ประชุมสภา

Advertisement เตรียมเฮ!! กมธ.งบ 65 เผย “ข่าวดี” สภากาชาดเจรจานำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดส เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 แถลงผลการประชุมกมธ. ว่า ในการประชุมกมธ. วานนี้ (14 กรกฎาคม) เป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข Advertisement   ซึ่งกมธ.ได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเรื่องราคาวัคซีนโควิด แต่หน่วยงานผู้รับผิดชอบปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยบอกว่าเรื่องสัญญาจัดซื้อวัคซีนเป็นสิ่งที่ห้ามเปิดเผย ทำให้กมธ.ลำบากใจ เนื่องจากไม่ทราบราคาวัคซีนที่แท้จริงในแต่ละยี่ห้อ Advertisement ขณะเดียวกันกมธ.ได้สอบถามสภากาชาดไทย ในฐานะ 1 ใน 5 หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจในการเจรจาจัดซื้อวัคซีนว่า มีโอกาสหรือไม่ที่สภากาชาดไทยจะเป็นผู้เจรจาจัดซื้อวัคซีนทางเลือกโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ได้รับการชี้แจงจากนายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ว่า สภากาชาดไทยได้เจรจาการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา กับบริษัทผู้ผลิตเรียบร้อยแล้ว จำนวน […]

‘ศิริกัญญา’ กังขางบกระทรวงต่างประเทศ ซื้อรถหรู-ผ้าม่าน-ซ่อมสนามเทนนิส กว่า 50 ล้าน จี้ตอบปมงดออกเสียงสหประชาชาติห้ามขายอาวุธให้เมียนมา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ปี กล่าวถึงกรณีความสมเหตุสมผลของการใช้งบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เห็นใจที่ตัวแทนได้ชี้แจงว่าปีนี้มีการปรับลดงบประมาณลง แต่ยืนยันว่ายังมีเรื่องเชิงโครงสร้างที่เป็นปัญหาทางงบประมาณ อย่างหลักเกณฑ์การตั้งสถานทูต เช่น ประเทศออสเตรเลียที่ดูแลคนไทยถึง 100,856 คน แต่มีสถานทูตเพียง 2 แห่ง คือ สถานกงสุลใหญ่ที่ซิดนีย์ และสถานเอกอัครราชทูตที่แคนเบอร์ร่า ขณะที่ในประเทศเยอรมันที่ดูแลชีวิตประชาชน 59,130 คน แต่มีสถานทูตถึง 3 แห่ง คือ สถานเอกอัตราชทูตที่เบอร์ลิน สถานกงสุลใหญ่ที่แฟรงเฟิร์ตและมิวนิค ซึ่งมีระยะห่างกันเพียง 400 กม. เท่านั้น ในขณะที่สถานทูตที่ออสเตรเลีย บางพื้นที่ เช่น จากเพิร์ทไปแคนเบอร์ร่า ระยะทางห่างกัน 3,700 กม. น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังต้องตั้งคำถามถึงการจัดซื้อของกระทรวงการต่างประเทศ […]

‘ประยุทธ์’ แซะใคร? ดูแลงบทุกจังหวัด ใครเลือกไม่เลือกให้หมด โวให้มากกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ ฟาด ส.ส.พรรคร่วมในสภามีไมค์ ทำให้เห็นองค์ลงเป็นธรรมดา เมื่อเวลา 13.17 น. วันที่ 2 มิ.ย.64 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวันนี้ ว่า ตนก็มั่นใจว่าเป็นไปได้ด้วยดี เพราะในเรื่องของพ.ร.บ.จะผ่านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อีก 2 ครั้ง แต่ข้อสำคัญจะมีความแตกต่างคือในสมัยเราที่เราทำมาคืองบประมาณที่มีการแปรญัตติแล้ว ถ้าไม่ผ่านก็จะกลับมาสู่ฝ่ายบริหารอีกครั้ง เพื่อที่จะพิจารณาโครงการที่ยังไม่ได้งบประมาณ งบประมาณใหม่หรือเพิ่มงบในหน่วยงานต่างๆ ฉะนั้นการบริหารเงินงบประมาณไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่หลายคนพูด ที่สำคัญงบประมาณไม่ได้กลับมาแล้วนำกลับไปทำโครงการใหม่ของใครก็ได้ เมื่อถามว่าไม่น้อยใจใช่หรือไม่ ที่พรรคร่วมรัฐบาลอภิปรายในลักษณะที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เฉยๆ เป็นธรรมดาที่ส.ส.เขาอยากให้พื้นที่เขา ใครอยากให้ใครได้ประโยชน์ก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่ตนก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ซึ่งจะเห็นว่าทุกจังหวัดตนดูแลและอาจจะดูแลมากกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำไป ใครจะเลือกไม่เลือกตนก็ให้หมดแต่มากน้อยก็ตามศักยภาพของเขา พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ยังแน่นแฟ้นดีอยู่มีการพูดคุยกันตลอด ทั้งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนอกครม. ทำความเข้าใจกัน […]

นายกรัฐมนตรี ย้ำงบกลาโหมจัดหาอาวุธจำเป็นสำหรับป้องกันภัยคุกคามและจัดสรรเพียง 1 ใน 3 ของความต้องการ พร้อมแจงค่าใช้จ่ายจัดซื้อวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ถึงเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ ของกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ไม่ต้องการให้มีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะต้องประเมินคือ ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะมีเหตุการณ์สู้รบหรือไม่ หรือความจำเป็นในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบภายในประเทศหรือไม่ ซึ่งเป็นภารกิจของรัฐบาลที่จะต้องดูแล และรัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ รถยานเกราะ เพื่อเตรียมไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ที่จะต้องดูแลให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยและเป็นการจัดซื้อจัดหาเพียงจำนวน 1ใน 3 ของความต้องการทั้งหมด ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงค่าใช้จ่ายการจัดซื้อวัคซีนโควิด 19 ในปี 2563 และปี 2564 รวมทั้งสิ้น 21,134 ล้านบาท และโดยใช้งบกลาง 11,346 ล้านบาท จากงบเงินกู้ 9,877 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแค่จะใช้งบประมาณของกระทรวงเท่านั้น และการพิจารณาใช้งบกลางไม่สามารถตัดสินใจเองได้ แต่จะต้องขออนุมัติและมีกระบวนการตรวจสอบจากองค์กรภายในของรัฐบาลและองค์กรภายนอก ทั้ง สตง.-ป.ป.ท.-ป.ป.ช. ยืนยันไม่เคยถูกละเว้นการตรวจสอบ และสามารถชี้แจงได้ว่า ทำตามกติกากฏหมาย ขณะเดียวกันยืนยันรัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งการพัฒนาวิจัยภายในประเทศ ซึ่งในปี […]

ประกาศผ่อนผัน ช่วงอภิปราย-แสดงความเห็นในที่ประชุม ไม่ต้องใส่แมสก์ ชี้สวมหน้ากากอาจไม่สะดวกและเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ในการประชุม แต่มีเงื่อนไขต้องปฏิบัติตาม เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23) โดยสรุปว่า จากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่ผ่านมารัฐบาลกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดมาระยะหนึ่งแล้ว จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการควบคุมบางกรณี ประกอบด้วย ข้อ 1 ข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ การจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้ำร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่ายที่ดำเนินการ ในกรณีที่กลุ่มบุคคลที่จำเป็นต้องเข้าประชุมอยู่ในสถานที่หนึ่งที่ใดเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่องหลายชั่วโมง   ซึ่งการสวมหน้ากากอาจไม่สะดวกและเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ในการประชุม หากการประชุมกำหนดมาตรการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรค เว้นระยะห่างในการประชุม ให้ผู้เข้าประชุมสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งแสดงใบรับรองผลการตรวจไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อ โดยให้ผู้ควบคุมการประชุมกำหนดให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องสวมหน้าตลอดการประชุม แต่อาจผ่อนผันเฉพาะช่วงอภิปรายหรือแสดงความเห็นในที่ประชุมได้ตามความเหมาะสมแห่งสภาพการณ์และความสมควรแก่เหตุ