ชาติแรกอาเซียน! “สิงคโปร์” ประกาศคว่ำบาตร “รัสเซีย”

Advertisement ชาติแรกอาเซียน! สิงคโปร์ประกาศคว่ำบาตร ‘รัสเซีย’ สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ในกรณีนำกำลังทหารบุกประเทศยูเครน เมื่อล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์จะระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของรัสเซีย และห้ามการส่งออกสินค้าใดๆ ก็ตามที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ Advertisement การประกาศคว่ำบาตรรัสเซียดังกล่าวส่งผลให้สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หลังจากสหรัฐ สหภาพยุโรป อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และไต้หวัน ประกาศคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้เพื่อกดดันรัฐบาลรัสเซีย วิเวียน บาลาคริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วสิงคโปร์จะไม่คว่ำบาตรประเทศอื่นๆ โดยไม่มีมติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่จากสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการโจมตีของรัสเซีย สิงคโปร์เห็นพ้องกับประเทศอื่นๆ ที่มีความคิดเห็นตรงกันในการที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรและสร้างข้อจำกัดกับรัสเซีย Advertisement รายงานระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสิงคโปร์ รวมไปถึงการจำกัดการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ และจะมีการห้ามธนาคารรัสเซียหลายแห่งทำธุรกรรม และห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ที่เชื่อมโยงกับประเทศรัสเซีย ขณะที่มาตรการเฉพาะเจาะจงอื่นๆ จะมีการหารือเพื่อนำมาประกาศคว่ำบาตรต่อไป ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน สิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์ไปยังกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียแล้ว โดยอ้างเหตุผลในเชิงปฏิบัติการ ขณะที่สายการบินในยุโรปส่วนใหญ่ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังรัสเซีย รวมถึงเปลี่ยนเส้นทางบินหลีกเลี่ยงน่านฟ้ารัสเซียแล้ว ขณะที่อียูประกาศห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าแล้วเช่นกัน   ข่าวจาก : มติชน

สิงคโปร์ ตั้งพลจัตวา “เดวิด นีโอ” วัย 44 ปี เป็นผบ.ทบ.คนใหม่

สิงคโปร์ ตั้งพลจัตวา ‘เดวิด นีโอ’ วัย 44 ปี เป็นผบ.ทบ.คนใหม่ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ กระทรวงกลาโหมของประเทศสิงคโปร์ ได้ประกาศแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ จาก พล.ต.โก๊ะ ซือ โฮว เป็น พลจัตวา เดวิด นีโอ รองเลขาธิการฝ่ายเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม นี้ หลังจาก ผบ.ทบ.คนเดิม ดำรงตำแหน่งมาได้ 4 ปี สำหรับ พลจัตวา เดวิด นีโอ ผบ.ทบ.คนใหม่นี้ มีอายุ 44 ปี เข้าร่วมกองทัพสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ.2539 เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโด ดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาหลายตำแหน่งในกองทัพ อาทิ ผู้บังคับบัญชากองพันที่ 1 กองทหารรักษาการณ์สิงคโปร์, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รวมถึงผู้บัญชาการกองพลที่ 3 ของสิงคโปร์ ทั้งยังได้รับมอบหมายตำแหน่งสำคัญ […]

สิงคโปร์ประกาศ ธ.ค.นี้ ใครไม่ฉีดวัคซีน รบ.จะไม่ออกค่ารักษาให้แล้ว

รัฐบาลสิงคโปร์เข้ม ตั้งแต่ 8 ธ.ค. เป็นต้นไป ใครที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่ไม่ฉีด หากติดเชื้อ จะต้องออกค่ารักษาพยาบาลเอง ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลักพัน ล่าสุด รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศว่า จะไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ “เลือกจะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19” อีกต่อไป หลังจากนี้ใครไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วติดเชื้อโควิด-19 จะต้องออกค่ารักษาเอง ปัจจุบัน รัฐบาลสิงคโปร์จะออกเงินค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 ทั้งหมดให้กับชาวสิงคโปร์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์อาศัยถาวรและผู้ถือวีซ่าระยะยาว เว้นแต่จะมีผลตรวจเป็นบวกหลังจากกลับจากต่างประเทศไม่นาน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. รัฐบาลกล่าวว่า “จะเริ่มเรียกเก็บเงินผู้ป่วยโควิด-19 ที่เลือกจะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19” รัฐบาลกล่าวว่า “คนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนับเป็นส่วนใหญ่ของผู้ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดหากติดโควิด-19 และมีส่วนทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบการดูแลสุขภาพของเรา” ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีสภาวะซึ่งไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้นั้น รัฐบาลสิงคโปร์จะยังคงออกค่ารักษาพยาบาลให้ตามปกติ ส่วนคนที่เพิ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปเพียง 1 เข็มหรือยังไม่ครบโดส รัฐบาลสิงคโปร์จะขยายเวลาให้ฉีดเข็ม 2 จนถึง 31 ธ.ค. สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสให้ประชาชนที่สูงที่สุดในโลก โดย 85% ของประชากรได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว   ข่าวจาก […]

สิงคโปร์ไฟเขียววัคซีนโควิดเข็ม 3 เริ่มฉีดผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

สิงคโปร์พร้อมฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 ในเดือนนี้ เริ่มฉีดผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ขณะที่รัฐบาลส่งสัญญาณ ปรับมาตรการอยู่กับโควิด ให้ความสำคัญผู้ป่วยใหม่น้อยลง วันที่ 4 ก.ย. 2564 เว็บไซต์ Kyodo News สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 โดยจะเริ่มต้นฉีดจากกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปก่อนเป็นอันดับแรก และพร้อมฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุภายในเดือนนี้ แม้ปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์จะฉีดวัคซีนโควิด-19 จนครบโดสให้กับประชากรอย่างน้อย 80% แล้ว แต่รัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่า การตัดสินใจฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาที่มีการระบาดรุนแรงขึ้น รายงานจากสื่อญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า ในตอนนี้รัฐมนตรีสิงคโปร์หลายคนเริ่มส่งสัญญาณปรับนโยบายเพื่อต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ควบคุมการระบาดได้ยาก โดยรัฐมนตรีคลังสิงคโปร์เปิดเผยว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ป่วยอาการหนักและสัดส่วนการครองเตียงไอซียูในโรงพยาบาล แทนจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวัน รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า สิงคโปร์จะเดินหน้าเป็นประเทศที่ฟื้นฟูจากโควิด-19 และอยู่กับไวรัสให้ได้ พร้อมยอมรับว่า ความรุนแรงของสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อง่าย ทำให้มาตรการเดิมๆ เช่น การเว้นระยะห่างหรือการปิดพรมแดน ไม่ยั่งยืนอีกต่อไป   ข่าวจาก : workpointtoday

ที่สุดในอาเซียน ไทย อันดับ 1 ประเทศพัฒนายั่งยืน แถมอันดับโลกดีกว่า สิงคโปร์

ไทย คว้าอันดับ 1 อาเซียน ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน แถมอันดับโลกดีกว่า สิงคโปร์ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัย Cambridge ได้เผยแพร่รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2564 (Sustainable Development Report 2021) พบว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 43 ของโลก จากทั้งหมด 165 ประเทศทั่วโลก เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว และเป็นลำดับ 3 ในทวีปเอเชีย ในรายงานการจัดอันดับการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ ซึ่งรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน “SDG Index” เป็นการประเมินความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ข้อ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีคะแนนเฉลี่ยรวม 74.19 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ที่ 65.7 คะแนน และในรายงานได้ระบุว่า ไทยบรรลุเป้าหมายแล้วในหัวข้อ SDG 1 ขจัดความยากจน […]

ไทยน่าจะมีบ้าง!! แห่แชร์นโยบายสุขภาพชาวสิงคโปร์ ‘สะสมจำนวนก้าวเดิน แลกตังค์ได้’ หนุนคนหันมาเดินออกกำลังมากขึ้น ประหยัดงบการรักษาพยาบาลมากขึ้น!!

  16 ก.พ.61 เฟซบุ๊ก Kasidis Khantharat โพสต์ภาพนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะชนิดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ โดยระบุข้อความว่า.. รัฐบาลสิงคโปร์ฉลาดมากครับ "National Steps Challenge  ถามเพื่อนว่าคาดนาฬิกาอะไร เขาบอกว่าเป็นนาฬิกาที่รัฐบาลสิงคโปร์แจกให้ประชาชน ประมาณ 500,000 เรือน นาฬิกามันจะจับก้าวเดิน ทุกๆ 10,000 ก้าว เราจะสะสมได้ 15 คะแนน ครบ 750 คะแนน เมื่อไร ก็จะนำไปแลกเป็นเงินได้ 5 เหรียญ นอกจากสนุกที่ได้สะสมคะแนนไปเรื่อยๆ ได้เคลื่อนไหวให้มากขึ้น และยังได้สตางค์ และจะกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจดูแลสุขภาพ โดยที่รัฐบาลเองก็สามรถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล"     โดยโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไปกว่า 14,000 ครั้ง หลายคนต่างรู้สึกชื่นชมในนโยบายดังกล่าวของสิงคโปร์ พร้อมทั้งมองย้อนกลับมาที่ไทยบ้างว่า น่าจะมีนโยบายดีๆ แบบนี้     ขอบคุณข้อมูลจาก : Kasidis Khantharat

1 2
error: