รร.นายร้อยตำรวจสั่งปลด “อาจารย์หนิง” ตั้ง กก.สอบอาจารย์คู่กรณี

Advertisement จากกรณี “คุณหนิง” อาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง เอาผิด ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจชื่อดัง โอยอ้างว่าลักทรัพย์ทั้งทองคำและเงินสดในห้องพัก สูญกว่า 6 ล้านบาท จนศาลมีการออกหมายจับ ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งต่อมาภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจก็ได้เดินทางไปยัง สน.พระโขนง รับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา Advertisement แต่ยังมีการเปิดประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่าง “คุณหนิง” และคู่กรณีซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานอีกคน ซึ่งล่าสุด โรงเรียนนายร้อยตำรวจแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจประพฤติผิดจริยธรรมและการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษ โดยระบุว่าจากกรณีข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประพฤติผิดจริยธรรมและการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) นั้น รร.นรต. ขอแจ้งผลการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2567 เวลา 09.00 น.ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ประชุมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดติดตามผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ตามที่สั่งการไว้เมื่อ 26 ต.ค. 2567 Advertisement โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ 1. ผลการตรวจสอบคุณสมบัติอาจารย์พิเศษราย น.ส.ธณัฏฐาฯ “คุณหนิง” มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ รร.นรต. กำหนดไว้ จึงให้มีการทำคำสั่งถอดถอนจากการเป็นอาจารย์พิเศษทุกรายวิชา โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 2. […]

ตั้ง กก.สอบสวนด่วน! คู่กรณีภรรยาบิ๊ก ตร.ดราม่าแฉขโมยทอง

26 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ต. ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เปิดเผยว่า ทาง พล.ต.ท. เสนิต สำราญสำรวมกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้สั่งการให้ตั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีบุคคลากรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญา และให้สัมภาษณ์สื่อในหลายประเด็น   ขณะนี้ทางคณบดีคณะตำรวจศาสตร์จะเป็นผู้ตรวจสอบว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นอาจารย์พิเศษจริงหรือไม่ ยังสอนอยู่หรือเปล่า และจะตรวจสอบด้วยว่าผู้หญิงรายนี้มีการจดทะเบียนสมรสกับบุคคลากรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจหรือไม่ หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบต่อไป ส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงมีการแต่งเครื่องแบบชุดตำรวจ ก็ต้องตรวจสอบว่าไปแต่งชุดตำรวจในสถานะอะไร เพื่ออะไร ในเมื่อไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจ รวมถึงประเด็นที่ไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก็จะต้องตรวจสอบด้วยทั้งหมด ต้องตอบข้อสงสัยของสังคมให้ได้ สำหรับสามีของหญิงรายนี้ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมฉันชู้สาวกับภรรยานายตำรวจใหญ่ ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด หากเกิดเป็นความเสียหายก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการไปนำเสนอข่าวออกสื่อว่าเป็นบุคลากรของโรงเรียน และในเรื่องที่มีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา คือความเสียหายและผิดจรรยาบรรณ แต่จะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ตรงนั้นจะเป็นผลการดำเนินการขั้นตอนต่อไป ข่าวจาก : ข่าวช่อง 3, amarin tv, ไทยรัฐออนไลน์

ภรรยาบิ๊กโจ๊กได้รับการประกันตัว เตรียมฟ้องเอาผิดคนทำเสียชื่อ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่ สน.พระโขนง พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง ได้ออกมาให้ข้อมูล ภายหลังจากที่ นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ได้เดินทางพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานและร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ออกมาขอความร่วมมือผู้สื่อข่าวให้เว้นทางเดินให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และขอให้ทีมข่าวอยู่ในเขตพื้นที่ที่ร้องขอ คือบริเวณโถงทางเดิน พร้อมกับให้ข้อมูลว่า วันนี้มีการออกหมายจับ 1 หมาย ก็ต้องดำเนินตามกฎหมาย แต่ทางผู้ต้องทางเดินทางมามอบตัวก็ต้องจับตามหมายจับ ซึ่งต้องควบคุมตัวตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนการประกันตัวก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาในการยื่นส่วนจะมีการคัดค้านการประตัวหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับโทษและอยู่ในดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ซึ่งกรณีนี้มีโทษ 1-7 ปี แต่หากพนักงานไม่ให้ประกันตัวก็ต้องชี้แจงเหตุผลเป็นหนังสือให้ได้ว่าเพราะเหตุใดจึงคัดค้านการประกันตัว ส่วนจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่ ก็ต้องดูจากการสอบปากคำว่ามีการเชื่อมโยงกับบุคคลใด ส่วนจะมีการเชิญคนใกล้ชิดของบิ๊กตำรวจมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของนายตำรวจยศใหญ่ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมุ่งไปว่าคดีนั้นคือคดีอะไร และดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้กระทำผิดจะต้องเป็นใคร สำหรับคำให้การของผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้เพราะเป็นสิทธิ์ของผุ็ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยว่า เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี ซึ่งหลังจากมีการปล่อยตัวชั่วคราว ทางเจ้าหน้าที่จะมีการนัดสั่งฟ้องกับอัยการอีกครั้งโดยจะนัดผู้ต้องหาไปเจอกันที่ศาล ก็จะมีการนัดเจอกันที่ศาลอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาในการทำคดีขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ได้ยื่นขอประกันตัว เป็นเงินสด […]

ภรรยาบิ๊กโจ๊กมอบตัว ปฏิเสธไม่ได้ขโมย เตรียมส่งทนายดำเนินคดี

จากกรณีสาวผู้เสียหาย ที่เป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง เอาผิด ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจชื่อดังระดับประเทศ เข้าไปในคอนโด ลักทรัพย์ในห้องพักของเธอ สูญหายไปรวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท และยังได้มีการนำของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้ในห้องที่เกิดเหตุ ในคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนาฬิกาหรูยี่ห้อ ปาเต็ก ฟิลลิปส์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆของผู้ถูกกล่า ต่อมาศาลออกหมายจับ นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานและร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน อ่านเพิ่มเติม : ด่วน! ศาลออกหมายจับ “ศิรินัดดา” ภรรยาบิ๊กโจ๊ก ข้อหาลักทรัพย์-บุกรุก ล่าสุดเวลา 14.40น. ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า ที่สน.พระโขนง นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ได้เดินทางพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานและร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน โดยเมื่อเจ้าตัวมาถึง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องคีย์การ์ดที่นำไปเปิดห้อง ร่วมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสามีของคู่กรณี และประเด็นเรื่องการขโมยของ […]

ด่วน! ศาลออกหมายจับ “ศิรินัดดา” ภรรยาบิ๊กโจ๊ก ข้อหาลักทรัพย์-บุกรุก

จากกรณีสาวผู้เสียหาย ที่เป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง เอาผิด ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจชื่อดังระดับประเทศ เข้าไปในคอนโด ลักทรัพย์ในห้องพักของเธอ สูญหายไปรวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท และยังได้มีการนำของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้ในห้องที่เกิดเหตุ ในคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนาฬิกาหรูยี่ห้อ ปาเต็ก ฟิลลิปส์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆของผู้ถูกกล่าวหาหลายรายการ ล่าสุด 24 ต.ค.67 มติชนออนไลน์เผยรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พนักงานสอบสวน ได้เรียก น.ส.ธณัฏฐา อาจารย์พิเศษโรงเรียนายร้อยตำรวจมาให้ปากคำ รวมทั้งไปเก็บพยานหลักฐาน กรณี แจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กนายพลตำรวจชื่อดังลักทรัพย์ ที่คอนโดฯ ย่านสุขุมวิท 101 ที่สน.พระโขนง ตั้งแต่เวลา 14.00 น.-02.00 น. เป็นเวลา 12 ชั่วโมง รายงานข่าวระบุว่า น.ส.ธณัฏฐา […]

มติบอร์ด ปปง. สั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก “บิ๊กโจ๊ก-ภริยา” 4.8แสนบาท

วันนี้ (6ส.ค.67) ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเอกฉันท์ว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่ามีการนำเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูล ฐาน ไปชำระเบี้ยประกันบางส่วน ตามสัญญาประกันชีวิตของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล และภริยา และต่อมาผู้เอาประกันได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ดังนั้น จึงถือได้ว่าเงินที่ได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ดังกล่าวบางส่วนนั้น เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในการนี้ จึงให้อายัดเงินในบัญชีเงินฝากของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และภริยา รวม 3 รายการ มูลค่าประมาณ 4.8 แสนบาท  ไว้เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ตามมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542     ข่าวจาก แนวหน้าออนไลน์

“เลขาฯ กฤษฎีกา” เผยดูข้อกฎหมาย ปลด “บิ๊กโจ๊ก” ต้องทูลเกล้าฯ หรือไม่

14 พ.ค. 2567 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณี สำนักนายกรัฐมนตรี ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่า จากกรณีที่เป็นข่าว ทางรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน เขาจึงส่งหนังสือมาถามว่า กรณีเช่นนี้ ต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พ้นจากราชการหรือไม่ ซึ่งประเด็นมีเพียงเท่านี้ เมื่อถามถึงขั้นตอนการให้ความคิดเห็นของกฤษฎีกา นายปกรณ์ ระบุว่า ก็ปกติ ก็ดูจากกฎหมายปกติ และดูจากรัฐธรรมนูญ และกฎหมายตำรวจ นำมาดูประกอบกัน เท่านั้นเองไม่มีอะไร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ที่คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เมื่อถามถึงแนวโน้มที่จะต้องนำเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ นายปกรณ์ระบุว่า ตนยังไม่เห็นผลของการวินิจฉัย ขออย่าเพิ่งไปเดาอะไรกันเลย พร้อมยืนยันว่าให้ว่ากันไปตามกฎหมาย   ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

ศาลอาญาอนุมัติ หมายจับ บิ๊กโจ๊ก หลังไม่ไปตามหมายเรียก 3 ครั้ง ข้อหาฟอกเงินคดี BNK Master

2 เม.ย.2567 หลายสื่อรายงานตรงกันว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ อนุมัติหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจ ในฐานความสมคบกันกระทำความผิด ฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5,9,10 ตามที่พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขอศาลในช่วง 14.00 น. ศาลให้เหตุผลว่าคดีมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นความผิด และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวนและศาลมีอำนาจในคดีอาญานี้ ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” เคยส่งหมายเรียกรับทราบข้อหาไปที่บ้านพักของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาก่อนแล้วถึง 3 ครั้ง ในคดีสมคบกันฟอกเงินร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย พลเรือน 1 ราย ที่ถูกออกหมายจับไปก่อนแล้ว เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมทีมทนายความ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ยื่นหนังสือข้อเท็จจริงเพิ่มเติมถึงผู้กำกับการ สน.เตาปูน ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินใดไปถึงบุคคลใกล้ชิดและผู้ใต้บังคับบัญชาและหลักฐานที่พนักงานสอบสวนนำมาดำเนินคดีนี้เป็นเรื่องเดิมที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีต รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ […]

‘บิ๊กโจ๊ก’สั่งถอนวีซ่า 2 นักท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ทำร้าย-แย่งปืน ตร.ภูเก็ต

18 มีนาคม 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก “สุรเชษฐ์ หักพาล” เมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า “วันนี้หลังจากผมได้ทราบเรื่อง “ตำรวจจราจร สภ.ฉลอง ถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย” จึงสั่งผู้การ ตม.6 เพิกถอนวีซ่า 2 ต่างชาติ ดำเนินคดีเฉียบขาด หลังจบคดี ให้สั่งห้ามเข้าประเทศอีก หลังพยายามชิงอาวุธปืนตำรวจ” “จากเหตุการณ์เกิดที่บริเวณริมถนนหน้าร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จว.ภูเก็ต ผู้บาดเจ็บ ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) สภ.ฉลอง (บาดเจ็บบริเวณนิ้วมือและขา) ถูกนำส่ง รพ.ฉลอง เหตุดังกล่าว จนท.ตร. ได้อำนวยความสะดวกจราจรและกวดขันวินัยจราจร ได้มีรถ จยย. จำนวน 2 คัน ขับขี่โดยชายชาวต่างชาติ ขับรถผ่านในลักษณะใช้ความเร็วไม่ใช้ความระมัดระวัง ด.ต.สมศักดิ์ฯ ได้เรียกให้ชายชาวต่างชาติหยุด” “เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ […]

แจ้งข้อหา บิ๊กโจ๊ก ม.157-149 พบเส้นทางการเงินโยงเว็บพนันมินนี่

วันที่ 21 ก.พ. 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มาดูแลในคดีนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองสำนวนคือ สำนวนแรกที่มีผู้ต้องหาจำนวน 61 ราย สำนวนที่ 2 มีผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในนั้น คือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งสำนวนนี้ยังมีผู้ต้องหาเป็นตำรวจทั้งในและนอกราชการด้วย โดยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดตามมาตรา 157 กับ 149 และได้ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว ขณะนี้ตำรวจและ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการหารือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ทำสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากนายตำรวจที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และต้องการให้สำนวนมีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า การที่ตำรวจต้องการนำสำนวนคดีนี้กลับมาดำเนินการเองนั้นเนื่องจากคดีดังกล่าวได้มีการสืบสวนสอบสวนมาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่สมัยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนก่อน อีกทั้งคดีหลักที่มีผู้ต้องหา 61 รายนั้น ยังมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท โดยตำรวจมีพยานหลักฐานว่า เงินจากบัญชีม้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อีกทั้งเงินจากบัญชีม้าดังกล่าวยังเชื่อมโยงไปถึงญาติพี่น้องของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซื้อบ้าน ซื้อรถ […]

1 2 3
error: