ถอดบทเรียนสิงคโปร์ซื้อ ‘สัมปทานรถไฟฟ้า’ คืนแก้ปัญหาราคาตั๋วแพง

Advertisement สิงคโปร์ เป็นหนึ่งประเทศที่มีขนส่งสาธารณะดีอันดับต้นๆ ของโลก โดย สำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) รายงานว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีคุณภาพขนส่งสารธารณะดีอันดับที่ 3 ของโลกเป็นรองเพียงฮ่องกงและเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามการจัดอันดับของ Mobility Index Ranking 2023 ของบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่าง Oliver Wyman Forum Advertisement อย่างไรก็ตาม ดร. สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่ง และโลจิสติกส์ สถาบันเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สัมภาษณ์พิเศษกรุงเทพธุรกิจว่า หากย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นช่วงแรกๆ ที่สิงคโปร์เริ่มพัฒนาระบบรถไฟฟ้าใต้ดินก็เผชิญปัญหาเรื่อง “สัญญาสัมปทาน” คล้ายประเทศไทย ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ปัญหาสำคัญปัจจุบันของระบบรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดินของประเทศไทยปัจจุบันคือผู้ใช้บริการไม่สามารถเดินเชื่อมต่อกันในแต่ละสถานีได้โดยไม่ต้องออกจากประตูและใช้บัตรใบเดียว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือหากผู้ใช้งานคนหนึ่งต้องการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินหากเป็นประเทศที่ระบบขนส่งสาธารณะออกแบบมาอย่างดี ผู้ใช้งานจะสามารถใช้บัตรใบเดียวในการเดินทางเปลี่ยนจากบีทีเอสไปเป็นเอ็มอาร์ทีได้โดยไม่ต้องเดินออกจากประตู แต่สำหรับประเทศไทยในหลายสถานีผู้ใช้บริการยังต้องออกจากสถานีบีทีเอสเพื่อไปซื้อตั๋วเอ็มอาร์ทีใหม่ซึ่งสร้างความไม่สะดวกสบายและทำลายต้นทุนด้านเวลาของผู้ใช้บริการอย่างเห็นได้ชัด โดยดร. สุเมธ กล่าวว่า หนึ่งปัญหาสำคัญคือปัจจุบันรถไฟฟ้าแต่ละสายไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ภายใต้ระบบเดียว คือภาครัฐไทยไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาสัมปทานแบบเอกชนร่วมทุน (PPP) ตั้งแต่ต้นว่ารถไฟฟ้าแต่ละสายต้องเชื่อมต่อกัน ปัจจุบันภาครัฐไทยให้สัมปทานเอกชนเพื่อเดินรถไฟฟ้าไปแล้ว 6 ฉบับภายในระยะเวลา 20 ปี […]

สิงคโปร์ใจป้ำ แจกเงินสด กระตุ้นศก. สูงสุด 1 หมื่น

13 สิงหาคม สื่อต่างประเทศรายงานว่า ชาวสิงคโปร์กว่า 2.4 ล้านคน จะได้รับเงินสดช่วยเหลือสูงสุด 400 ดอลลาร์ (10,000 บาท) ในเดือนกันยายนนี้ ชาวสิงคโปร์ที่เข้าเกณฑ์ จะได้รับเงินระหว่าง 200 (5,000 บาท) ถึง 400 ดอลลาร์ (10,000 บาท) ซึ่งขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้รับด้วย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือกับปัญหาค่าครองชีพ เงินอุดหนุนดังกล่าว จะจ่ายให้ชาวสิงคโปร์ทุกคนที่อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และจะต้องไม่มีทรัพย์สินเป็นของตนเองมากกว่า 1 รายการ ก่อนหน้านี้ ลอว์เรนซ์ หว่อง ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศในงบประมาณปี 2567 ว่า รัฐบาลจะเพิ่มแพคเกจประกันอีก 1.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อช่วยเหลือปัญหาค่าครองชีพด้วย นอกจากการจ่ายเงินสดในเดือนกันยายนแล้ว ชาวสิงคโปร์ยังมีสิทธิได้รับการสนับสนุนเพิ่มด้วย อาทิ ส่วนลด U-Save, บัตรกำนัลสภาการพัฒนาชุมชน (CDC), ส่วนลดค่าบริการและการอนุรักษ์ (S&CC) และการจ่ายเงินสดเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินสดอัตโนมัติ ในเดือนกันยายนนี้ […]

บังเอิญเป๊ะ! คู่สามี-ภรรยาชาวสิงคโปร์ มีลูก4คน เกิดวัน-เดือนเดียวกันทั้งหมด

ตามรายงานของ The Straits Times เผยว่า พี่น้อง 4 คนนี้เป็น เด็กผู้หญิง 3 คนและเด็กชาย 1 คน ทั้งหมดเกิดในวันที่ 6 กันยายน 2011, 2013, 2015 และ 2023 ตามลำดับ นอกจากนี้ทั้งหมดยังเกิดจากการคลอดตามธรรมชาติและทำคลอดโดยสูตินรีแพทย์คนเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ซาลิฮิน อาหมัด เปอร์บาห์ ช่างอากาศยาน วัย 49 ปี และ ไครุนนิสา อับดุล คาริม แม่บ้าน วัย 39 ปี สามี – ภรรยาคู่นี้เปิดเผยว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะให้ลูก ๆ เกิดวันเดียวกันแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น การกำเนิดของลูกคนที่ 4 เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด เนื่องจากทั้งคู่วางแผนที่จะหยุดมีลูกหลังคลอดลูกคนที่ 3 ในปี 2015 นั่นเอง แน่นอนว่าการที่ลูก […]

บ่าวสาวฉลองแต่งงาน จัดในร้านหมาล่าดัง Haidilao เหตุชอบกินร้านนี้มากตั้งแต่เดทกันใหม่ๆ

กลายเป็นไวรัลสุดน่ารัก เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่หนึ่งได้จัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานขึ้นที่ร้าน “Haidilao” ซึ่งเป็นร้านชาบูชื่อดัง ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้ามารีน่าสแควร์ ของสิงคโปร์ สำหรับเหตุผลที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือกสถานที่แห่งนี้ มันไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะทั้งคู่ชอบทานชาบูร้านนี้มาก เรียกได้ว่าทานตั้งแต่ออกเดทแรก ๆ จนแต่งงาน ร้านจึงเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งในชีวิตทั้งคู่ไปแล้ว โดยเพื่อนของบ่าวสาวให้สัมภาษณ์ว่า นอกจากทั้งคู่จะจองร้าน Haidilao แล้ว ทั้งคู่ยังขออนุญาตทางห้างสรรพสินค้าสำหรับการจัดงานอีกด้วย ในวันงาน พวกเขาตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม มีพรมสีชมพูและซุ้มประตูดอกไม้ ซึ่งแขกจะต้องเดินบนพรมและเดินผ่านซุ้มประตูเพื่อเข้าร้าน Haidilao โดยภายในร้านมีแขกทั้งหมด 34 โต๊ะ มีที่ฉายโปรเจคเตอร์ไว้แสดงวิดีโอสุดน่ารักของคู่บ่าวสาวให้แขกได้รับชม บอกเลยว่างานครั้งนี้มีบรรยากาศสุดครึกครื้นและโรแมนติก ไม่ต่างจากจัดในโรงแรมเลยสักนิด   ข่าวจาก : ข่าวสด

ทรหดเกิน! คู่รักขับ Maserati จากสิงคโปร์มาไทย ระยะทางกว่า4,200กม. ใช้เวลาวางแผนมาเดือนกว่า

เว็บไซต์ mustsharenews ได้รายงานเรื่องราวของ แดริลและเชอรีล คู่รักเศรษฐีชาวสิงคโปร์ที่เดินทางจากสิงคโปร์มา กรุงเทพฯ ด้วยรถ Maserati แพลนนี้เตรียมตัวนานกว่า 1 เดือน เนื่องจากพวกเขาอยากหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และทั้งคู่ชอบการเดินทางบนท้องถนน เชอรีล เล่าว่า “เราจองที่พักกันวันต่อวัน เผื่อแผนที่ไม่แน่นอน” วันที่ 19 มิ.ย. พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางด้วยการขับรถจากสิงคโปร์ไปหาดใหญ่เป็นเวลา 7 ชั่วโมงก่อนจะเดินทางไปหัวหินในวันรุ่งขึ้นซึ่งใช้เวลา 9 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนวันที่ 3 พวกเขาจะมาถึงกรุงเทพฯ เชอรีล กล่าววอีกว่า พวกเขาจะแวะเข้าห้องน้ำทุก ๆ 3 ชั่วโมงขณะเดินทาง และมีเพียงสามีของเธอเท่านั้นที่ขับรถ ก่อนที่จะจบทริปท่องเที่ยวประเทศไทย และเดินทางกลับถึงสิงคโปร์ในวันที่ 27 มิ.ย. สิ่งที่หลายคนสงสัยคงเป็นค่าใช้จ่ายในทริปนี้ เชอรีล ได้แชร์รายละเอียดค่าใช้จ่ายของการเดินทาง พวกเขาเดินทางระยะทางรวม 4,200 กม. โดยใช้น้ำมันดีเซล 320 ลิตร เสียค่าเอกสารเข้าประเทศไทยราคา 10 ริงกิตมาเลเซีย (75 บาท) ค่าประกันภัย […]

แลนด์มาร์กใหม่! “น้องพีนัท” แมวจรในสิงคโปร์ เป็นมิตร-จกพุงได้ ได้รีวิวจาก นทท.5ดาว!

ล่าสุด เกิดกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นแลนด์มาร์กแบบใหม่แบบสับ แถมน่ารักสุด ๆ หลังมีการตั้งจุดท่องเที่ยวบนกูเกิลแมปส์ ด้วยความเป็นมิตรของแมวตัวหนึ่งจนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกขนานนามว่า แมวที่เป็นมิตร Friendly cat (Peanut) ซึ่งมีความหมายตรงตัว คือ แมวเป็นมิตรที่ชื่อว่า พีนัท ตั้งอยู่บริเวณถนน Bishan Street 12 แน่นอนว่าด้วยความน่ารัก จกพุงได้ของน้องเหมียวทำนักท่องเที่ยวที่เคยเยี่ยมชมและมีปฏิสัมพันธ์กับพีนัทแมวน้อยได้ให้คะแนนรีวิวระดับ 5 ดาวแก่แมวตัวนี้ โดยเวลาเปิดทำการที่สามารถพบเจ้าพีนัทได้ คือช่วงเวลาตั้งแต่ 6.30 น. – 21.45 น. ซึ่งจากภาพพีนัทไม่มีความลังเลที่จะเข้าใกล้และทำตัวสนิทสนมกับนักท่องเที่ยว นอกจากการต้อนรับแล้ว พีนัทยังสร้างเสน่ห์ให้กับผู้สัญจรไปมาด้วยความน่ารัก อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 เดือนมิถุนายน เวลา 19.30 น. ตำแหน่งที่ตั้งของพีนัทและช่วงเวลาที่เป็นไปได้ในการปรากฏตัวของพีนัทได้ถูกลบออกแล้ว   ข่าวจาก : ข่าวสด

สิงคโปร์เริ่ม Work from home หลังโควิดพุ่งอีกระลอก

Tate Anzur บริษัทประชาสัมพันธ์ในสิงคโปร์ ตัดสินใจนำเสนอการดำเนินการ “รีเซ็ตสุขภาพ” ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบว่าพนักงานจำนวนมากเริ่มติดเชื้อมากขึ้น ช่วงเดือนที่ผ่านมา เกือบครึ่งหนึ่งของพนักงาน คือ 21 คน จากทั้งหมด 50 คน ได้ลาป่วย ขณะที่ตรวจพบว่า 4 คนในจำนวนนี้ติดเชื้อโควิด เพื่อลดเวลาการเดินทางและการอยู่ในสำนักงาน บริษัทส่งเสริมให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from home) จนถึงสิ้นเดือนเมษายน แทนที่จะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ 2 วันต่อสัปดาห์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข Ong Ye Kung กล่าวถึงสถานการณ์โควิดในสิงคโปร์ว่า เดือนที่ผ่านมาประเทศต้องตกอยู่ท่ามกลางการติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1,400 ในเดือนมีนาคม เป็น 4,000 คนต่อวันในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงทรงตัวหรืออาจมีแนวโน้มลดลงได้ เช่นเดียวกับ พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซสิงคโปร์ (Madame Tussauds Singapore) ซึ่งอนุญาตให้พนักงานที่ไม่ได้พบปะลูกค้าสามารถทำงานจากที่บ้านได้ โดยแถลงว่าบริษัทพบพนักงานราว 2-4 คนจากทีมที่ติดต่อกับลูกค้าลาป่วยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา […]

เปิดรายได้ขอทานสิงคโปร์ มารอทุกวันช่วง 10โมง-1ทุ่ม ได้วันละ5,000-7,800บาท

สื่อสิงคโปร์ รายงานว่า หญิงชรารายหนึ่งมีรายได้วันละประมาณ 200-300 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 5,000-7,800 บาทจากการขอทานที่ทางออกของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเบอโดก (Bedok) ประเทศสิงคโปร์ โดยหญิงชราขอทานรายนี้จะออกมานั่งขอเงินจากคนที่เดินผ่านไปมาบริเวณทางออกของสถานีทุกวันตั้งแต่ 10.00-19.00น. แม้ว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นเธอจะมีคนรับใช้ไว้ที่บ้านก็ตาม ตามรายงาน ระบุว่า ทางออกของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเบอโดกนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมามากมาย ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นจุดรวมของพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงลอยขายของต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทิชชู่ ที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ทำการสำรวจบริเวณโดยรอบทางออกนั้น สื่อได้เล่าว่า มีหญิงชราขอทานท่านหนึ่งออกมาขอเงินจากผู้ที่เดินผ่าน โดยหญิงชราจะเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ หลังของเธอค่อมงอ 90 องศา มือข้างหนึ่งของเธอคอยแตะเข่าตัวเองราวกับว่าเข่าของเธอเจ็บปวด และเมื่อใครก็ตามที่เดินผ่านเธอ เธอจะขอเงินพวกเขา ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเอาเงินให้เธอ ด้านผู้หญิงชาวเวียดนามคนหนึ่งที่ให้เงินกับหญิงชราขอทานคนดังกล่าว บอกว่า “เธอถามฉันว่าฉันจะให้เงินเธอได้ไหม ฉันเห็นว่าเธอเป็นหญิงชราที่ยากจนและตัดสินใจให้เงินเธอ แต่ฉันไม่มีเงินมาก ไม่อย่างนั้นฉันอยากจะให้เงินเธอ 50 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1,300 บาท” “ไม่ว่ายายจะพูดจริงหรือไม่จริง ฉันก็ยังช่วยยายอยู่ดี เพราะถ้ายายจนจริง ๆ ล่ะ ฉันก็จะได้ช่วยเหลือยายได้” อย่างไรก็ตาม สื่อรายงานเพิ่มเติมว่า หญิงชราขอทานคนนี้มีลูกชายและลูกสาว และที่บ้านยังจ้างคนรับใช้ และแม้ชีวิตจะไม่ได้อดอยาก แต่คุณยายก็ยังมาขอทานที่เดิมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 […]

หนุ่มแชร์ประสบการณ์ อาชีพเก็บขยะในสิงคโปร์ ไม่ต้องมีวุฒิ เงินเดือนมากกว่า 7 หมื่น

24 สิงหาคม 2565 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เผยว่า หนุ่มมาเลเซีย ผู้ใช้บัญชี TikTok @ezzaiky7 ได้แชร์คลิปวิดีโอเผยประสบการณ์ ภายหลังจากไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดและเก็บขยะที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเผยเงินค่าตอบแทนที่เขาได้รับนั้น สามารถทำเงินได้มากถึงเดือนละประมาณ 6,000-9,600 ริงกิตมาเลเซีย (ราว 48,000-77,000 บาท) อย่างไรก็ตาม หนุ่มรายดังกล่าวเผยว่า แม้ว่าจะได้รับเงินค่าจ้างที่สูง แต่งานที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำงานไม่น้อย และต้องอดทนที่จะฝ่ามันไปให้ได้ ทว่าหลังจากนั้น มีชาวเน็ตมาเลเซียบางรายเข้าไปโต้แย้งว่า อาชีพในประเทศมาเลเซียนั้น ให้เงินตอบแทนดีกว่านี้ หนุ่มเจ้าของโพสต์จึงเข้าไปตอบว่า “งานที่ได้ค่าตอบแทนสูงในมาเลเซีย อาจเป็นงานสำหรับผู้ที่มีการศึกษา สำหรับผมที่ไม่มีวุฒิการศึกษา ถ้าอยู่ในประเทศของผม แล้วผมสามารถทำเงินได้ 7,000, 8,000 หรือ 9,000 ริงกิต ผมก็อยากได้เหมือนกัน” ภายหลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็ได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์ บางคนเข้าไปถามว่า เขารู้สึกอายกับงานที่ทำไหม ? ซึ่งเขาตอบว่า เขาไม่เคยอายและรู้สึกขอบคุณสำหรับงานของเขา “เรามีชะตากรรมที่แตกต่างกัน พระเจ้าได้วางแผนดีที่สุดสำหรับเรา ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปขโมยหรือขอจากใคร” ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า แม้ว่าเขาจะเป็นชาวมาเลเซียที่ไปทำงานที่สิงคโปร์ แต่เขาก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่นั่น โดยเขาอาศัยอยู่ที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ในประเทศมาเลเซียกับครอบครัว และเดินทางไปทำงานที่สิงคโปร์ทุกวัน […]

สิงคโปร์ปลดล็อก! ต่างชาติเข้าประเทศได้ ไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 เม.ย.

สิงคโปร์ปลดล็อก! นักเดินทางต่างชาติเข้าประเทศได้ ไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 เม.ย. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สิงคโปร์จะยกเลิกข้อจำกัดสำหรับนักเดินทางทุกคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว ให้เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป ซึ่งนายลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวยกย่องว่า “เป็นก้าวสำคัญ” ในความพยายามของสิงคโปร์ที่จะอยู่ร่วมกับโรคโควิด ทางการสิงคโปร์ระบุว่า นับจากวันที่ 1 เมษายนนี้ นักเดินทางผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สามารถเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัวตราบเท่าที่มีการตรวจโควิดก่อนออกเดินทางแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีลีกล่าวผ่านโทรทัศน์ว่า สิงคโปร์ได้บรรลุก้าวสำคัญในความพยายามจะอยู่ร่วมกับโควิด การผ่อนคลายมาตรการควบคุมด้านการเดินทาง จะเป็นการเชื่อมต่อสิงคโปร์กับโลกอีกครั้ง สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และจะช่วยให้สิงคโปร์ทวงคืนความเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการบินกลับคืนมาได้ อย่างไรก็ดี เฉพาะนักเดินทางที่อยู่ใน “รายชื่อที่ถูกจำกัด” เท่านั้น ที่จะต้องเผชิญมาตรการควบคุมในการเดินทางเข้าสิงคโปร์ แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดอยู่ในรายชื่อดังกล่าวก็ตาม นอกจากนี้รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดอื่นๆ ลงด้วย โดยประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากเมื่อออกไปข้างนอกอีกต่อไป และอนุญาตให้รวมตัวกันได้ไม่เกินกลุ่มละ 10 คน จากเดิมจำกัดไว้ที่ 5 คน   ข่าวจาก : มติชน

1 2
error: