ยูเครน

Advertisement โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนปลอดภัยแล้ว จนท.ควบคุมเพลิงได้ หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่ม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ทางการยูเครนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ในเมืองซาปอริซเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศปลอดภัยแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดไฟลุกไหม้ จากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าไปดับไฟได้สำเร็จ Advertisement Advertisement นายโอเลกซานดร์ สตารุกคฮ์ หัวหน้าหน่วยทหารแคว้นซาปอริซเซีย กล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผู้อำนวยการของโรงไฟฟ้าระบุว่า ตอนนี้นิวเคลียร์ปลอดภัยแน่นอนแล้ว จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโรงไฟฟ้า ส่วนอาคารฝึกซ้อมและห้องทดลองได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้” ก่อนหน้านี้นายแอนดรี ตุส โฆษกของโรงไฟฟ้าระบุว่า การสู้รบในบริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้สงบลงแล้ว และโรงไฟฟ้าไม่มีความเสียหายที่รุนแรง แม้ว่าจะเหลือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานเพียง 1 ใน 6 เครื่องก็ตาม ในขณะที่ระดับของกัมมันตภาพรังสีอยู่ในสภาวะปกติ   ข่าวจาก : มติชน

สุดสะพรึง! ไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดในโลกที่ยูเครน จากการโจมตีของรัสเซีย สถานการณ์สู้รบในยูเครนได้บานปลายออกไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกไฟไหม้จากการโจมตีของรัสเซีย นายดมิโทร ออลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเอเนอร์โกดาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก!!! เป็นผลจากการยิงอย่างไม่หยุดยั้งโดยศัตรู อาคารและพื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกไฟไหม้” นายออลอฟระบุในวิดีโอที่โพสต์ เรียกร้องให้มีการยุติการยิงใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียทันที ทั้งนี้มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้ระดมยิงเข้าใส่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป กระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ตามมาในที่สุด ก่อนหน้านี้โฆษกของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้โพสต์วิดีโอในเทเลแกรม เรียกร้องให้มีการยุติการใช้อาวุธหนักยิงถล่มโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เพราะถือเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พร้อมกันนี้ยังได้มีการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ยูเครนว่าการยิงของรัสเซียพุ่งเป้าตรงมาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย และเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 1 ใน 6 ตัวของโรงงาน อย่างไรก็ดีเตาปฏิกรณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงและไม่ได้มีการปฏิบัติงานในขณะนี้ แต่ยังคงมีเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อยู่ภายใน ขณะที่พนักงานดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เพราะถูกยิง ทั้งนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศยูเครนมากถึง 25% ล่าสุด ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ได้เร่งติดต่อ พูดคุยกับ หน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของยูเครน และผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับสถานการณ์ร้ายแรงที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia เรียกร้องให้ยุติการใช้กำลังและเตือนถึงอันตรายร้ายแรงหากเครื่องปฏิกรณ์ถูกกระทบ ❗️❗️Judging by the video from the scene, an administrative building is on […]

ญี่ปุ่น 3 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุจะรับผู้ลี้ภัยจากการรุกรานของรัสเซีย ไปยังประเทศที่ 3 เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวยูเครน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่าญี่ปุ่นจะรับผู้ลี้ภัยจากการรุกรานของรัสเซีย ไปยังประเทศที่ 3 เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวยูเครน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นบอกกับทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นว่าจะทำงานร่วมกับสมาชิกกลุ่ม G7 และประชาคมโลกเพื่อการหยุดยิง ขณะที่ทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวว่ายูเครนกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และแสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนของญี่ปุ่นครั้งนี้ และว่าสงครามครั้งนี้ชาวยูเครนจะยืนหยัดและต่อสู้ด้วยตัวเอง และสิ่งที่เขาร้องขอต่อพันธมิตรคืออาวุธ การสนับสนุนทางการเมืองและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม .-สำนักข่าวไทย   ข่าวจาก : mcot

‘อียองแอ’ นางเอกดัง ‘แดจังกึม’ บริจาคเงิน 100 ล้านวอน ช่วยชาวยูเครน ขออย่าหมดหวัง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม All Kpop รายงานว่า อียองแอ นักแสดงเกาหลีชื่อดัง เจ้าของบทบาท แดจังกึม ซีรีส์ชื่อดังที่ครองใจคนเอเชีย ได้บริจาคเงินเพื่อช่วยชาวยูเครน เป็นเงินกว่า 100 ล้านวอน รายงานระบุว่า อียองแอ ได้บริจาคเงิน 100 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2,310,000 บาท เพื่อร่วมสนับสนุนชาวยูเครน ในสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าว โดยได้โพสต์ภาพเช็คเงินสด และเขียนจดหมายด้วยลายมือของเธอ มีเนื้อหาหวังให้สงครามนี้จบลงโดยเร็ว จดหมายดังกล่าว มีเนื้อหาว่า “ถึงประชาชนชาวยูเครนที่รัก ฉันเป็นนักแสดงชื่อ อี ยอง แอ ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลี มีสมาชิกในครอบครัวเป็นทหารผ่านศึก ฉันสัมผัสได้ถึงความเลวร้ายของสงครามมากกว่าใคร ฉันขอให้สงครามในยูเครนจบสิ้นโดยเร็ววัน และขอให้สันติภาพได้ฟื้นคืนโดยไว ฉันอธิษฐานให้กับชาวยูเครนทุกคน ปลอดภัย สำหรับประชาชนชาวยูเครนทุกคนที่รักในอิสระและสันติภาพ ฉันขอร้องคุณ ว่าอย่าหมดหวัง และความกล้าหาญ ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งในประชาชนจำนวนมากที่รักในสันติภาพ […]

ชาติแรกอาเซียน! สิงคโปร์ประกาศคว่ำบาตร ‘รัสเซีย’ สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ในกรณีนำกำลังทหารบุกประเทศยูเครน เมื่อล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์จะระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของรัสเซีย และห้ามการส่งออกสินค้าใดๆ ก็ตามที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ การประกาศคว่ำบาตรรัสเซียดังกล่าวส่งผลให้สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หลังจากสหรัฐ สหภาพยุโรป อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และไต้หวัน ประกาศคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้เพื่อกดดันรัฐบาลรัสเซีย วิเวียน บาลาคริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วสิงคโปร์จะไม่คว่ำบาตรประเทศอื่นๆ โดยไม่มีมติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่จากสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการโจมตีของรัสเซีย สิงคโปร์เห็นพ้องกับประเทศอื่นๆ ที่มีความคิดเห็นตรงกันในการที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรและสร้างข้อจำกัดกับรัสเซีย รายงานระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสิงคโปร์ รวมไปถึงการจำกัดการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ และจะมีการห้ามธนาคารรัสเซียหลายแห่งทำธุรกรรม และห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ที่เชื่อมโยงกับประเทศรัสเซีย ขณะที่มาตรการเฉพาะเจาะจงอื่นๆ จะมีการหารือเพื่อนำมาประกาศคว่ำบาตรต่อไป ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน สิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์ไปยังกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียแล้ว โดยอ้างเหตุผลในเชิงปฏิบัติการ ขณะที่สายการบินในยุโรปส่วนใหญ่ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังรัสเซีย รวมถึงเปลี่ยนเส้นทางบินหลีกเลี่ยงน่านฟ้ารัสเซียแล้ว ขณะที่อียูประกาศห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าแล้วเช่นกัน   ข่าวจาก : มติชน

สื่อนอกเผย อดีตมิสแกรนด์ยูเครน ร่วมทัพรบต้านรัสเซีย นิวยอร์กโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ระบุว่าอนาสตาเซีย เลนนา ตัวแทนประเทศยูเครน ประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลประจำปี 2015 ได้เปลี่ยนบทบาทจากการเป็นนางงาม เข้าร่วมกับกองทัพยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียแล้ว รายงานระบุว่ายูเครน เป็นประเทสที่มีทหารหญิงมากที่สุดในโลกที่ 36,000 นาย อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าอนาสตาเซีย เป็นหนึ่งในทหารหญิงของกองทัพยูเครนแล้วหรือไม่ ขณะที่อดีตมิสแกรนด์ยูเครน โพสต์ภาพการฝึกซ้อมยิงปืนผ่านอิสตาแกรมส่วนตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุดอนาสตาเซีย โพสต์ข้อความระบุผ่านอินสตาแกรมสตอรีว่า “ใครก็ตามที่ข้ามชายแดนยูเครนโดยมีจุดประสงค์เพื่อรุกรานจะต้องถูกสังหาร!” ขณะที่อีกโพสต์หนึ่ง อนาสตาเซีย โพสต์ข้อความติดตลก โดยระบุว่า “กองทัพของเรารบในแบบที่นาโตควรที่จะต้องยื่นขออนุญาตเพื่อเข้าสู่ประเทศยูเครน” นอกจากนี้ อดีตมิสแกรนด์ยูเครน ยังโพสต์ภาพนายทหารเดินเคียงข้างนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน พร้อมกับข้อความระบุว่าเซเลนสกีเป็นผู้นำที่แท้จริงและแข็งแกร่ง รายงานระบุว่านับตั้งแต่รัสเซีย นำกำลังทหารรุกรานประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อนาสตาเซีย โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม สตอรี่ เรียกร้องให้สนับสนุน และบริจาคเงินช่วยเหลือกองทัพยูเครน จำนวนมาก ทั้งนี้อนาสตาเซีย เรียนจบด้านการตลาดและการจัดการ จากมหาวิทยาลัยสลาวิสติค ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน มีประวัติทำงานเป็นนางแบบและผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ในประเทศตุรกี นอกจากนี้ยังสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษาและเคยทำงานเป็นล่ามด้วย   ข่าวจาก […]

ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โพสต์คลิปวิดีโอ โพสต์คลิป เดินถนนไม่ทิ้งประชาชน สยบลือหนี สหรัฐพาอพยพ – ยอมแพ้ รัสเซีย วันนี้ (26 ก.พ.) ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โพสต์คลิปวิดีโอที่ถ่ายตัวเองทางเฟซบุ๊กของเขา เมื่อช่วงเวลา 12.57 น. ตามเวลาประเทศไทย เพื่อสยบข่าวลือที่มีการปล่อยออกมาว่า เขาเรียกร้องให้กองทัพยูเครนยอมจำนนต่อ กองกำลังทหารรัสเซีย โดยย้ำว่านั่นเป็น “ข่าวปลอม” “มีข้อมูลเท็จมากมายในโลกออนไลน์ที่บอกว่าผมเรียกร้องให้กองทัพของเราวางอาวุธและให้มีการอพยพ ผมอยู่ที่นี่ เราจะไม่วางอาวุธ เราจะปกป้องประเทศของเรา” ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวขณะถ่ายคลิปวิดีโอตนเองอยู่บนถนนที่มี Gorodetsky House ในกรุงเคียฟ เป็นฉากหลัง ทั้งนี้ เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา (25 ก.พ.) ผู้นำยูเครนหนุ่ม วัย 44 ปีผู้นี้ ก็ได้โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งออกมาเดินตามท้องถนน เพื่อสร้างขวัญและกำลังให้กับชาวยูเครน พร้อมทั้งบันทึกภาพวิดีโอ โดยในคลิปดังกล่าว มีบุคคลซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงของรัฐบาลยูเครน ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี […]

18 คนไทยในยูเครนเผย ‘เกือบไม่รอด’ เบียดขึ้นรถไฟหลังหลบภัยสถานีใต้ดิน สถานทูตเร่งช่วย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ‘มติชน’ รายงานว่าคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครนรวมตัวหลบภัยภายในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ หลังประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซีย ประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารทางตะวันออกของประเทศยูเครน ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นมีจำนวน 16 ราย ต่อมาแยกตัวไป 7 รายเพื่อขึ้นรถไฟไปยังเมืองลวิฟทางตะวันตกของยูเครน แต่ยังมีการโทรศัพท์พูดคุยกัน คนไทยกลุ่มดังกล่าวระบุด้วยว่าอยู่ระหว่างรอการช่วยเหลือของทางการไทย โดยรายหนึ่งแจ้งว่าอากาศหนาวมาก และน้ำดื่มที่ซื้อเตรียมไว้หมดลงแล้ว ขณะที่อีกรายเผยแพร่คลิปบรรยากาศภายในสถานีรถใต้ดินซึ่งมีผู้คนจำนวนมากนอนหลับพักผ่อนบนพื้น ขณะที่บางส่วนหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ มุ่งหน้าไปในจุดต่างๆ มีเสียงเด็กเล็กร้องไห้แทรกเข้ามาเป็นระยะๆ โดยหญิงไทยเจ้าของคลิปกล่าวว่า อยากกลับบ้าน แต่ต้องรออย่างเดียว “คิดถึงลูก คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงทุกๆ คน อยากกลับบ้านแล้ว” หญิงไทยในยูเครนกล่าว ทั้งนี้ กลุ่มคนไทยที่หลบอยู่ในสถานีรถใต้ดินมีการตั้งกลุ่มพูดคุยผ่านช่องทางข้อความทางเฟซบุ๊กเพื่อสื่อสารกัน โดยมีการเชิญเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอเข้าร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูตได้สอบถามข้อมูล และสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ นอกจากนี้ ชายไทยรายหนึ่งซึ่งเดินทางออกจากยูเครนก่อนเกิดเหตุ อ้างอิงคำบอกเล่าของครอบครัวภรรยาซึ่งยังอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟว่า เครือข่ายโทรศัพท์บางส่วนถูกบล็อก ธนาคารบางแห่งไม่สามารถเบิกถอนเงินสดจากตู้กดเงินสดอัตโนมัติได้ และชาวยูเครนทำการระเบิดสะพานบางแห่งในกรุงเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้รถถังของรัสเซียเข้าถึงตัวเมืองได้ ต่อมา เมื่อเวลาราว […]

รัฐบาลทหารเมียนมา ชี้ รัสเซีย บุก ยูเครน ชอบธรรมแล้ว หลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนแบบเต็มกำลังในทุกทิศทาง และมีการยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนในหลายเมือง ส่งผลให้นานาชาติออกมาประณามการกระทำของรัสเซียกันถ้วนหน้า โดยหลายชาติออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ซอว์ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ระบุเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ว่า กองทัพรัสเซียดำเนินการในสิ่งที่ชอบธรรมแล้วเพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยที่ยั่งยืนของประเทศ “รัสเซียแสดงให้โลกเห็นถึงจุดยืนของตนเองในฐานะมหาอำนาจของโลก” แถลงการณ์ซึ่งมีการเผยแพร่เป็นภาษารัสเซียด้วย ระบุ ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมา นำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย มีรัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญซึ่งขายอาวุธให้กับรัฐบาลเมียนมา โดยเมื่อปีก่อน ผู้นำเมียนมาได้พบกับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย พร้อมกับขอบคุณรัสเซียที่ทำให้กองทัพเมียนมา กลายเป็นหนึ่งในกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค ขณะที่กองทัพเมียนมา เพิ่งยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนนำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการชุมนุมต่อต้านทั่วประเทศขณะที่กองทัพเข้าสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,500 ราย   ข่าวจาก : มติชน