ครูปุ๊กขอโทษ เอาเข็มกลัดทิ่มปากนักเรียน 36 คน

Advertisement (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ นางสาววัชรียา หรือ ครูปุ๊ก อายุ 50 ปี พร้อมด้วย นางสาวธัญญภัสร์ หรือ ครูจ๋า อายุ 27 ปี ได้เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และ พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อเข้าให้ปากคำ หลังจากที่ถูกออกหมายเรียกตัวให้เข้าพบพนักงานสอบสวน จากกรณีที่ก่อเหตุใช้เข็มกลัดทิ่มริมฝีปากของนักเรียนชั้น ป. 2 Advertisement พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ข้อเท็จจริงไปเป็นตามที่ข่าวนำเสนอ จากการสอบปากคำ ครูสารภาพ ยอมรับผิด และขอโทษ แต่เจตนา เพื่อให้นักเรียนรู้จักยอมรับผิด แต่วิธีการไม่ถูกต้องเกินเลย จากนี้ จะต้องว่าไปตามกฎหมาย มีเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ บางส่วนสอบสวนแล้ว ขณะนี้ รอผลแพทย์ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา หากพบครูประจำชั้น มีส่วนด้วยก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ขณะที่ […]

ผู้ปกครองโวย ครูใช้เข็มจิ้มปากเด็ก 36 คน เหตุคายหมากฝรั่งในห้อง

25 ม.ค. 67 ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ป.2 วัย 7 ขวบ โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ พลวัฒน์ สิริสุขดาโรจน์ รองสาราวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ และร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังจากที่ลูกชายและเพื่อนรวม 36 คน ถูกครูผู้หญิงลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากยกชั้นเรียน โดยน้าของเด็กชายเล่าว่า เมื่อวานเย็นหลังหลานกลับมาจากโรงเรียน เล่าให้ฟังว่า ถูกครูลงโทษโดยการใช้เข็มจิ้มปาก เนื่องจากเพื่อนกินหมากฝรั่งกันในห้องแล้วคายทิ้งไม่เป็นที่ ครูเข้ามาในห้องเรียนแล้วเหยียบฝรั่ง จึงถามใครเป็นคนกินหมากฝรั่ง แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ ครูจึงจับเด็กนักเรียนนั่งเรียงกัน แล้วจุดธูปให้นักเรียนสาบานก่อนเอาเข็มทิ่มปากเด็กทุกคนจนเป็นแผล ตนได้ฟังก็ตกใจ ทำไมถึงต้องทำเด็กขนาดนี้ ตนจึงติดต่อไปยังโรงเรียน ทางโรงเรียนก็บอกเพียงว่า ให้ผู้ปกครองใจเย็นๆ ให้รอ 3 วัน หากผู้ปกครองไม่สบายใจจะพาเด็กนักเรียนไปตรวจหาโรค หลังจากนี้ตนพร้อมผู้ปกครองคนอื่นๆ จะเดินทางไปติดตามเรื่องที่โรงเรียนและเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ขณะที่ในไลน์ผู้ปกครอง เริ่มมีผู้ปกครองส่งไลน์ตำหนิครูผู้ก่อเหตุและทางโรงเรียน เพื่อถามหาความรับชอบ หวั่นลูกหลานที่ถูกลงโทษจะติดโรคติดต่อเพราะใช้เข็มเล่มเดียวกันทิ่มปากเด็กจนเป็นแผลทั้ง 36 คน เบื้องต้นทางผู้ปกครองทราบจาก ผอ.โรงเรียนว่า ได้สั่งการให้ครูผู้ก่อเหตุหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวไปแล้ว   ข่าวจาก : thethaiger

ครูสั่งการบ้านนับข้าวสาร 10,000 เมล็ด

เว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยเรื่องราวของ พ่อแม่รายหนึ่งในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน จนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้พูดถึง ความไม่พอใจที่คุณครูสั่งการบ้านให้ลูกชายวัยประถม นับข้าวสาร 10,000 เมล็ด แล้วส่งให้ โดยผู้ปกครองของเด็กรายนี้ ได้ตั้งกระทู้ถามถึงการสอนของคุณครู ที่มอบหมายการบ้านแบบไม่สมเหตุสมผล โดยกำหนดให้นักเรียนต้องนับข้าวสาร 10,000 เมล็ด และนำมาส่งให้กับครูในวัยรุ่งขึ้น โดยผู้ปกครองรายนี้ได้เล้าว่า ลูกชายกลับมาเล่าให้ฟัง ว่าครูสั่งให้นับข้าวสาร 10,000 เม็ดไปส่ง ครอบครัวจึงได้ไปซื้อข้าวสาร ก่อนที่ช่วยกันนั่งนับจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งทำให้กระทบต่อเวลาพักผ่อนของทั้งครอบครัว ผู้ปกครองจึงเกิดความไม่พอใจ ตัดสินใจร้องเรียนต่อคณะกรรมการของโรงเรียนเรื่องวิธีการสอนของคุณครู รวมถึงตั้งคำถามถึงความสามารถด้านการสอนของครูอีกด้วย ต่อมา ทางด้านคุณครูผู้ให้การบ้านได้อธิบายว่า จริงๆแล้วการบ้านที่ได้ให้ไปนี้ไม่ได้ให้นักเรียนนับข้าวสาร แต่ต้องการให้นักเรียนและผู้ปกครอง ช่วยกันระดมความคิดเพื่อหาวิธีนับข้าวสาร 10,000 เมล็ด ให้ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และเพิ่มทักษะความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยกตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองสามารถช่วยลูกทำการบ้านได้ ด้วยการนับข้าว 200 เมล็ด นำมาชั่งน้ำหนัก จากนั้นก็นำข้าวสารที่เหลือมาชั่งให้ได้น้ำหนักเท่ากัน แยกข้าวมาชั่งสัก 50 ครั้ง ก็จะได้ข้าวสาร 10,000 […]

น้ำตาแห่งความอัดอั้น อยากเรียนสายวิชาที่ชอบ แต่ที่บ้านให้เรียนอีกสาย

ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี onanong.2007 ได้แชร์คลิปสุดบีบหัวใจ ของเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง ที่ไม่สามารถเรียนต่อในสายวิชาที่ตัวเองต้องการได้ เพราะพ่อแม่ต้องการให้ไปเรียนในอีกสายวิชา พร้อมบรรยายคลิปว่า “ชีวิต ม.3 พ่อแม่บังคับ”   โดยในคลิปจะเห็นได้ว่านักเรียนหญิงคนหนึ่งกอดเพื่อนและร้องไห้อย่างหนักมาก พร้อมตัดพ้อชีวิตกับเพื่อนๆ ซึ่งในคลิปยังได้บรรยายเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “กับอนาคตของเด็กคนหนึ่ง ที่อยากเรียนต่อสายที่ตัวเองชอบ มันไม่ได้” นอกจากนั้นในคลิปก็ยังได้ยินเสียงของนักเรียนหญิงที่ร้องไห้พูดอีกด้วยว่า “เขาหาว่ากูจะไปหาผู้ชาย” หลังจากที่คลิปดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์กันอย่างมากมาย โดยมีผู้ที่เข้ามารับชมคลิปมากกว่า 1.7 ล้านครั้ง รวมไปถึงยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาให้กำลังใจน้องนักเรียนกันอย่างล้นหลาม ข่าวจาก : sanook

ผู้ปกครองสุดทน อาหารกลางวันโรงเรียนในนททบุรี เน้นเส้นมาม่า-ขนมปี๊บ

23 ส.ค. 65 ผู้ปกครองโรงเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาแห่งหนึ่งในอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี ร้องเรียนอยากให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนในโรงเรียน เนื่องจากอาหารกลางวันได้รับประทานแต่อาหารจำพวกมาม่าเป็นหลัก วันเว้นวันพร้อมกับขนมปี๊บเพียงไม่กี่ชิ้น ทำให้เด็กนักเรียนรับประทานอาหารไม่อิ่มท้องต้องนำเงินค่าขนมส่วนตัวไปซื้อของกินเพิ่มในสหกรณ์ที่มีครูเป็นผู้ขายเพิ่มในแต่ละวัน ผู้ปกครองรายนี้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบุตรหลานมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินค่าขนมที่ได้รับไปโรงเรียนผิดปกติไป จึงได้สอบถามดูทราบว่า อาหารกลางวันที่โรงเรียนกินไม่อิ่ม กินไม่พอ ได้มานิดเดียวกับขนมในปี๊บเพียงไม่กี่ชิ้น ทำให้ต้องเอาเงินค่าขนมไปซื้อขนมมากินเพิ่มเติมจากร้านสหกรณ์ที่มีครูเอามาขาย นอกจากนี้อาหารมื้อหลักส่วนใหญ่จะเป็นเส้นมาม่าต้มเป็นหลักแทบจะวันเว้นวัน บางครั้งวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารต้มจืดอื่น ๆ ก็มีกลิ่นตุ ๆ เนื่องจากมีซื้อวัตถุดิบเหล่านั้นมาเก็บแช่ไว้นาน เด็ก ๆ จึงเรียกกันว่าต้มจืดวิญญาณไก่ ต้มจืดวิญญาณเต้าหู้ หรือบางครั้งก๋วยจั๊บก็มีเส้นกับน้ำและเนื้อไก่เพียง 2 ชิ้น ไม่มีเครื่องเคียงอย่างอื่น บางครั้งก็นำเอาลูกชิ้นซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่น่าจะกินได้แล้วเป็นยางเหนียวใส ๆ มาลวกน้ำร้อนทำกับข้าวให้เด็กนักเรียนกิน ทำให้ผู้ปกครองสงสัยเรื่องการบริหารงบค่าอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งนี้ว่าจะมีความไม่โปร่งใส เพราะอาหารที่เด็กนักเรียนได้รับในแต่วัน นอกจากจะไม่เพียงพอแล้วยังไม่ครบโภชนาการตามหลักอาหารทั้ง 5 หมู่ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้อีกด้วย ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ปกครองได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.แล้ว แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้า ทุกวันนี้เด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ยังคงต้องรับประทานอาหารด้อยค่าเหล่านี้ จึงร้องเรียนกับทางสื่อให้ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ทุกวันนี้จำเป็นต้องเพิ่มเงินค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียนเพิ่มเติม เนื่องจากเกรงว่าลูกจะหิวและได้กินอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ตนเห็นใจผู้ปกครองคนอื่น ๆ ที่หากมีฐานะไม่ดีแล้วจะต้องมีรายจ่ายเพิ่มเติมให้เงินลูกไปโรงเรียนก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเช่นกัน   ข่าวจาก : ข่าวสด

เดือด ! ครูอนุบาลบอกผู้ปกครอง เด็กร้องไห้ก็ไม่ต้องเอามาเรียน ทำเพื่อนเสียสมาธิ

ครูอนุบาลบอกผู้ปกครอง เด็กร้องไห้ก็ไม่ต้องมาเรียน ทำเพื่อนเสียสมาธิ ทั้งที่เพิ่งไปโรงเรียนครั้งแรก งานนี้โซเชียลจวกยับ เรียนจบอะไรมา พฤติกรรมแบบนี้กล้าเรียกตัวเองว่าครูเหรอ ขณะนี้ (1 ธันวาคม 2564) โลกโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์ภาพการพูดคุยกันในแชตไลน์กลุ่มผู้ปกครองเด็กอนุบาล 1 โดยคุณครูได้พิมพ์เข้ามาในกลุ่มว่า น้องร้องยังไม่หยุดเลยค่ะ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาก็ได้นะคะสำหรับคนที่ร้อง เมื่อผู้ปกครองถามว่าแล้วให้ไปได้อีกวันไหน ครูก็ตอบกลับว่า ถ้าน้องมาแล้วร้องไม่ต้องมาค่ะ ทำให้เพื่อนไม่มีสมาธิไปด้วย ทางผู้ปกครองเลยตอบกลับว่า คือไม่ต้องไปเรียนแล้วใช่มั้ยคะ น้องคงยังไม่ได้ปรับตัว ครูก็บอกว่า ค่ะ ทำงานที่บ้านได้ค่ะ เด็กเข้าใหม่ยังไม่ร้องเลยค่ะ ผู้ปกครองสอนเองที่บ้านนะคะ แต่สนใจเรื่องรับงานให้ลูกหน่อยค่ะ เด็กไม่พร้อมครูไม่บังคับค่ะ ทั้งนี้ภายหลังจากที่มีการแชร์โพสต์ดังกล่าว ชาวโซเชียลได้เข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ครูคนดังกล่าวกันอย่างดุเดือด โดยบอกว่า พฤติกรรมคำพูดต่าง ๆ ไม่เหมาะสมกับการเรียกตัวเองว่าครูเลย เด็กไม่ได้เหมือนกันทุกคน ยิ่งไปโรงเรียนวันแรกยิ่งร้องไห้หนักไม่แปลก   ข่าวจาก : kapook

อุทาหรณ์ผู้ปกครอง! แค่พริบตาเด็ก11ขวบตกท่อระบายน้ำ ร่างโดนพลัดไปไกลจนโผล่อีกที่

  อีกหนึ่งคลิปเตือนภัยสำหรับผู้ที่ใช้ถนน หรือมีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงฤดูฝน กับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเรียกว่าช็อกคนที่พบเห็นไปตามๆกัน หลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เด็กคนหนึ่งเดินอยู่ดีๆก่อนจะวูบหายไปดื้อๆ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองฉูโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ภาพจากกล้องเผยให้เห็นเด็กอายุ 11 ขวบ กำลังเดินกางร่ม ทว่าไม่ทันได้ระวังจึงผลัดตกท่อระบายน้ำเล็กๆริมถนน ที่มีน้ำไหลเชี่ยวและร่างเด็กน้อยไหลตามท่อระบายน้ำไปอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองที่เห็นเหตุการณ์ พยายามลงรถมาช่วยดึงเด็กน้อยขึ้นมา ทว่าด้วยกระแสน้ำในท่อระบายน้ำที่ค่อนข้างแรง กอปรกับฝนตกหนัก ทำให้ไม่สามารถช่วยได้ตามที่หวัง ร่างเด็กน้อยถูกน้ำในท่อระบายน้ำพัดไหลจมใต้ดินไปอีกหลายเมตร จนพลเมืองดีที่มาช่วยตัดสินใจวิ่งไปดักตามทางน้ำจนสามารถพาร่างเด็กวัย 11 ขวบ ขึ้นจากท่อระบายน้ำมาได้ แต่ตอนนั้นเด็กน้อยคนดังกล่าวหมดสิติจากการสำลักน้ำไปแล้ว เรียกว่าคลิปนี้น่าจะช่วยเตือนภัยบรรดาผู้ปกครองที่มีบุตรหลานได้ไม่มากก็น้อย คลิปจาก : Shanghaiist    

error: