ทำความรู้จัก “โนโรไวรัส” ต้นเหตุทำชาวภูเก็ตป่วยพุ่ง 6.3 พันราย

Advertisement สถานการณ์ระบาดโรคทางเดินอาหารและน้ำในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้พบผู้ป่วย อาการท้องเสียเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน มียอดผู้ป่วยรวมสะสม 6,382 ราย ทั้งนี้ผลจากการตรวจในโรงพยาบาลพบว่าร้อยละ 70 ติดเชื้อโนโรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย Advertisement โนโรไวรัส เกิดจากอะไร? – อันตรายหรือไม่? ไวรัสโนโร (Norovirus) เป็นสาเหตุสำคัญของโรคอุจจาระร่วงในคนได้ทุกกลุ่มอายุแต่มักพบในกลุ่มเด็กโตและผู้ใหญ่ซึ่งมักมีการระบาดในครอบครัวหรือชุมชนเดียวกัน เชื้อไวรัสเพียงแค่ 10-100 particles ก็สามารถทำให้เกิดอาการของโรคได้ การติดต่อเป็นแบบ foecal oral route และมีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมง อาการของโนโรไวรัส ลักษณะของอาการผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ อาการมักรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงวัยเนื่องจากขาดน้ำ ปกติผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงโดยเฉพาะในเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุอาจก่อให้เกิดการขาดน้ำได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำเกลือแร่โออาร์เอสเพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่ หรืออาจให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ปัจจุบันยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงในการกำจัดเชื้อไวรัสนี้ อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส Advertisement ป้องกันโนโรไวรัส […]

error: