ดราม่าเด็กก้มกราบครู รร.เผย นร.คิดกิจกรรมเอง หวังแสดงความกตัญญู

Advertisement 7 เม.ย.2566 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผย กรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกโพสต์วิดีโอนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุพรรณบุรี เขต 1 นั่งก้มกราบครูทุกคน จนกว่าครูจะเดินผ่านทั้งหมด ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยทางโรงเรียนรายงานว่า กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมปัจฉิมนิเทศของนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศทุกปี โดยในปีนี้นักเรียนเป็นคนออกแบบกิจกรรมเพื่อแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตาระหว่างลูกศิษย์กับคุณครู ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดี Advertisement Advertisement “เรื่องดังกล่าวอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ซึ่งเรื่องนี้มองได้ 2 มุม คือ 1.เป็นการแสดงออกด้วยความกตัญญู หากกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกด้วยความกตัญญูก็ควรจะคงกิจกรรมนี้ไว้ และ 2. ถ้าเป็นการบังคับให้เด็กมาทำ และเด็กไม่เต็มใจ ไม่มีความภาคภูมิใจ ก็เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้น การจะให้คน คนหนึ่ง มาก้มกราบ หรือมาทำกิจกรรมอะไร ต้องดูความสมัครใจความต้องการของเด็กด้วย แต่อย่าไปบังคับให้เด็กทำ”นายอัมพร กล่าว   ข่าวจาก : ข่าวสด

เด็ก23คน โดนห้ามไม่ให้เข้าเรียน อ้างไร้สัญชาติ เป็นภาระครู เพจกฎหมายชี้เป็นการละเมิดสิทธิ

ล่าสุดมีการโพสต์ถึงเหตุการณ์ที่ จ.ตาก ซึ่งพบว่า เด็กจำนวน 23 คน ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียนโดยอ้างว่าเป็นเพราะไม่มีสัญชาติ และระบุว่า เป็นภาระครู โดยเพจ คลินิกกฎหมายอุ้มผาง โครงการสี่หมอชายแดนจ.ตาก ได้ระบุวา “ชะตากรรมเด็กน้อย ๒๓ คน โรงเรียนปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียน อ้างว่าหากรับเด็กไม่มีสัญชาติไทยอาจเป็นการทำผิดกฎหมาย แถมเป็นภาระครู! เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ คลินิกกฎหมายอุ้มผาง โรงพยาบาลอุ้มผาง ได้รับการร้องทุกข์จากครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนุโพ ว่ามีนักเรียนจำนวน ๒๓ ราย ซึ่งเป็นเด็กที่เกิดในประเทศไทยจากพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพ ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าเรียนต่อชั้นอนุบาล ๑-๒ ที่ โรงเรียนบ้านนุโพ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อคลินิกกฎหมาย ฯ ได้ตรวจสอบ พบว่ามีการออก “ประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต ๒ เรื่อง มาตรการเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต ๒” ซึ่งสั่งห้ามมิให้โรงเรียนภายใต้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต ๒ รับบุคคลดังต่อไปนี้เข้าเป็นนักเรียน กล่าวคือ (๑) ผู้หนีภัยจากการสู้รบที่พักอาศัยและมีชื่ออยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว […]

ติวเตอร์ดัง จี้ ศธ. เน้นเรื่องเด็กเป็นสำคัญ เหตุกราดยิงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายเข้าไปกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 30 ราย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก่อนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการเมื่อปี 2564 โดยหลังก่อเหตุได้กลับบ้านมายิงลูกและภรรยา ก่อนจะยิงตัวตายตามนั้น ล่าสุด (6 ตุลาคม 2565) หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ประชาชนจากทุกวงการก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างมากมาย ซึ่งพี่ต้นคูน หรือ ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ ติวเตอร์ชื่อดัง ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก โดยอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนอย่างจริงจัง พร้อมแนะแนวทางออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้ 1. เรื่องกราดยิงมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้นและเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เพราะฉะนั้นถือเป็นภัยอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ในโรงเรียน จึงควรมีการซ้อมอพยพหรือการรับมือกับสถานการณ์กราดยิง นอกจากนี้ ดร.ณัฐพงศ์ ยังยกตัวอย่างโรงเรียนเพลินพัฒนา ที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมืออาชีพมาช่วยฝึกซ้อมรับมือและอพยพนักเรียนในกรณีที่มีเหตุการณ์กราดยิง เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม 2. ในโรงเรียนควรมีการคุยข่าว คือการให้ครูประจำชั้นหรือครูที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เอาข่าวที่เกิดขึ้นและสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็กในแต่ละช่วงวัยมาคุยกัน เป็นการเพิ่มพูนทั้งความรู้และทักษะชีวิต รวมถึงความคิดด้วย และจะทำให้เด็กรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เด็กรู้ข้อมูลข่าวสารน้อยมากเหลือเกิน เด็กเล็กก็สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ เพราะทำตามวุฒิภาวะ 3. โรงเรียนถือเป็นสถานที่เปราะบางมาก ใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นบุคคลภายนอกไม่ควรที่จะเข้าไปในโรงเรียนได้ หรือถ้าเข้าไปได้ก็ควรจะจำกัดเขตไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปได้ในพื้นที่ที่เด็กอยู่ เพราะต้องไม่ลืมว่าเด็กคือกลุ่มคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 100% เมื่อเกิดเหตุการณ์จลาจลจะสับสนวุ่นวายมาก […]

กรมอนามัยเผย พ่อแม่28% ยังไม่ให้ลูกฉีดวัคซีนโควิด หวั่นผลข้างเคียงรุนแรง

พ่อแม่ 28% ยังไม่ให้ลูกฉีดวัคซีนโควิด หวั่นอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง กรมอนามัย ย้ำวัคซีนลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต ช่วยกลับไปเรียนออนไซต์ได้ วันที่ 15 พ.ค.65 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการเปิดภาคเรียนแบบออนไซต์ทุกชั้นเรียน เด็กควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ แต่จากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่อง “ความมั่นใจของผู้ปกครองต่อการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ปี” ระหว่างวันที่ 22 เม.ย. – 11 พ.ค. 2565 พบว่า ตอนนี้เด็กอายุ 5 – 11 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และจะฉีดให้ครบ ร้อยละ 54.1 และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ร้อยละ 28.7 เหตุผลที่ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีน คือ ยังมีความกังวลว่าเด็กอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ร้อยละ 77.2 และไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน ร้อยละ 55.3 รวมทั้งยังกังวลว่าเด็กที่ไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว […]

เด็กน้อยวัย11เดือน มีขนดกขึ้นเต็มหน้า คาดเป็นโรคทางพันธุกรรม

สุดตะลึง! สาวแชร์คลิปจนเป็นไวรัล 16.5 ล้าน หลังพบเด็กน้อยวัย 11 เดือน มีขนดกขึ้นเต็มหน้า คาดเป็นโรคมนุษย์หมาป่า สุดแสนจะหายาก วันที่ 8 เม.ย เกิดกระแสไวรัลชวนฮือฮาจากประเทศมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้ติ๊กต็อก รบีอาตุล อดาวิยะฮ์ ซาหมัด เผยคลิปวิดีโอสุดตะลึงของโรคประหลาดในเด็ก ขณะที่พาลูกชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบินตูลู รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย โดยหญิงคนดังกล่าวอธิบายว่าตนได้มีโอกาสพบเด็กน้อยวัย 11 เดือนคนหนึ่งที่มีใบหน้าน่ารักเป็นเอกลักษณ์ เพราะใบหน้าเต็มไปด้วยเส้นขนยาวสีอ่อน ระบุ “ฉันไปที่โรงพยาบาลและเจอเด็กน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ พระเจ้าทดสอบพ่อแม่เพราะพระเจ้ารัก พระเจ้าทดสอบเพราะพระเจ้ารู้ว่า พ่อแม่จะยอมรับของขวัญที่มีค่านี้อย่างจริงใจ ขอให้เด็กน้อยได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ในการเผชิญกับโลกและผู้คนมากมายหลายแบบที่ต้องพบเจอ” “ขอให้หนูเติบโตขึ้นมาอย่างมีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปกคลุมไปด้วยเส้นขน แต่ก็ไม่สามารถทำลายความน่ารักของหนูได้เลย หนึ่งชั่วโมงที่เราได้รู้จักกันและเล่นด้วยกัน หวังว่าจะเจอกันใหม่เร็ว ๆ นี้” นับตั้งแต่เรื่องดังกล่าวถูกแชร์ก็กลายเป็นกระแสไวรัลที่มียอดรับชมมากว่า 16.5 ล้านวิว ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่เข้าไปแสดงความคิดเห็นถามเกี่ยวกับสุขภาพ ให้กำลังใจพ่อแม่ และอวยพรเด็กน้อยกันอย่างล้นหลาม “หน้าตาน่ารักจัง” “ขอให้แข็งแรงนะหนูน้อย” “นั่นคือโรคประหลาดใช่หรือไม่” “ขอให้น้องแข็งแรงและเป็นเด็กที่ฉลาดตลอดไป” “โอ้พระเจ้า เด็กน้อยคนนี้น่ารักจังเลย ตากลม ๆ สวยจัง” นอกจากนี้ […]

“อนุทิน” ลั่นไม่เคยดึงเรื่องวัคซีนบริจาค วอนพ่อแม่ให้ลูกมาฉีดไฟเซอร์

“อนุทิน” ลั่นไม่เคยดึงเรื่องวัคซีนบริจาค หากสหรัฐฯ แจ้งเงื่อนไข พร้อมสนองทันที วอนพ่อแม่ให้ลูกมาฉีดไฟเซอร์ ให้กลับไปเรียนได้ ยันวัคซีนปลอดภัย-มาตรฐานสูง วันที่ 25 ก.ย.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปว่า จากนี้วัคซีนจะทยอยเข้ามามากเพียงพอ เพื่อเร่งฉีดให้ครอบคลุมประชาชนทุกกุ่มได้ โดยเฉพาะ mRNA ของไฟเซอร์ที่จัดซื้อมา 30 ล้านโดส จะเริ่มทยอยมาตั้งแต่สิ้น ก.ย.นี้จนถึงสิ้นปี โดยไฟเซอร์สามารถฉีดให้ลูกหลานอายุ 12 ปีขึ้นไป ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 12-18 ปีในวัยเรียน ซึ่งมีประมาณ 6 ล้านคน ให้พิจารณาให้น้องๆ มารับวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อสามารถไปเรียนหนังสือได้ และทางโรงเรียนจะได้เปิดการเรียนการสอนให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด เราพร้อมฉีดไฟเซอร์ที่จะมาถึงไทยสิ้นเดือนนี้ให้กับอายุ 12 ปีขึ้นไปโดยทันที เพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด การฉีดมีประโยชน์และคุ้มค่ากว่าการไม่ฉีด “สธ.ขอยืนยันการฉีดวัคซีนมีผลที่เป็นประโยน์คุ้มค่ามากกว่าที่ไม่ได้รับ วัคซีนที่นำมาให้ทุกวัยทุกเพศ มีความปลอดภัย มาตรฐานสูง ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล […]

error: