“บิ๊กโจ๊ก” ทำบุญเมืองพิษณุโลก ขอให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตร.
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
'อัจฉริยะ'ลั่นให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังถูกแจ้งข้อกล่าวหารับจ้างคัดลอกทะเบียนราษฎร์ จ่อฟ้องกลับ 'บิ๊กโจ๊ก' วันนี้(6ม.ค.62)นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับ TNN24 ช่อง16 ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ออกมายืนยันข้อมูลว่า ทราบตัวตำรวจยศพ.ต.ท. ซึ่งเป็นรองผู้กำกับการสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง เป็นผู้คัดลอกทะเบียนราษฎร์ให้นายอัจฉริยะ ในการเข้าถึงข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล ในลักษณะการรับจ้างคัดลอกข้อมูล ซึ่งในขณะนี้เป็นคดีความอยู่ที่สภ.บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผู้เสียหาย สามารถเข้าร้องทุกข์ต่อศปอส.ตร.ได้และสามารถดำเนินคดีตามความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ได้นั้นนายอัจฉริยะยืนยันว่าไม่เคยมีการรับจ้างคัดลอกข้อมูลทะเบียนราษฎร์แต่อย่างใด ซึ่งพร้อมจะให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่หากมีการแจ้งความดำเนินคดีตามที่พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ให้ข่าว ก็จะมีการฟ้องกลับทันที ส่วนกรณีที่มีการนำหลักฐานว่าเพจเฟซบุ๊กชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเคยโพสต์ข้อความรับจ้างคัดลอกข้อมูลทะเบียนราษฎร์ข้อมูลละ1,000บาท นายอัจฉริยะยอมรับว่าเป็นแอดมินเพจโพสต์เมื่อ5ปีก่อน ซึ่งในขณะนี้ได้ไล่ออกแอดมินเพจคนดังกล่าวไปแล้ว ส่วนกรณีรองผู้กำกับยศพันตำรวจโท ที่ถูกอ้างถึงนั้น ยอมรับว่าเคยรู้จักกันจริง จากการทำคดีช่วยเหลือหญิงสาวตกรถเทรลเลอร์เสียชีวิต ในพื้นที่สภ.บางปะอิน ซึ่งระหว่างนั้นนายอัจฉริยะได้เข้าแจ้งความกับ สภ.บางปะอิน ว่าถูกหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ถูกโพสเฟซบุ๊กต่อว่า และได้เข้าให้ข้อมูลกับรองผู้กำกับสืบสวน ถึงผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2561 ซึ่งหากมีการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้ต้องสงสัย นายอัจฉริยะมองว่า เป็นเรื่องปกติในการสืบสวนสอบสวน หลังจากนั้นต้นเดือนธันวาคม2561 คู่กรณี ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่เดิม […]
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตแห่แชร์และให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเพจ สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของท่านเนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาเป็นวันพ่อแห่งชาติ โดยได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า… เรื่องเล่าของพ่อผม พ่อของผม ดาบตำรวจไสว หักพาล ข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตของผม ตั้งแต่เล็กจนโต ครอบครัวเราเป็นชาวบ้านฐานะธรรมดา ๆทั่วไป ใช้ชีวิตง่ายๆในอำเภอเล็กๆของจังหวัดสงขลา แต่ความไม่ธรรมดาของพ่อผม ก็คือ คำสั่งสอน การปลูกฝัง ให้ผมเติมโตขึ้นมาทำประโยชน์เพื่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม พ่อตั้งความหวังให้ผมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเพื่อเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผมเดินตามเส้นทางที่พ่อแนะนำเพราะอยากให้พ่อภาคภูมิใจ ผมอ่านหนังสือสอบเอง และมีพ่อติวเสริมให้ จนสอบติดเตรียมทหาร โดยไม่ต้องเสียเงินเข้าโรงเรียนกวดวิชา ภูมิใจที่สุดคือการเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารได้ตามความฝันของพ่อ จำได้ว่าวันแรกขึ้นมารายงานตัวเข้าเรียน เราสองพ่อลูกอาศัยเช่าโรงแรมเล็กๆมีพัดลมเพดาน ราคาคืนละไม่กี่ร้อยบาทพักนอน พ่อมีรถเก๋งคันเก่าๆ ขับตระเวนพาผมไปทำธุระเรื่องเรียน ด้วยความที่บ้านเราไม่ได้มีฐานะ พ่อผมจึงต้องประหยัดเงิน อดออมเพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของผม และส่งเสริมให้ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อเชื่อว่า กีฬา ทำให้เรารู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เมื่อแพ้ต้องยอมรับความจริง กลับไปซ้อมให้หนักแล้วมาสู้ใหม่อยู่ในกติกา ครั้งหนึ่งพ่อผมเคยป่วยหนักถึงขั้นหยุดหายใจ ผมร้องวอนขอให้หมอช่วยปั้มหัวใจพ่อขึ้นมา ผมรู้ตัวว่าผมไม่สามารถยอมรับได้ ที่ผ่านมาชีวิตข้าราชการของผมไม่ได้ราบรื่นสวยหรูเหมือนที่ใครๆเห็น มีอุปสรรคปัญหาอีกมากที่ผมต้องยืนหยัดพิสูจน์ตัวเองโดยมีพ่อคอยให้กำลังใจเคียงข้าง […]