประเทศไทยไปยังผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้มีการสำรวจสินค้าไทยซึ่งเป็นที่ต้องการของคนจีนจำนวนกว่า 500 รายการสินค้า เพื่อทำการซื้อขายดึงเม็ดเงินจากการส่งออกสินค้าเข้าสู่ประเทศ โดยมีเป้าหมายครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ไทยขาดดุลการค้าจีน 19,967.5 ล้านดอลลาร์แล้ว นับเป็นการขาดดุลมานานหลายปีติดต่อกัน เนื่องจากจีนเป็นแหล่งนำเข้าลำดับที่ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของการนำเข้ารวม (24.6%) และเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 2 ของไทย ซึ่งในปี 2566 มูลค่าส่งออกไปจีนคิดเป็นสัดส่วน 12% ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การเข้ามาของ Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก […]

‘ทุนจีน’ รุกคืบธุรกิจรถทัวร์-ร้านอาหาร เจ้าของร้านปิดกิจการแล้วกว่า 50% คาดสิ้นปีนี้สาหัส

10 สิงหาคม แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจรถโดยสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและเดินรถ เริ่มเข้ามาเจรจากับผู้ประกอบการไทย โดยสนใจจะขอซื้อกิจการ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจและขยายตลาดมายังประเทศไทย หลังจากผู้ประกอบการไทยหลายรายมีปัญหาธุรกิจที่ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากประสบปัญาขาดทุน รวมถึงมีภาระต้นทุนสูงขึ้น จึงทำให้ไม่มีเงินทุนสำหรับปรับปรุงตัวรถหรือเดินหน้าธุรกิจ หากจะขอกู้เงินจากธนาคารต้องมีกำไร 2 ปีเป็นอย่างน้อย ทางธนาคารถึงจะปล่อยกู้ให้ “ทางจีนเขาสนใจจะนำรถโดยสารที่เป็นรถอีวีมาขยายธุรกิจที่ประเทศไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจรถโดยสารในไทย ไม่ค่อยดีมานานแล้ว และผู้ประกอบการของไทยเอง มีจำนวนมากที่ประสบปัญหา และต้องการจะขายกิจการ ขณะนี้มีรถโดยสารหายไปจากระบบ 50% ” แหล่งข่าว กล่าว ขณะที่น.ส.ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยว่า การเข้ามาของกลุ่มทุนจีน ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของภาคการท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย เนื่องจากทุนจีนที่เข้ามา จะมาทำเองเบ็ดเสร็จ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ มาเที่ยวและมากินอาหารในร้านของคนจีนด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักหลังโควิดคลี่คลาย ” อยากให้ภาครัฐลงมาดูพื้นที่จริงอย่างจริงจังว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งจริงๆธุรกิจร้านอาหาร ต้องสงวนไว้สำหรับคนไทย และจากปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและกำลังซื้อที่หายไป 50% ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการปิดกิจการไปถึง 50% อย่างไรก็ตามแม้จะมีปิดตัวไป แต่ก็มีรายใหม่เข้ามา เพราะธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย และเจ๊งง่ายเช่นกัน […]

ทุนจีนบุกยึดหัวหาด ผุดร้านอาหารหม้อไฟ หมาล่า คลับบาร์

ย่าน “อาร์ซีเอ” (RCA) เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีคนจีนพักอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่แพ้ “รัชดา-พระราม9” โดยเช่าคอนโดมิเนียมที่อยู่โดยรอบพักอาศัย ทำให้ RCA ถนนสายบันเทิงในวันวานระดับตำนาน วันนี้เริ่มเปลี่ยนไป มีภัตตาคาร ร้านอาหาร หม้อไฟ สุกี้ หมาล่า บาร์บีคิว คลับบาร์ ทั้งที่ทำโดยคนไทยและคนจีนเกิดขึ้นตลอดสองฝั่งถนน “อาร์ซีเอคนจีนมาเที่ยวเยอะ เพราะติดกับคอนโดที่ส่วนใหญ่จะเช่าหรือซื้ออยู่ จึงมีร้านอาหารของจีนเปิดอยู่หลายแห่ง” คำบอกเล่าจากคนในพื้นที่ ยังระบุว่าเมื่อก่อนจะมีคนทำงานอยู่มากทั้งบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด (มหาชน) แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว หลังที่ดินหมดสัญญาเช่ากับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้ย้ายออกไป ส่วนที่เห็นเปิดเป็นร้านต่างๆหรือที่กำลังก่อสร้าง เป็นการเช่าระยะสั้นๆ ขณะที่ผับยังเปิดบริการอยู่ เช่น ROUTE66 โอลด์เล้ง ส่วนใหญ่เป็นคนจีนมาเที่ยว ด้านคนไทยก็มีบ้าง สำหรับที่ดิน “RCA” หรือโครงการรอยัล ซิตี้ อเวนิว เนื้อที่ 62 ไร่ มีบริษัท นารายณ์ร่วมพิพัฒน์ จำกัด ของกลุ่มแบงก์กรุงเทพ ได้เช่าที่ดินระยะ […]

รมว.ดีอี แนะเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี แก้ทุนสีเทา หนุนเปิดผับ-บาร์เกินเที่ยงคืน

19 ก.พ. 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาทุนสีเทา ว่า รัฐบาลเอาจริงและจะเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมพรรคพิจารณา เพื่อจัดทำเป็นนโยบายพรรค ด้วยวิธีแก้กฎหมายที่ล้าสมัยหรือขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน ต้องปรับให้ทันสมัยตรงกับหลักสากล ให้ธุรกิจไปได้ โดยเปลี่ยนส่วยมาเป็นภาษี จะทำให้ได้เงินเข้ามาพัฒนาประเทศ ธุรกิจไม่ต้องมีการจ่ายส่วย ไม่มีการคอรัปชั่น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพรรคพปชร.มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานอกจากการปราบปรามอย่างจริงจัง ต้องแก้ไขกฎหมายเปลี่ยนส่วยให้เป็นภาษี สกัดกั้นช่องทางเรียกรับส่วยจากผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างธุรกิจบริการบางประเภท เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น ควรเปิดขายได้มากกว่าเที่ยงคืนเช่นเดียวกับต่างประเทศ แต่ไทยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้เกิดการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยผู้ประกอบการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เปิดบริการเกินเวลา รองรับท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงเกิดทุนสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา “การแก้ไขกฎหมาย เปลี่ยนทุนสีเทาเป็นภาษี ต้องพิจารณาเปิดให้เฉพาะเรื่องที่ประชาชนรับได้ แก้ไขปัญหาทุนสีเทา และนำเงินที่ได้จากธุรกิจ มาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ดูแลสวัสดิการประชาชน ส่วนเรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ ต้องปราบปรามจริงจัง แก้ไขกฎหมายให้โทษหนักขึ้นอีก ซึ่งจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ได้อีกทางหนึ่ง” นายชัยวุฒิ กล่าว   ข่าวจาก […]

“สนามบินเสียมราฐ” จากเงินทุนจีน คืบหน้ากว่าครึ่ง-ลุ้นเปิดปลายปี

ซินหัว รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติในจังหวัดเสียมราฐ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ ประเทศกัมพูชา ว่าเสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 63 แถลงการณ์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่หลังการประชุมประจำปีของคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (Siem Reap Angkor International Airport) โดยนายเตริธ สัมราช เลขาธิการแห่งคณะรัฐมนตรี รายงาระบุว่าท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ ซึ่งเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2563 ลงทุนโดยบริษัท อังกอร์ อินเตอร์เนชันแนล แอร์พอร์ต อินเวสต์เมนต์ (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท ไชน่า อวิ๋นหนาน อินเวสต์เมนต์ โฮลดิงส์ จำกัด ของจีน แถลงการณ์บางส่วนระบุว่า “งานการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่นี้เสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 63 เมื่อนับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และบริษัทมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายร้อยละ 90 ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2566” ด้านนายเตริธกล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการดำเนินโครงการให้ลุล่วง แม้จะเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 พร้อมเสริมว่าท่าอากาศยานแห่งนี้น่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม 2566 ทั้งนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ ครอบคลุมพื้นที่ราว 4,375 ไร่ […]

error: