มาเลเซีย

กลายเป็นเรื่องราวสุดไวรัลในประเทศมาเลเซีย เมื่อเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ใช้เงินค่าขนมที่ได้ไปโรงเรียนเล่นพนันกับเพื่อนเพื่อเก็บเงินซื้อกระเป๋านักเรียนใบใหม่ หลังแม่ไม่ยอมซื้อให้ โดยคุณแม่เล่าว่าลูกสาววัย 8 ขวบ เรียนอยู่ในโรงเรียนชั้นประถม มีวันหนึ่งพาลูกไปเดินห้างฯ แล้วลูกเห็นกระเป๋านักเรียนใบหนึ่งแล้วอยากได้ เพราะจะได้ใส่เหมือนกับเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งกระเป๋าใบดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 899 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 7,000 บาท) เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมและแม่มองว่าราคามันสูงเกินไปสำหรับเด็กวัยประถมเลยไม่ซื้อให้ ไม่นานหลังจากนั้น ลูกสาววัย 8 ขวบก็กลับบ้านมาพร้อมกับเอาเงินจำนวน 1,550 ริงกิตมาเลเซีย (12,000 บาท) มาให้ ทำเอาคุณแม่ตกใจมาก เพราะเธอให้เงินค่าขนมลูกแค่ 50 ริงกิตต่อสัปดาห์ (380 บาท) แล้วลูกจะมีเงินขนาดนี้ได้ไง หลังจากกลับมาถึงบ้านและยืนยันกับสามีว่าเขาไม่ได้ให้เงินกับลูกสาว แม่ก็เค้นลูกสาวสอบถามที่มาที่ไปของเงินก้อนนี้ เด็กหญิงเล่าว่าในช่วงพักเที่ยงที่โรงเรียน เพื่อน ๆ ชวนกันเล่น “เกมทอยลูกเต๋า” แล้วก็วางเดิมพันกันด้วยเงินค่าขนม กลายเป็นว่าเด็กหญิงเอาเงินทั้งอาทิตย์ไปลงเดิมพัน จนได้เงินกลับมาเป็นจำนวนมาก “ลูกสาวของฉันตื่นเต้นมากและเล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับการหาเงินในโรงเรียนให้ฟัง ฉันรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่แน่ใจว่าควรดีใจหรือเสียใจดี” สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมถึงได้เงินขนาดนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าหนูน้อยคนนี้เรียนโรงเรียนนานาชาติ ที่นักเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่มีรายได้สูง พกเงินกันมาวันละเป็นพัน ๆ บาท […]

ชายชาวมาเลเซียวัย 55 ปี ที่ป่วยโรคเบาหวานมา 30 ปี และสุดท้ายก็ต้องเสียขาข้างขวาของตัวเองไปตลอดกาล ชายคนนี้ได้เล่าถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง เขากล่าวว่า ตนเองชื่นชอบเครื่องดื่ม Teh Tarik หรือชาชักเป็นอย่างมาก ต้องดื่มทุกวันควบคู่ในอาหารทุกมื้อ โดยเขาดื่มทั้งแบบร้อนและแบบเย็น แถมยังบอกอีกว่ามีพฤติกรรมชอบกินอาหารตอนดึก ๆ เขายังชื่นชอบของหวานประเภทโรตีหลังกินอาหารเสร็จอีกด้วย ดูจากการจับคู่อาหารของเขา ก็ต้องยอมรับว่ามันน่าอร่อยมาก และไม่ดีต่อสุขภาพมากเช่นกัน ชาชัก เป็นสาเหตุเดียวของเรื่องทั้งหมดนี้หรือไม่ ? ตามที่รายงานกล่าวว่า มีเครื่องดื่มหวานอีกชนิดหนึ่งที่นำเขามาสู่จุดนี้ “บางครั้งหลังจากดื่มชาชักหนึ่งแก้ว ผมก็จะซื้อน้ำอัดลมให้ตัวเองหนึ่งกระป๋อง ผมไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า” แน่นอนว่ามันอาการป่วยของเขามาจากการรับน้ำตาลมากเกินไปจนทำให้เป็นเบาหวานและเสียขาขวา แต่ในปัจจุบันชายคนนี้ก็ยอมรับว่ากำลังฝึกวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีด้วยการรับประทานอาหารที่สมดุล และรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น   ข่าวจาก : ข่าวสด

กลายเป็นไวรัลชวนเอ็นดู เมื่อครอบครัวหนึ่งในตรังกานู ของมาเลเซีย ได้พาลูกชายไปมหาวิทยาลัย แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นเมื่อ “นักศึกษาหนุ่ม” ไม่ได้อยู่ที่รถยนต์ด้วย! เรื่องราวถูกแบ่งปันโดยผู้ใช้ติ๊กต็อก @keyrolahcong ซึ่งเป็นพี่ชายของ “อาหมัด ชากีร์ ลุคมัน” ที่สามารถสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยนานาชาติอิสลามในเมืองกัมบัง รัฐปะหัง ได้สำเร็จ เนื่องจาก ชากีร์ ลุกมาน เป็นน้องคนสุดท้องของบ้าน ทางคุณพ่อคุณแม่ พี่ชายและพี่สะใภ้ ต่างต้องการเดินทางไปส่งเขา อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เพราะระยะทางระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยห่างกันถึง 340 กิโลเมตร ทางครอบครัวจึงได้แวะจุดพักรถ ทุกคนใช้เวลาพักผ่อนและไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นพวกเขาก็กลับไปที่รถเพื่อเดินทางต่อ ชากีร์ ลุกมาน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า “ทุกคนอยู่ไหน? ทุกคนยังอยู่ที่จุดพักรถใช่ไหม?” เขาเล่าว่า ตอนนั้นเขาลงไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาก็พบว่ารถครอบครัวไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีที่เขาพกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย จึงสามารถติดต่อกับครอบครัวได้ เนื่องจากรถของครอบครัวอยู่บนทางหลวง พวกเขาไม่สามารถวนกลับไปรับได้ ชากีร์ ลุกมาน จึงต้องโบกรถ และได้พบกับคนขับรถใจดีคนหนึ่ง ขับพาเขาไปส่งยังจุดที่ครอบครัวรออยู่   ข่าวจาก : ข่าวสด

ชาวมาเลเซียวัย 41 ปี รายหนึ่ง ทำงานในเมืองกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย การทำงานทำให้เขารู้สึกเครียดมากจนทนไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจขึ้นรถบัสเดินทางออกนอกเมืองหลวง จุดประสงค์คือหนีงานเข้าป่า ตัดขาดจากทุกอย่างในโลกความเป็นจริง ผ่านไปนาน 6 วัน ชายคนนี้ก็รู้สึกหิวและหลงทาง เขาจึงโทรหาสายฉุกเฉิน โดยใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยรัฐเประ กล่าวว่า ชายวัย 41 ปีคนนี้ได้เข้าไปในป่าซึ่งอยู่ใกล้กับกับกรมตรวจบัญชีแห่งชาติในเประ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง โชคดีที่ชายคนนั้นปลอดภัย เพราะสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหากเผชิญหน้ากับความเครียด ลองติดต่อคนใกล้ชิดที่ไว้ใจ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต   ข่าวจาก : ข่าวสด

31 พ.ค. ที่ผ่านมา สาวชาวมาเลเซียคนหนึ่งได้โพสต์วิดีโอชวนอิจฉา เผยให้เห็นช่วงเวลาที่พ่อของสามีเดินถือถาดอาหารมาให้เธอ ซึ่งภายในถาดมีครบทั้งเมนูเนื้อและผัก และทุกเมนูถูกคลุมด้วยพลาสติกห่ออย่างดี เธอเปิดเผยว่า พ่อของสามีดูแลเธอเป็นอย่างดี ท่านทำอาหารให้เธอทานทุกวัน และมักเดินมาอาหารส่งอาหารด้วยอารมณ์ขัน พร้อมกับไม่ลืมกำชับให้เธอดูแลร่างกายตัวเองให้ดีด้วย “พ่อสามีคอยดูแลฉัน ท่านรู้ว่ามันไม่สะดวกจริง ๆ ถ้าจะให้ฉันออกไปข้างนอก ท่านจึงทำอาหารมาให้ประจำ” สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่จ้างคนมาช่วย แล้วปล่อยให้พ่อสามีที่อายุมากมาดูแลเธอ เธอให้คำตอบว่า เคยจ้างคนมาแล้ว แต่ลูกจ้างมัวแต่เล่นกับลูกน้อยและติดโทรศัพท์ ยามที่เธอหิว ลูกจ้างทำแต่เมนูง่าย ๆ อย่างซุปผักใส่ไส้กรอกมาให้เธอกิน ดังนั้นพ่อสามีจึงอาสารับหน้าที่นี้แทน   ข่าวจาก : ข่าวสด

เดอะสตาร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ในมาเลเซีย หลังจากนายจ้างคนหนึ่งทุ่มเงินแจกเงินโบนัสและซื้อของให้พนักงานเพื่อแสดงความขอบคุณในช่วงใกล้ฉลอง เทศกาลฮารีรายอ รายงานระบุว่า นายไครูล อามิง เจ้าของน้ำพริกแบรนด์ดัง “ซัมบัล เนียต” ซึ่งมีผู้ติดตามบัญชีอินสตาแกรมและติ๊กต็อกรวมกันเกือบ 7 ล้านคน โพสต์วิดีโอผ่านโซเชี่ยลมีเดียโดยบอกต่อพนักงานว่า หนึ่งในโรงงานสองแห่งของเขาในรัฐกลันตันจะหยุดทำการเป็นเวลา 1 วัน พนักงานกว่า 60 คนที่ทำงานอยู่ที่นั้นถึงกับต้องหลั่งน้ำตา เนื่องจากนายไครูลแจกซองจดหมายที่เต็มไปด้วยเงินโบนัสพิเศษ หนังสือพิมพ์ภาษาจีนรายวันซินชิวระบุว่าแต่ละซองบรรจุปึกธนบัตรมูลค่า 50 ริงกิต รวมเป็นเงิน 3,000 ริงกิต หรือราว 25,000 บาท นอกจากนี้นายไครูลยังให้สิทธิพิเศษอื่นๆ อีกด้วย เช่น ซื้อเสื้อผ้าใหม่เพื่อเป็นการฉลองให้แก่พนักงาน นายไครูลวัย 30 ปี กล่าวผ่านวิดีโอว่า “ผมซาบซึ้งในการทำงานหนักของทุกคนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังว่าเงินนี้จะช่วยในการใช้ชีวิตและการเตรียมตัวในเทศกาลฮารีรายอไม่มากก็น้อย” ขณะเดียวกันพนักงานต่างพากันหอบถุงช้อปปิ้งมากมายออกมาจากร้านขายเสื้อผ้าที่นายไครูลให้พนักงานเลือกซื้อเอง ทั้งยังมีเครื่องประดับใหม่จัดเต็มสำหรับเทศกาลฮารีรายอที่กำลังจะมาถึงนี้ นอกจากนี้นายไครูลยังพาพนักงานไปกินเลี้ยงบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำริมสระน้ำในโรงแรมหลังช้อปปิ้งซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่พนักงานละศีลอดกันพอดี หนุ่มเจ้าของซัมบัล เนียต ยังพูดเป็นนัยว่าเขาจะให้วันหยุดกับคนงานเพื่อที่พนักงานจะได้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในช่วงเวลาที่วุ่นวาย วิดีโอดังกล่าวกลายเป็นกระแสนิยมบนโลกโซเชียล มีผู้คนแห่เข้าชมกันล้มหลาม บางคนหลังจากเห็นสวัสดิการของพนักงานแล้ว ต่างพากันแสดงความคิดเห็นว่านายไครูลเป็นตัวอย่างของนายจ้างที่ดีในมาเลเซีย ซึ่งปกตินายจ้างชาวมาเลเซียจะถูกตราหน้าว่าขี้เหนียวที่สุดเมื่อเทียบกับนายจ้างของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลายคอมเมนต์บอกว่าเขาเป็นสุดยอดนายจ้างในประเทศ   […]

  กรมการจัดหางาน รับสมัครคนไทยไปทำงานในประเทศมาเลเซีย กับนายจ้างบริษัท Ancient Thai Bodywork Therapy Sdn. Bhd. ตำแหน่งพนักงานนวด 3 อัตรา คุณสมบัติ – เพศชาย/หญิง อายุ 23-44 ปี – นวดกดจุดตามฝ่ามือฝ่าเท้า (สามารถนวดแผนไทย สุคนธบำบัด นวดเท้า สครับ มาสค์ และสปาบำบัดอื่น ๆ) – ไม่จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนวดไทย 150 ชั่วโมง แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะการนวดไทยเทียบเท่ามาตรฐานการทำงานนวดไทยเต็มเวลาอย่างน้อย 2 ปี เป็นมืออาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริต อัตราค่าจ้าง – เดือนละ 3,500 ริงกิต หรือประมาณ 26,357 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 18 ม.ค.66) เงื่อนไขการจ้างและสวัสดิการ – ระยะเวลาของสัญญาจ้าง 2 ปี […]