“เสรีพิศุทธ์” เมินถอนคำพูด ลั่นไม่ต้องเคลียร์ใจ “บิ๊กตู่”

Advertisement เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 21.30 น. ที่หอประชุมใหญ่ บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกเชิญให้ออกจากห้องประชุมสภา ระหว่างที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า  เหตุการณ์ที่เกิดในห้องประชุม สิ่งที่ตนอภิปรายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องถอนคำพูด คุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องพูดว่ารัฐบาลชุดนี้ชอบหรือไม่ชอบ โกงมาหรือไม่ ได้รับการยอมรับจากประชาชนนหรือไม่ เป็นการพูดมาจากเสียงของชาวบ้าน ทั้งนี้ ตนมองว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ถ้าเป็นนายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่ ตนมองว่าท่านชวนเป็นคนที่มีประสบการณ์ และวางตัวเป็นกลางๆ ไม่เหมือนนายพรเพชร ที่ทุกคนก็รู้ดีว่าได้รับตำแหน่งมาจากการแต่งตั้ง Advertisement Advertisement พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายกฯ ประกาศตัดพี่ ตัดน้องนั้นตนก็เสียใจ ที่เสียน้องไปหนึ่งคน หลังการประชุมไม่ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว อนาคตก็ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ใจกันแต่อย่างใด เพราะพล.อ.ประยุทธ์คงชินกับการเป็นทหาร สั่งซ้ายหัน ขวาหัน แต่มาสั่งตนไม่ได้ ข้างหน้า เจอกันข้างนอกจะพูดคุยกันหรือไม่นั้น หากนายกฯ เข้ามายกมือไหว้ก็พร้อมพูดคุย […]

โมโหแล้วนะ!! บิ๊กตู่ฉุน โต้ฝ่ายค้านรัวๆ ขู่คดีความนับพัน ระวังตัวไว้! ด้าน“บิ๊กป้อม”คอยเตือนสติอย่าใจร้อน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนโยบายทางด้านความมั่นคง ว่า ตนให้เกียรติกับทุกคน แต่บางครั้งอาจดูเสียงดังบ้าง เพราะมันกดดันพวกท่านบอกให้ตนรักษากิริยา แต่บางครั้งตนมองไปพวกท่านก็ไม่มีกิริยาให้ตน ทั้งนี้การซื้อยุทโธปกรณ์ ซื้อในสิ่งที่เราใช้ได้และมีประสิทธิภาพ ทำไมตนจะไม่อยากได้ของถูกหรือของดีที่สุด แต่เราก็มีงบประมาณจำกัด ในส่วนเรื่องของการทุจริตหลักฐานมาก็ไปหาหลักฐานมา ไปฟ้องมาคดี เพื่อดำเนินคดี เขามีกรรมการตั้งหลายคณะอย่างที่ซื้อมาไม่ได้ซื้อที่ร้านโชห่วยข้างถนน เรือดำน้ำ 6 ปี จะได้หนึ่งลำใหม่ ที่ซื้อไม่ใช่ซื้อวันนี้แล้วได้พรุ่งนี้ เราต้องส่งทหารไปอยู่กับเขาถึง 3 ปีไปส่งไปอยู่กับเขาถึง 3 ปีตั้งแต่เริ่มต้นผลิตให้ปัญหาระบบเรือ หลักการซื้อต้องบวกการซ่อมบำรุง นั้นคือแพ็คเก็จ

เปิดร่าง 12 นโยบายหลัก 12 ข้อเร่งด่วนของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2”

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลสำหรับนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาจะมีความหนาประมาณ 40 หน้า โดยภายในเล่มนโยบายที่จะแถลงแบ่งเป็นนโยบายหลัก 12 ด้าน ได้แก่ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ การทำนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม การพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม ขณะที่นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่องที่จะต้องทำใน 1 ปีนี้ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม การยกระดับศักยภาพของแรงงาน การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่21 การแก้ไขปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย การสนับสนุนให้มีการศึกษาการรับฟังความเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

1 39 40 41 52
error: