ราชกิจจาฯ ประกาศเลื่อน “ธนกร วังบุญคงชนะ” เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

Advertisement เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง Advertisement ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2562 ซึ่งได้ประกาศให้ นางสาววทันยา บุนนาค ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ลำดับที่ 19 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Advertisement บัดนี้ นางสาววทันยา บุนนาค ได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2565 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ นางสาววทันยา บุนนาค สิ้นสุดลง ตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน นายธนกร วังบุญคงชนะ

ราชกิจจาฯ ประกาศให้ โรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 ประกาศดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีการประกาศให้โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังการป้องกันและการควบคุมโรคติดต่อ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป) ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (56) ของข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง พ.ศ.2562 “(56) […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่บัญชีอัตราเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยใหม่

27 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบเงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2565 โดยระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และมาตรา 70/8 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2549 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงานมหาวิทยาลัยท้ายกฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2554 และให้ใช้บัญชีอัตราเงินเดือนอ้างอิงของพนักงานมหาวิทยาลัยท้ายกฎกระทรวงนี้แท พร้อมระบุหมายเหตุประกอบประกาศไว้ด้วยว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. […]

ราชกิจจา เผยแพร่ กฎใหม่ขรก.รัฐสภาสามัญ ครบเกษียณทำงานต่อได้อีก10ปี

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ “กฎ ก.ร.ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ซึ่งมีอายุครบหกสิบบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2565” กรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็น เพื่อประโยชน์ของทางราชการ สามารถทำงานต่อได้อีก 10 ปี มีผลบังคับใช้ทันทีหลังวันประกาศ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ “กฎ ก.ร.ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ซึ่งมีอายุครบหกสิบบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2565” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 มีสาระสำคัญ ว่า ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใด ซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใด และดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดํารงตําแหน่งประเภท ทั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ สามารถรับราชการต่อไป เมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ตามกฎ ก.ร. โดยจะต้องเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ สำหรับ “กฎ ก.ร.ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ซึ่งมีอายุครบหกสิบบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2565” โดย กฎใหม่ เนื้อหาระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ (๓) […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ เลื่อนเก็บภาษีที่ดิน 100 เปอร์เซ็นต์ อีก 3 เดือน

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ กระทรวงมหาดไทย เลื่อนเก็บภาษีที่ดิน 100 เปอร์เซ็นต์ อีก 3 เดือน หวังบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน วันที่ 25 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ประจำปี พ.ศ.2565 ว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชนผู้เสียภาษีให้ผู้เสียภาษีมีเวลาชำระภาษีมากขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 เห็นชอบให้ขยายกำหนดเวลาดำเนินการของผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดเวลาในพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 เฉพาะการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำปี พ.ศ.2565 เป็นการทั่วไป ออกไปอีก 3 เดือน ดังนี้ 1.ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษี ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 จากเดิมภายในเดือนเมษายน 2565 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2565 2.ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการผ่อนชำระภาษี ตามมาตรา 52 […]

สาธิต แจงถอดแมสก์ได้ ยังมีเงื่อนไขเรื่องระยะห่าง-พื้นที่เสี่ยง

“สาธิต” แจงประกาศราชกิจจาฯ ถอดแมสก์ตามสมัครใจ ยังมีเงื่อนไขระยะห่าง พื้นที่เสี่ยง และกลุ่มเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตามเคร่งครัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้สวมหรือถอดหน้ากากตามความสมัครใจ ยังมีเงื่อนไข ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากอยู่ในสถานที่เสี่ยง เว้นระยะห่างไม่ได้ เป็นผู้ที่ติดเชื้อเสี่ยงอาการรุนแรง ผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ยังสมควรสวมหน้ากาก เพื่อความปลอดภัย ป้องกันการติดเชื้อ วันนี้ (24 มิถุนายน 2565) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 46 ซึ่งมีเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตามความสมัครใจ ว่า ประกาศเรื่องของการสวมหรือถอดหน้ากากตามความสมัครใจนั้น เป็นแบบมีเงื่อนไข คือให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแนะนำให้สวมหน้ากากเมื่อยังอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสถานที่เสี่ยงหรือพื้นที่แออัดมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี รวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น “แม้จะมีประกาศให้การสวมหน้ากากหรือถอดหน้ากากเป็นไปตามความสมัครใจ แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่เป็นเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด การสวมหน้ากากในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เป็นเรื่องที่ควรตระหนักให้ดี เพื่อความปลอดภัย ป้องกันการติดเชื้อได้ แม้ช่วงนี้จะมีผู้ติดเชื้อโควิดไม่มาก แต่ก็พบว่าเริ่มเพิ่มสูงขึ้นบ้าง เนื่องจากมีการผ่อนคลายกิจกรรม เช่น […]

ราชกิจจาฯ แพร่ข้อกำหนด “สวมแมสก์ตามความสมัครใจ”

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ข้อกำหนด “สวมแมสก์ตามความสมัครใจ” หลังโควิด-19 คลี่คลาย ส่วนผู้ติดเชื้อ-เสี่ยงสูง หากอยู่กับคนอื่น ให้สวมไว้ก่อน เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 46 ตามที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ปัจจุบันได้คลี่คลาย และมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จากการดําเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ส่งผลให้จํานวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวลดลงเป็นลําดับ จนสามารถผ่อนปรนบรรดามาตรการและข้อจํากัดต่างๆ ให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดํารงชีวิตและดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติ รวมถึงการผ่อนคลายข้อจํากัดเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างประเทศจากเดิมที่เคยกําหนดเป็นมาตรการสกัดกั้นเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน โดยปรับให้สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล เพื่อรับผู้เดินทางจากทั่วโลก การดําเนินการตามแผนและมาตรการจัดการด้านสาธารณสุขทั้งหลายนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic ที่จะประกาศให้เป็นโรคติดต่อทั่วไป ในการนี้ รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุขจึงเห็นสมควรพิจารณาปรับลดระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่กับการคงดำเนินมาตรการที่จำเป็นสำหรับป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อควบคุมการระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยในข้อ 3 ของข้อกำหนดดังกล่าวได้ระบุถึง การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนสามารถดําเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติยิ่งขึ้น จึงสมควรผ่อนคลายข้อจํากัดในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยยกเลิกความในข้อ 1 แห่งข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ระเบียบให้ ป.ป.ช.-พนง.ไต่สวน พกพาวุธปืน

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ระเบียบให้ คณะกรรมการป.ป.ช.-พนง.ไต่สวน พกพาวุธปืน เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า ด้วยการมี การใช้ และการพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอุปกรณ์เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2565 มีรายละเอียด อาทิ โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยการมี การใช้ และการพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอุปกรณ์เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพื่อใช้คุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และมาตรการควบคุม การมี การใช้ และการพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอุปกรณ์เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ข้อ 9 ในการมี การใช้ และการพกพา ให้ผู้อนุญาตพิจารณาอนุญาตให้ผู้รับอนุญาตมี ใช้ พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์เกี่ยวข้องและมีติดตัวได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ให้อนุญาตเฉพาะบุคคล ดังนี้ (ก) บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการไต่สวน (ข) […]

ราชกิจจาฯ ประกาศเกณฑ์ค่ารักษา ค่าตรวจโควิด สิทธิประกันสังคม

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศหลักเกณฑ์และอัตราค่าบริการทางการแพทย์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019(COVID-19)) สำหรับการดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษา แบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล (Home Isolation) และการดูแลรักษาการแยกกักในชุมชน วันนี้ (14 มิ.ย.65) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่าบริการทางการแพทย์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) สำหรับการดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษา แบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล (Home Isolation) และการดูแลรักษาการแยกกักในชุมชน (Community Isolation) โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่าบริการทางการแพทย์สำหรับการดูแลรักษา ในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล (Home Isolation) และการดูแลรักษา การแยกกักในชุมชน (Community Isolation) กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด […]

ราชกิจจาฯ เผยระเบียบช่วยเหลือนร.โรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล

ราชกิจจาฯ เผยระเบียบมาตรการช่วยเหลือนักเรียน ในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล วันที่ 13 มิถุนายน ราชกิจจานุเบกษา ได้เผย ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2564 เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูสำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูเพิ่มขึ้น 450 บาทต่อคนต่อปี โดยปรับอัตราจาก 8,582.50 บาทต่อคนต่อปี เป็น 9,032.50 บาทต่อคนต่อปี เท่ากับการอุดหนุนนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อประกันรายได้ครูโรงเรียนเอกชนให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำที่ทางราชการกำหนด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2556 ประกอบกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตามมาตรา 13 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 ในการประชุมครั้งที่ […]

1 5 6 7 12
error: