มิจฉาชีพ

Advertisement ผู้สื่อข่าว ช่อง 7 ได้รับการร้องเรียนจาก คุณนัทธมน ธีรภาพลาภทรัพย์ อายุ 54 ปี เล่าว่า เธอถูกคุณน้ำฝน เพื่อนที่รู้จักกัน หลอกให้พาแม่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยตอนแรกได้ขับรถพาไปรักษาที่ จังหวัดสุโขทัยก่อน ก่อนจะพาตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ศิริราชปิยมหาการุณย์ โดยอ้างว่าแม่มีอาการป่วยหนัก ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน ตนเห็นใจเลยขับรถพาไป พอถึงโรงพยาบาลเขาก็ให้ตนเซ็นยินยอมให้รักษา ตนก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าแค่ช่วยเหลือเพื่อน Advertisement Advertisement แต่หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์ เมื่อถึงวันที่จะออกจากโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่มีใครมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงบังคับให้ตนเองเซ็นรับสภาพหนี้ทั้งหมด เป็นเงินกว่า 400,000 บาท ทั้งที่ไม่ใช่ญาติ และคุณน้ำฝน เพื่อนตัวต้นเรื่อง ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตอนนั้นยอมรับว่างงมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร โรงพยาบาลก็บอกว่าถ้าไม่เซ็นจะไม่ให้ออก ตนก็เลยจำใจต้องเซ็นไป และต้องรับภาระจ่ายหนี้แทนไปแล้วกว่า 60,000 บาท นอกจากนี้ ระหว่างที่คุณแม่ของน้ำฝนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คุณนัทธมน บอกว่า เธอยังถูกหลอกยืมเงินไปอีกกว่า 130,000 บาท โดยอ้างว่ามีเงินในบัญชีอยู่ 43 […]

สามีวัย 20 กับ ภรรยา อายุ 19 ปี ชาวอำเภอแสง จ.อุดรธานี ถูกหลอกเอาเงิน 400 บาทไป แล้วถูกปล่อยทิ้ง หลังโพสต์หางานผ่านเฟซบุ๊ก โดยถูกหลอกให้ไปทำงานขายเสื้อผ้า และขายลูกชิ้นทอดในเมืองอุดรธานี ต้องใช้สถานีรถไฟและโรงพยาบาลเป็นที่หลับนอน ขอหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมาประทังชีวิตไปก่อน จนมีผู้ใจบุญช่วยแจ้งตำรวจมาช่วย เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา 21 ส.ค.2567 ที่บ้านนาฝาย หมู่ 6 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี นายภาณุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย นำแพมเพิส 2 แพค นมกล่อง 2 ลัง และอาหารเสริมสำหรับเด็กเล็ก ไปมอบให้สามี-ภรรยาคู่นี้เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นระหว่างรอภาครัฐลงมาช่วยเหลือ โดยบ้านที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่เป็นบ้านหลังเล็กๆ ล้อมรอบด้วยพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน มีน.ส.ปาริฉัตร หรือ น้องมิ้นต์ อาศัยอยู่กับตา-ยาย และลูกชายวัย 11 เดือน รวมทั้งน้องอีก 2 คน ส่วนสามีออกไปรับจ้างทำงาน   […]

รายงานข่าวจาก ธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินนั้น ธนาคารขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ใช่กรณีแอปดูดเงิน แต่เป็นการโอนเงินผ่านการสแกน QR พร้อมเพย์ ซึ่งคนร้ายหลอกว่าเป็น QR รับเงิน ผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอน โดยเป็นผู้ใส่รหัส สแกนหน้า และโอนเงิน พร้อมยืนยันรายการด้วยตนเองเป็นจำนวน 2 รายการ เมื่อธนาคารรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายในวันที่ถูกหลอกโอนเงิน จึงได้ดำเนินการออกเลขที่รับแจ้งเหตุ(Bank Case ID) พร้อมทั้งส่งข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนให้ธนาคารผู้รับโอนทันที เพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวและไล่เส้นทางการเงินตามกระบวนการของกฎหมาย โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือหน่วยงานทางการที่แจ้งขอข้อมูลมาทุกกรณี ทั้งนี้ ธนาคารขออภัยสำหรับประเด็นการขอข้อมูลตามที่เป็นข่าว ที่อาจมีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีความจำเป็น หรือส่งผลกระทบต่อกระบวนการส่งเรื่องเพื่อระงับธุรกรรมแต่อย่างใด ธนาคารขอเน้นย้ำว่าการสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง เป็นการสแกนเพื่อจ่ายเงินเท่านั้น ไม่มีการสแกนเพื่อรับเงิน และเพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ อย่ากดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม และอย่าแอดไลน์คนที่ไม่รู้จัก   ข่าวจาก : มติชน

จากกรณีมีประชาชนหลายราย เจออุบายของแก๊งมิจฉาชีพหลอกเพื่อให้ไปเปิดบัญชีม้า ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ได้รับเงินค่าจ้างหรือไม่ได้รับเงินก็ตาม ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายทั้งสิ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีหรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ โดยในปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพมีวิธีการมากมายเพื่อหลอกล่อเหยื่อให้เปิดบัญชีม้า ก่อนนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย และผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาจไม่รู้ว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยตามกฎหมายมาตรา 9 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ระบุว่า การรับจ้างเปิดบัญชีหรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตร ATM หรือ E-wallet เพื่อใช้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากยอมให้ผู้อื่นเอาบัญชีธนาคารหรือซิมโทรศัพท์ไปใช้เพื่อกระทำผิดความผิด ตัวเจ้าของบัญชีจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท และหากอาสาเป็นธุระจัดหาเพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีธนาคารหรือซิมโทรศัพท์ให้ผู้อื่นไปใช้ในการกระทำผิด จะมีโทษจำคุก 2-5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000-500,000 บาท ดังนั้น ถ้ารู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกหรือสงสัยว่าตนเองตกเป็นเหยื่อหรือไม่ ให้รีบแจ้งธนาคารที่ใช้บริการอยู่ทันที และหากพบเห็นการรับจ้างเปิดบัญชีม้าสามารถนำเรื่องไปแจ้งเหตุที่สถานีตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป   ข่าวจาก : PPTV Online

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อบัญชี @jingklestareiei ออกมาโพสต์วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย หลังเจอแก๊งมิจฉาชีพทำเนียนเก็บค่าบริการ 17,900 บาท สุดช้ำ เสียรู้โจร ต้องชดใช้ค่าเสียหายเอง คาดว่ามิจฉาชีพก่อเหตุมาหลายร้าน ได้เงินรวมกันไปกว่า 30,000 บาท ไร้แววการจับกุม โดยเรื่องราวดังกล่าวใจความว่า เธอเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านในจังหวัดโคราช ในขณะเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.30 น. มีชายคนหนึ่งเข้ามาที่ร้าน อ้างว่าผู้จัดการให้มาเก็บค่าป้ายร้านเป็นเงินจำนวน 17,900 บาท ซึ่งเธอได้แจ้งว่าในส่วนนี้เธอผิดเองที่ไม่ได้โทรถามผู้จัดการก่อนและให้เงินชายคนดังกล่าวไป ตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่เธอกำลังยุ่งกับการคิดเงินและปิดกะ จึงทำให้มิจฉาชีพใช้ช่องโหว่นี้ ทำทีเป็นโทรหาผู้จัดการร้าน และแจ้งให้เธอนำกระดาษมาจดรายการที่ต้องจ่าย รวมทั้งหมด 17,900 บาท และยังแจ้งให้พนักงานส่งของที่ร้านไปรับป้ายกับคนที่อ้างว่าชื่อแหม่ม โดยชายคนดังกล่าวหันมาเร่งเพื่อเอาเงินจากเธอ แต่เงินไม่เพียงพอ เขาก็บอกกับเธอว่า “เอาเท่าที่มีก่อน เดี๋ยวที่เหลือพี่ออกให้” โดยที่เธอไม่ได้เอะใจกับความแปลกประหลาดนี้เลย และยังนำเงินจากกะเก่ามาเพิ่มจนครบจำนวน 17,900 บาท ที่ชายคนดังกล่าวแจ้ง ก่อนจะออกจากร้านไป หลังจากนั้นประมาณ 3 นาที พบว่าถูกมิจฉาชีพหลอก เพราะผู้จัดการแจ้งว่าไม่ทราบข้อมูลใดๆ พนักงานหญิงสุดช้ำ เสียรู้โจร ต้องทำงานชดใช้ค่าเสียหายเอง […]

7 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดพระแท่น ม.1 ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นางใหม่ อายุ 75 ปี ชาว ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ ว่าถูกแก๊งตกทองหลอกทำพิธีขอเลขเด็ด ที่วัดพระแท่น วัดชื่อดังที่อยู่ใกล้บ้าน ก่อนพาไปซื้อหวยแล้วอ้างว่าหากถูกรางวัลจะได้เงิน 3 ล้านบาท จนต้องสูญสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 32,800 บาท จำนวน 1 เส้น เบื้องต้นได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.พิบูลย์รักษ์ ช่วงบ่ายวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่อยากให้ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ และอยากได้สร้อยทองคืน จึงมาร้องเรียนเพิ่มเติม และอยากเตือนภัยผู้อื่นด้วย ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 70 ปี และผู้หญิงอายุ 40-50 ปี แต่งกายดีขับรถกระบะแบบโอเพ่นแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์เงิน จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และด้านหน้ารถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยกล้องวงจรปิดในวัดสามารถบันทึกภาพแก๊งคนร้ายขับรถกระบะพายายใหม่ มาจอดอยู่ลานด้านหน้ารูปเหมือนหลวงปู่พิบูลย์ ยืนถือไม้เท้า […]

เพจ Drama-addict ได้เตือนถึงภัยจากมิจฉาชีพ ที่พบว่า ใช้เฟซบุ๊กหลอกเหยื่อด้วยการโฆษณาที่ดูน่าเชื่อถือ โดยระบุว่า “ตัวอย่างมุขใหม่ล่าสุดของแก๊งค์มิจฉาชีพ จะเอาคลิปคนจีน (แปลไทยด้วยกูเกิล) มาลงในเพจมัน แล้วอวดอ้างว่า รับสมัครงานง่ายๆ งานสบายๆรายได้ดี ไปนอนพัก รร แล้วรีวิวให้มัน แล้วกดหัวใจเพิ่มยอดวิวแล้วรับเงิน ถ้าเหยื่อหลงเชื่อติดต่อไป มันก็จะบอกว่า เนี่ย จะทำงานนี้ต้องสมัครก่อนนะ แล้วถ้าสมัครเป็นสมาชิกระดับต้นๆ จะได้ค่าตอบแทนแค่นี้ๆนะ ถ้าอยากได้เยอะๆ ต้องอัพเกรดเป็นระดับโกลด์ หรือแพลตตินั่มนะ บลาๆ แล้วหลอกเหยื่อให้จ่ายเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อสมัคร VIP จากนั้นก็เชิดเงินหนีครับ”   ข่าวจาก : ข่าวสด

สาวแชร์ประสบการณ์เกือบโดนหลอก เจอมิจฉาชีพส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง โชคดีที่พนักงานส่งของรู้สึกเอะใจ ไม่อยากส่ง เพราะลูกค้าเจอมิจฉาชีพเยอะ จึงออกมาเตือนภัยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอเอง โดยเธอเล่าว่า วันนี้มีพัสดุแบบเก็บเงินปลายทางเป็นชื่อพี่ชายมาส่ง ซึ่งปกติแล้วพี่ชายของเธอชอบสั่งของเก็บเงินปลายทางโดยไม่บอกที่บ้านอยู่แล้ว เมื่อโทรติดต่อพี่ชาย และพี่ชายไม่รับสาย เธอจึงจะโอนเงินให้แทน พนักงานจึงถามว่า ‘อันนี้สั่งอะไรครับ’ ซึ่งเธอไม่รู้ พนักงานจึงบอกว่า ‘ผมไม่อยากส่งเลย ของจากอุดรหลอกเยอะมาก ลองเช็กกับพี่ชายก่อนไหม ถ้าชัวร์โทรแจ้งพรุ่งนี้จะมาส่งให้ใหม่’ เธอจึงตอบตกลง หากติดต่อพี่ชายได้แล้วจะติดต่อกลับไปยังพนักงาน ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีของเธอ เพราะล่าสุด เธอเพิ่งได้โทรติดต่อกับพี่ชาย ‘สรุปว่าพี่ชายเธอไม่ได้สั่งจริงๆ’ อย่างไรก็ดี เธอบอกว่า ต้องขอขอบคุณพนักงานมากๆ ที่เอะใจให้เธอเช็กกับพี่ชายก่อน เพราะปกติเธอไม่รับของปลายทาง แต่คิดว่าพี่ชายสั่งจึงไม่ทันสังเกต อีกทั้งตอนพนักงานเขย่ากล่องดู ก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไรอยู่ในกล่องด้วย พนักงานจึงไม่อยากส่งให้จนกว่าลูกค้าจะเช็กก่อน เรียกว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย สำหรับประสบการณ์ของสาวคนดังกล่าว ให้ประชาชนทุกคนตรวจสอบพัสดุก่อนรับทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยจากมิจฉาชีพ   ข่าวจาก : ข่าวสด