‘หมอพรทิพย์’ สู้ 14 ปีพ้นมลทินคดี GT200 ศาลยันไร้พบทำผิด

Advertisement 27 มี.ค. แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ที่พวกเราพ้นมลทิน Advertisement หมอและทีมงานถูกป.ป.ช.ฟ้องว่าทุจริตคอร์รัปชั่นประพฤติมิชอบในการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจหาวัตถุระเบิด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับราชการ โดยเฉพาะข้าราชการที่ลงไปทำงานในพื้นที่อันตรายที่มีความเสี่ยงตลอดเวลา เมื่อมีการกล่าวหาและเลขาฯ ป.ป.ช.เป็นผู้ให้ข่าวต่อสาธารณะประหนึ่งว่าทำผิดจริงศาลตัดสินแล้ว จึงเป็นเหมือนการประหารชีวิต ทั้งที่ป.ป.ช.ทราบอยู่แล้วว่าไม่มีหลักฐานการทุจริตคอร์รัปชั่น ตั้งแต่ในชั้นการสอบสวน ตลอดเวลา 14 ปี มีคนมีความพยามสื่อสาร สร้างข่าว กระแสในทางลบ หมอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นต้นเหตุก่อให้เกิดการซื้อ และทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งที่ข้อเท็จจริง หน่วยงานความมั่นคงได้ดำเนินการจัดซื้อ GT200 ดังนี้ กองทัพอากาศ ซื้อครั้งแรกปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 รวมจัดซื้อ 26 เครื่อง กองทัพบก ซื้อครั้งแรกปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมจัดซื้อ 757 เครื่อง กองทัพเรือ ซื้อครั้งแรกปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 […]

อดีต สส.ชลบุรี มองต่างมุม เปิดข้อกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ไล่ “หมอพรทิพย์” ออกจากร้าน

นายพรรณธฤต เนื่องจํานงค์ หรือ พายุ เนื่องจำนงค์ อดีต สส.ชลบุรี โพสต์ข้อกฎหมายกรณีหมอพรทิพย์ ถูกไล่ออกจากร้านอาหารในต่างประเทศ โดยระบุว่า มุมมองส่วนตัวกรณีของ #หมอพรทิพย์ ที่ถูกขับไล่ออกจากร้านของคนไทยร้านนึงที่ต่างประเทศนั้น ผมมองว่า.. 1. เจ้าของร้าน ‘มีสิทธิ์’ ที่จะปฎิเสธการให้บริการ “ถ้ามีเหตุ” ให้ต้องปฎิเสธ เช่น สร้างความวุ่นวาย / เมา หรือไม่ทำตามระเบียบชองร้านที่ระบุไว้ก่อน (ต้องใส่เสื้อ ใส่รองเท้า ในร้าน) ซึ่งในกรณีจากในคลิปนั้นไม่ใช่ประเด็น 2. เจ้าของร้าน ‘ไม่มีสิทธิ์’ ที่จะไล่ด้วยเหตุดังต่อไปนี้ เช่น สัญชาติ, สีผิว, ศาสนา, เพศสภาพ และในบางที่นั้นครอบคลุมไปถึง ‘การข้องเกี่ยวทางการเมือง’ (political affiliation) ของตัวลูกค้า เช่นในกรณีนี้ที่เจ้าของร้านอ้างการเมืองเป็นเหตุที่ขับไล่หมอ 3. เจ้าของร้าน ‘ไม่มีสิทธิ์’ ที่จะถ่ายสบประมาท และถ่ายประจานหมอและนำมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางหมอเช่นในคลิป (รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ไม่รู้เรื่องด้วยที่ติดมาในคลิป) มันเป็นการล่วงเกินสิทธิ์ส่วนบุคคลของตัวหมอ ซึ่งในคลิปนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คลิปกลับเป็นหลักฐานประกอบการละเมิดโดยตัวเจ้าของร้านแทน 4. ขอเรียนว่าบริบทกฎหมายที่พูดถึงนั้นมาจากกฎหมาย […]

หมอพรทิพย์ ปิดให้แสดงความเห็นไอจี โพสต์บรรยายอสุภะกรรมฐาน

จากกรณีการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นชอบเพียง 324 เสียง ทำให้ไม่ได้เสียงกึ่งหนึ่ง 375 เสียงเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย โดยในจำนวนผู้ที่โหวตเห็นชอบมีเสียง ส.ว. 13 เสียงที่สนับสนุน โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นหนึ่งใน 159 ส.ว.ที่งดออกเสียง ส่งผลให้ในโลกโซเชียลได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวในช่องทางสื่อออนไลน์ของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ อย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ส.ว. ได้ปิดให้แสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมส่วนตัว หลังโพสต์รูปภาพขณะกำลังบรรยายให้กับพระสงฆ์และชี ที่วัดแห่งหนึ่ง โดย ส.ว.คนดัง ระบุว่า “ขอนำบุญในการบรรยายเรื่องอสุภะ**ให้กับพระและชีมาเลเซียที่มาบวชที่วัดป่าหัวดอน เขื่องใน อุบลราชธานี มีชีวิตอยู่ก็ให้สะสมกรรมดี พระพุทธองค์ทรงสอนไว้” ทั้งนี้ สำหรับ อสุภะกรรมฐาน** เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกำจัดราคะจริต และกามารมณ์ โดยการพิจารณาร่างกาย พิจารณาซากศพ ให้เห็นสภาพตามความเป็นจริง   ข่าวจาก : มติชน

‘หมอพรทิพย์’ เผยเหตุผล หลังงดออกเสียงโหวตนายกฯ หน้าที่ ส.ว. คือรักษาชาติ

13 ก.ค. 2566 – พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยระบุข้อความดังนี้ ที่สุดก็ไม่มีคำอธิบายว่า ทำไมต้องแก้มาตรา 112 แต่ยิ่งชัดเจนว่า ยืนยันจะแก้ไขแน่นอน ที่สำคัญพรรคต่าง ๆ ที่ทำข้อตกลงร่วมกันก็ยอมให้พรรคก้าวไกลเสนอแก้มาตรา 112 ได้ การเมืองไทยเป็นเช่นนี้ หมอจึงได้คำตอบว่าปิดสวิตช์ตามหลักการเดิม และปิดตลอดไปจนกว่าจะหมดวาระ 1 หลักการของประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งให้ได้พรรคการเมืองมาบริหารบ้านเมืองให้สังคมมีความยุติธรรม คำนึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การดำเนินการตามนโยบายของพรรคที่ได้เสียงสนับสนุนหรือเสียงข้างมากเป็นหลักแม้นโยบายจะทำลายชาติ 2 การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีการกระทำที่ขัดหลักการประชาธิปไตยในประเด็นสำคัญคือ การห้ามผู้สมัครใช้อำนาจผ่านสื่อที่ตัวเองเป็นเจ้าของหรือมีหุ้นเอาเปรียบพรรคอื่น ๆ เพียงแต่กฎหมายไทยไม่ได้แก้ไขให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การชนะในครั้งนี้คือการใช้สื่อโซเชี่ยล ปลุกระดม ให้ข้อมูลเท็จบ้างจริงบ้างและให้ใช้สื่อละเมิดผู้อื่นที่เรียกว่าด้อม บูลลี่ ตามด่า รวมทั้งการสร้างอวตารเข้าทำอันตรายในทุกช่องทางสื่อสารส่วนตัวด้วยเพราะตัวบทกฎหมายตามไม่ทัน จนกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งรุนแรงและแสดงถึงการไม่ยอมรับความเห็นต่าง 3 รัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติที่มนุษย์ร่วมกันตกลงเขียนขึ้นไม่ใช่หลักธรรมะ จึงอาจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้วแต่มนุษย์จะตกลง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้มาตามครรลองประชาธิปไตยคือผ่านการลงประชามติ การทำหน้าที่ของสวจึงเป็นไปตามบทบาทที่กำหนด 4 ประเด็นสำคัญที่ ส.ว. ติดใจคือการขอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจากการหาเสียงมีแนวทางที่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มที่สนับสนุนสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งล้วนแสดงกิริยาให้ร้ายต่อสถาบัน มีการสนับสนุนให้หมิ่นประมาทตั้งแต่สถาบันพระมหาษัตริย์ […]

“หมอพรทิพย์” หยิบ 10 ข้อเรียกร้องม็อบปี’63 ลั่นถ้า “พิธา” ไม่ได้นั่งนายกฯ ไม่ใช่เพราะ ส.ว.

21 พฤษภาคม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงท่าทีของการรวมตัวกันของโหวตเตอร์ที่จะมีขึ้นวันที่ 23 พฤษภาคม ที่หน้ารัฐสภา ฝั่งบุญรอด เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้ ส.ว.ไม่โหวตสวนมติประชาชน นอกจากนี้ ยังนำ 10 ข้อเรียกร้องที่ปรากฏในกิจกรรมชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกรณีที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่าง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีจุดยืนในการแก้ไขมาตรา 112 ความตอนหนึ่งว่า ในฐานะอดีตข้าราชการไทยที่เลือกอาชีพด้วยความตั้งใจเป็นข้าแห่งพระราชาดูแลประชาชน หรือในฐานะ ส.ว. หรือในฐานะคนไทย แม้นโยบายที่พรรคก้าวไกลเสนอก่อนเลือกตั้งจะยังไม่ได้ถูกตกลง หรือเปิดเผยให้สังคมได้เห็นว่าเมื่อต้องเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคอื่นจะปรับนโยบายเป็นอย่างไร หลายอย่างเป็นสิ่งดีถ้าทำได้ เป็นสิ่งที่การเมืองก่อนหน้าไม่เคยทำสำเร็จ แต่นโยบายที่ต้องไม่แตะคือการทำลายสถาบัน เนื้อหา 10 ข้อที่หาเสียงคงมาจาก “นายทุนความคิด” ที่จัดทำมาให้ เป็นสิ่งที่สะท้อนความเกลียด ความแค้น ความต้องการทำลายสถาบัน อย่าอ้างผลการเลือกตั้งที่ว่าได้เสียงส่วนใหญ่ เพราะที่ได้มาก็แค่มากกว่าพรรคอื่น แต่ไม่อาจอ้างได้ว่าคือเสียงส่วนใหญ่ของคนไทย… พญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุด้วยว่า ประชาชนต้องใจเย็น ต้องเปิดปัญญารอดูว่าเขาจะมาสร้างสิ่งที่หาเสียงไว้ไหม จะสร้างการเมืองดี […]

หมอพรทิพย์ เอือมปลวกกินเมือง ปราบทุจริตไม่จริงจัง ต้องรอกรรมทำงาน?

31 มกราคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่ข้อเขียนผ่านอินสตาแกรม ถึงประเด็นปัญหาการทุจริตในสังคมไทย โดยระบุว่า เรียกได้ว่ากรรมกำลังทำงาน ความวัวไม่ทันกระจ่าง ความควาย ความสารพัดทยอยเป็นประเด็นทุกวัน จิ้มตรงไหนก็พบเรื่องทุจริต จิ้มตรงไหนก็พันมายังคนใกล้ชิดคนรู้จักกับผู้อยู่ในอำนาจ จิ้มตรงไหนก็ได้เห็นการพยายามปกป้ององค์กร พยายามปัดป่าว ปัดทิ้ง จิ้มตรงไหนก็ไม่พบความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบ การจัดการกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่นด้วยกฎหมายผุพังมานานแล้ว ยิ่งตั้งหน่วยตรวจสอบมากเท่าไหร่ ความโปร่งใส ประสิทธิภาพก็หายไป นักการเมืองทุกยุคล้วนพยายามแทรกแซงอำนาจ โดยเอาคนของตัวเองเข้าไปเพื่อช่วยคนของเขาและเอาไว้กลั่นแกล้งคนอื่น ข่าวเรื่องนักท่องเที่ยวไต้หวันกล่าวหาว่าถูกรีดเงิน ทำให้เห็นชัดว่าท่าทีและกลไกหน่วยงานล้วนสวนทางความต้องการของสังคม ถ้าไม่มีคนนอกคอยเติมข้อมูลในข่าวเรื่องคงเงียบไปแล้ว ใกล้เลือกตั้งแต่ละพรรคก็มุ่งเสนอและหลอกล่อประชาชนด้วยผลประโยชน์เชิงสวัสดิการ ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีความชัดเจนการแก้ปัญหาปลวกกินเมืองนี้ คนที่อาสามาปฏิรูปก็ไม่ได้ทำอะไรไว้เลยในช่วงที่ผ่านมา อีกสองปีก็คงไม่มีเรื่องนี้ อีกคนเริ่มฉีกตัวเองออกว่าไม่ได้ร่วมปฏิวัติ และจะพยายามลดความขัดแย้ง ท่าทีเช่นนี้ชัดเจนว่าไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคอรัปชั่น ส่วนพรรคการเมืองดั้งเดิมอื่นๆไม่เคยมีนโยบายเรื่องนี้มาก่อนและคงไม่ให้ความสำคัญแน่นอน ฤาจะมีแต่กรรมที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด   ข่าวจาก : มติชน

หมอพรทิพย์ซัดประยุทธ์ ทุจริตฉาวคับประเทศ ยังนิ่งเฉย แถมทำอะไรไม่ได้

19 มกราคม แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่ข้อเขียนผ่านอินสตาแกรม ถึงการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีที่มีต่อปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นภายในประเทศ ความว่า “ต้องกลับมาเขียนเรื่องนี้อีกครั้งเพราะความนิ่งเฉยของนายกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายหน่วยงาน กรณีตู้ห่าวที่พลิกให้เห็นขยะใต้พรมตั้งแต่การแทรกซึมยึดแผ่นดินของคนต่างด้าวด้วยการทุจริตและด้วยด้วยความอ่อนแอของคนไทยทุกภาคส่วน เดิมทีคนพม่ายึดธุรกิจแผงลอยในตลาด และกิจการหลายอย่าง เราคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานที่ทะลักเข้ามาไม่ได้ ตามมาด้วยเรื่องคนจีนที่ก็ทะลักเข้ามาพร้อมการแทรกที่จุดโหว่ของระบบราชการไทยและคนไทย กรณีการจ่ายส่วยในการเลื่อนตำแหน่งที่รู้กันว่ามีในหลายหน่วยงาน ขนาดจับเงินสดได้จำนวนมหาศาลยังทำอะไรไม่ได้ กรณีการใช้อำนาจเข้าตรวจค้นแล้วยักยอกเงินของกลางซึ่งมีมานานหัวหน้าล้วนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่หรือร่วมกินด้วยเลย กรณีการแก้ปัญหาในระบบราชการด้วยการย้ายไปแขวน ย้ายสลับที่ไม่เคยมีระบบให้สังคมได้ติดตามมีส่วนร่วม เมื่อมีข่าวอื่นแทรก ผู้คนเริ่มลืมคนเหล่านี้ก็กลับเข้าสู่ตำแหน่ง แต่อะไรก็ไม่เท่ากับย้ายคนสีเทาไปไว้ในหน่วยงานอื่น ทำให้บุคคลากรดีๆต้องเสียขวัญเสียกำลังใจเพราะเป็นที่พักรอเวลา ผู้คนในปัจจุบันไม่รักษาและไม่ศรัทธาธรรม ถูกพลังความชั่วฉุดให้ทำชั่วได้ง่าย รวมทั้งคนที่ไม่ได้ร่วมทำชั่วต่างเกรงและกลัวที่ออกมาจัดการหรือต่อสู้ กลายเป็นฝ่ายหลบลี้หนีภัย ล้วนทำให้มีการแผ่อำนาจความชั่วร้ายเต็มไปหมด เสียดายที่ผู้นำตั้งใจเดินต่อในสายการเมืองจึงเงียบต่อสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ หมอยังคงรักษาความศรัทธาไว้อยู่ เพียงแต่มองหาแนวร่วม มองหาทางออกไม่เจอ ไม่หมดใจ ไม่ถอดใจแน่นอน ยามนี้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้ปลุกปั้นตามที่รัฐธรรมนูญฉบับ2540 กำหนดกำลังเริ่มหันหัวเรือเดินหน้าได้ใหม่ หลังจากที่การเมืองต้องการยุบ แต่เมื่อยุบไม่สำเร็จก็ใช้เป็นที่เอาคนมารอขึ้นหน่วยงานอื่น แต่ไม่หมือนคราวนี้ที่ย้ายคนมีปัญหาจากหน่วยอื่นมาพักไว้ นอกจากจะไม่แก้ปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ยังเป็นการทำลายกำลังใจคนดีๆ คำแนะนำของหมอคือ ถ้าเราไม่ลุกขึ้นสู้เอง รอดูคนอื่น ก็จงอย่าหวังว่าจะมีความเปลี่ยนแปลง หมอใช้แนวทางเก็บเศษแก้วแตกตลอดชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นคือเศษแก้วที่ทุกคนต้องช่วยกันเก็บออกและจัดการคนที่โยนแก้วทิ้งเรี่ยราด ที่ผ่านมาคนตัวเล็กก็เปลี่ยนโลกได้ ต้องสู้ ต้องกล้า”   ข่าวจาก : มติชน

หมอพรทิพย์ เผยจุดสำคัญคดีแตงโม ส่งอัยการอาจไม่สมบูรณ์

หมอพรทิพย์ เผยคดีแตงโมเหมือนจิ๊กซอว์ บางชิ้นเสียบลงแต่ไม่ใช่ส่วนของภาพ ภาพที่ส่งต่ออัยการอาจไม่สมบูรณ์ ชี้บาดแผลบอกทิศทางชัด ทิ้งท้าย อย่าให้ความชั่วครอบงำ คดีการเสียชีวิตของ ‘แตงโม นิดา’ หลังลงเรือสปีดโบ๊ต เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจในการสืบหาสาเหตุการเสียชีวิต และผ่านมาร่วม 2 เดือน วานนี้ (26 เมษายน) ตำรวจได้แถลงสรุปสำนวนคดีแตงโมแล้ว ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 เมษายน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรศพ โพสต์ข้อความหลังตำรวจแถลงสรุปสำนวนคดีแตงโมว่า “จิบกาแฟหน้าเจดีย์พระรัตนตรัยหลังทำข้าวผัดปลาเค็มถวายพระเรียบร้อย ได้มีเวลาดูข่าวแตงโมนิดหน่อย เหมือนอย่างที่เคยบอกว่าการรวบรวมพยานหลักฐานเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ บางชิ้นเสียบลงแต่ไม่ใช่ส่วนของภาพ บางชิ้นที่เป็นส่วนสำคัญยังหาชิ้นเชื่อมโยงไม่ได้ก็เลยทิ้งไป หรือไม่อยากเอามาใส่เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญ ที่สำคัญเราไม่มีกฎหมายที่กำหนดว่าต้องต่อภาพให้ “สมบูรณ์” และ “ถูกต้อง” ภาพที่ส่งต่ออัยการจึงอาจมีความไม่สมบูรณ์ คำถามปลายเปิดทำให้เกิดแพะ เกิดเหยื่อ เกิดความไม่เป็นธรรมมามากมาย แผลอาจเกิดจากใบพัดเรือแต่ก็อาจเกิดจากวัตถุอื่นได้ แผลก้างปลาบอกทิศทางได้ชัดเจนเพียงแต่จะเลือกฟังใคร คดีนี้จุดตกเรือสำคัญ เพราะวิทยาศาสตร์จะบอกได้ว่าไม่ใช่ท้ายเรือ สังคมไทยเกรงใจ เกรงกลัวอำนาจกันมานาน ส่งข้อมูลที่อยากรู้มาให้อ่านเช้านี้ ก่อนไปปฏิบัติภารกิจบุญงานสร้างพระประธานสถานที่เกิดหลวงปู่เสาร์ อรหันต์แห่งอุบล พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น หมั่นทำความดี อย่าให้ความชั่วครอบงำ […]

หมอพรทิพย์ เผยดวงตาแตงโมพบแอลกอฮอล์ คาใจแผล20รอย

หมอพรทิพย์ เผยดวงตา แตงโม นิดา พบแอลกฮอล์ 93 มก.เปอร์เซ็นต์ แต่ 5 คนบนเรือไม่ตรวจตั้งแต่วันแรกเหมือนมีการแทรกแซง ซ้ำพยานหลักฐานถูกทำลาย รับอยากพิสูจน์แผลที่ขาเกือบ 20 รอย วันที่ 21 มีนาคม 2565 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา โดยสอบถาม แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรศพครั้งที่ 2 ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม ชัดเจน แต่บาดแผลบนตัวยังอธิบายไม่ได้ ซึ่งไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นใบพัดเรือ จึงจำเป็นต้องสืบสวนสอบสวนตรวจสอบต่อ และยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นอุบัติเหตุล้วน ๆ หรือถูกกระทำ เพราะแตงโม มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจพบในลูกตา 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่า หลังเกิดเหตุเพื่อน 5 คนบนเรือ ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ทันที แต่ไปตรวจภายหลัง ตนมองว่าไม่แฟร์กับคนตาย อีกทั้งมีการให้ข่าวว่าไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่เจอแก้วและขวดไวน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพยานหลักฐานถูกทำลาย จากการสังเกตที่ร่างแตงโม พบบาดแผลที่ขาด้านหลังมีลักษณะเฉพาะเกือบ […]

หมอพรทิพย์เตรียมเข้าฟังผลชันสูตรรอบแรกกับแม่แตงโม เผยเป็น ส.ว. ไม่มีอำนาจผ่าพิสูจน์

วันนี้ (14 มีนาคม) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และ กรรมาธิการ (กมธ.) การสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ได้ยื่นขออายัดศพเพื่อขอชันสูตรเป็นรอบที่ 2 ว่า ตามคำแนะนำที่คุยกับแม่ของแตงโมและทนายความ การขอทราบผลตรวจศพและตรวจทุกอย่างที่เกี่ยวกับศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คือดีที่สุด และทราบว่าแม่แตงโมจะไปยื่นวันนี้ เวลา 15.00 น. โดยตนจะไปในนามของคณะ กมธ. และผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อเข้าไปร่วมดูและจะอธิบายให้ฟังว่าตอบคำถามหมดหรือไม่ เช่น แผลที่ขา หลังจากได้ผลชิ้นเนื้อแล้ว หมอจะทราบได้ว่าโดนใบพัดหรืออะไรกันแน่ หรือถ้ายังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัย เมื่อนั้นก็ควรจะมีการชันสูตรศพใหม่ ซึ่งเป็นสิทธิของเขา และเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวและมารยาทจะไม่ลงไปเป็นผู้ผ่าชันสูตรศพเอง เพราะตามข้อกฎหมายไม่ได้อยู่ในฐานะที่ทำได้ แต่ตนสามารถให้คำปรึกษาได้ ทั้งในนามคณะ กมธ. และการเป็นคนไทยที่เห็นความไม่ยุติธรรม ถ้าตราบใดที่ตนยังมีลมหายใจจะขับเคลื่อนให้เปลี่ยนแปลงเชิงระบบให้ได้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า […]

1 2
error: