เปิดบัญชีธนาคาร

Advertisement Advertisement

  พรุ่งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงข่าวยุติคดีณิชา ตกเป็นแพะหรือแกะแก๊งโรแมนซ์สแกม ซึ่งจากการสอบสวนสามารถตัดประเด็นความเคลือบแคลงสงสัยในตัวณิชา และเชื่อว่าเธอเป็นแพะ ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย รายงานข้อมูลสำคัญว่า ขณะนี้พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว อยู่ระหว่างหารือกับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงการเตรียมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในคดีที่นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงพื้นที่ สภ.บ้านตาก และขณะเดียวกัน ก็เป็นผู้เสียหายในคดีถูกแก๊งโรแมนซ์สแกม สวมรอยนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี ซึ่งตำรวจจะมีการแถลงข่าววันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.)  หลังการสืบสวนสอบสวน สามารถตัดประเด็นเคลือบแคลงสงสัยในตัวนางสาวณิชาออกไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็น และพบว่า ไม่น่ามีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งโรแมนซ์สแกม ส่วนประเด็นที่มีเบอร์โทรศัพท์น้องชายของนางสาวณิชา โทรติดต่อกับแก๊งโรแมนซ์สแกมนั้น จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อคนร้ายนำบัตรประชาชนนางสาวณิชาไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ ก็จะมีการถ่ายโอนข้อมูลเดิมที่นางสาวณิชาเคยให้ไว้กับเครือข่าย โอนจากหมายเลขเดิมไปหมายเลขใหม่ จึงมีชื่อน้องชายของนางสาวณิชาโอนไปยังหมายเลขใหม่ ที่คนร้ายไปเปิดเบอร์ สำหรับการแถลงข่าว ตำรวจจะเชิญตัวแทนธนาคารทั้ง 7 แห่ง ที่คนร้ายไปเปิดบัญชี รวมทั้งตัวแทนเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3 ค่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลเพื่อความกระจ่างต่อสังคม และให้ความเป็นธรรมกับนางสาวณิชา พร้อมเปิดโปงขบวนการแก๊งโรแมนซ์สแกม ทั้งหมดส่วนความเคลื่อนไหวที่ สน.ห้วยขวางตำรวจท่องเที่ยวได้คุมตัวหญิงสาวต้องสงสัย เข้าพบพันตำรวจเอกกัมพล รัตนประทีป […]

  เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายวิเชียร ชิดชนกนารถ ผอ.สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการป้องกันของกรมการปกครอง(ปค.)ไม่ให้เกิดปัญหาอย่างกรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ที่ถูกสวมบัตรประชาชนแล้วนำไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งว่า เรื่องบัตรประชาชนแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.เจ้าของบัตร ควรรักษาบัตรประชาชนให้ดี 2.หากบัตรหายต้องรีบทำใหม่โดยเร็วที่สำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศ 3.เมื่อแจ้งบัตรหายและออกบัตรใหม่แล้วระบบคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครองจะบันทึกไว้ว่าบัตรใบเก่าถูกยกเลิกเนื่องจากแจ้งหายไว้แล้ว ทั้งนี้ ระบบฐานทะเบียนราษฎร์ของเราเป็นระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เชื่อมโยงกับทุกสำนักอำเภอ ท้องถิ่น สถานทูต ดังนั้นฐานข้อมูลของกรมจะเป็นแบบเรียลไทม์ เมื่อมีคนแจ้งหายระบบจะบันทึกไว้ทันที ซึ่งเรามีบริการให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน เข้ามาตรวจสอบได้ ส่วนของภาคเอกชนและภาครัฐที่มีการนำบัตรประชาชนไปใช้ลงทะเบียนลูกค้าหรือผู้มาขอรับบริการ สิ่งที่ต้องทำ 3 อย่างคือ 1.ต้องดูหน้าของผู้มาขอใช้บริการว่าเหมือนในบัตรหรือไม่ ใช่เจ้าของบัตรหรือไม่ 2.ต้องตรวจสอบด้วยว่าบัตรประชาชนใบที่ใช้ทำธุรกรรมเป็นของจริงหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้โดยเครื่องอ่านบัตรประชาชนราคาเครื่องละ 198 บาท โดยทุกธนาคารและทุกสาขาสามารถซื้อติดตั้งได้ ถ้าข้อมูลเหมือนกับหน้าบัตรก็แสดงว่าเป็นบัตรจริง แต่ถ้ามีการนำใบไปแก้ไข พิมพ์ใหม่ก็ตรวจสอบได้ว่าข้อมูลเดิมที่อยู่ในชิปกับหน้าบัตรปัจจุบันไม่ตรงกัน แสดงว่ามีการปลอมแปลงบัตรมา 3.ทางกรมมีระบบให้คอมพิวเตอร์ของแต่ละหน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบได้ว่าบัตรใบนี้มีสถานภาพเป็นปกติ ถูกแจ้งหาย หรือถูกยกเลิกเนื่องจากสวมตัวหรือไม่ ซึ่งภาคเอกชนยังไม่ค่อยได้ใช้กระบวนการนี้ […]

  จากข่าวคึกโครมเกี่ยวกับผู้เสียหายรายหนึ่งที่จู่ๆ ก็เป็นเหยื่อเพราะมีคนสวมสิทธิบัตรประชาชนเธอไปแอบอ้างเปิดบัญชี ล่าสุด (10ม.ค.61) ทวิตเตอร์ @Jeed_New18 ซึ่งเป็นนักข่าวนิวทีวี ก็ทำการทดสอบโดยยืมบัตรประชาชนของน้องฝึกงานคนหนึ่งที่อายุอ่อนกว่ามากๆ ไปสวมสิทธิเปิดบัญชี เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ทักเพียงแค่ว่าเธอหน้าเด็กตั้งเยอะ แล้วดำเนินการให้ทันที โดยไม่มีการกรองข้อมูลอย่างละเอียดแต่อย่างใด     ทั้งนี้ ไม่มีการระบุว่าเป็นธนาคารอะไร แต่หลายคนที่ได้เห็นโพสต์นี้ในทวิตเตอร์ต่างฮือฮาเป็นอย่างมากของการทำงานของเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ไม่ละเอียดรอบคอบกว่านี้   ทีมข่าว New18 ทดลองให้ผู้สื่อข่าวนำบัตรปชช.ผู้อื่น(น้องฝึกงาน)ซึ่งอายุอ่อนกว่าผู้สื่อข่าวเกือบ1รอบไปเปิดบัญชีธนาคาร ปรากฏว่า จนท.ธนาคารทักเพียงว่าหน้าดูเด็กลงและเปิดบัญชีให้ในเวลาไม่ถึง10นาที pic.twitter.com/UctUhrdXqj — Jirapha NewTV18 (@Jeed_New18) January 10, 2018   ขอบคุณข้อมูลจาก : @Jeed_New18