ช็อกปลายปี บริษัทยานยนต์ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 900 ชีวิต

Advertisement ข่าวช็อกปลายปี บริษัทยานยนต์ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 900 ชีวิตสุดเคว้ง เหล่ามนุษย์โรงงานและมนุษย์เงินเดือนต่างเข้ามาให้กำลังใจเพื่อนร่วมอาชีพ Advertisement ในช่วงท้ายปีหรือปลายปีเช่นนี้ พนักงานหลายบริษัทที่มุ่งมั่นทำงานกันมาตลอดทั้งปี ต่างคงลุ้นรอฟังความดีว่า บริษัทจะมีเงินโบนัส เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ หรือจะมีเงินพิเศษให้หรือไม่ แต่ในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้มีหลายบริษัทเช่นกันที่ไร้ซึ่งข่าวดีที่พนักงานต่างเฝ้ารอในช่วงปลายปี ไม่หมดแค่นั้นบางแห่งยังต้องเจอข่าวร้ายไม่คาดฝัน ทั้งการปลดพนักงานหรือเลิกจ้างพนักงานด้วย Advertisement ล่าสุดในเพจ มนุษย์โรงงาน แจ้งข่าวช็อกและข่าวร้ายที่คนทำงานโรงงานไม่อยากฟังหรืออยากเจอในช่วงปลายปีเช่นนี้ เมื่อมีข่าวบริษัทยานยนต์ประกาศเลิกจ้างพนักงาน โดยเพจ มนุษย์โรงงาน โพสต์ข้อความว่า “ด่วน บริษัทยานยนต์เส้นกิ่งแก้ว ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 800-900 ชีวิต #เป็นกำลังใจให้นะครับ” หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวไปมีเหล่ามนุษย์โรงงานและมนุษย์เงินเดือนต่างเข้ามาให้กำลังใจเพื่อนร่วมอาชีพจำนวนมาก   ขอบคุณที่มาเพจ มนุษย์โรงงาน

กสร. แจงลูกจ้างโพสต์บ่นนายจ้าง สามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

กสร. แจงลูกจ้างโพสต์บ่นนายจ้าง ต้องดูข้อความที่โพสต์สร้างความเสียหาย ต่อนายจ้างหรือไม่ หากไม่เสียหาย นายจ้างเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชี้แจงกรณีลูกจ้างโพสต์บ่นนายจ้าง สามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ต้องพิจารณาว่าข้อความที่โพสต์มีเจตนาหมิ่นประมาทนายจ้างจนได้รับเสียหายหรือไม่หากไม่ใช่ถ้อยคำที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง หรือกิจการของนายจ้าง นายจ้างเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ว่าลูกจ้างโพสต์บ่นนายจ้าง สามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ทางกรมฯได้ตรวจสอบข้อมูลจากประเด็นดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขอชี้แจงให้ทราบว่าการที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ด้วยเหตุที่ลูกจ้างโพสต์บ่นนายจ้าง ต้องดูว่าข้อความที่โพสต์เป็นข้อความที่หมิ่นประมาทนายจ้างจนได้รับเสียหายต่อชื่อเสียง หรือจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายต่อกิจการหรือไม่ หากข้อความที่โพสต์เป็นข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทนายจ้าง หรือจงใจให้นายจ้างได้รับความเสียหายตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กรณีนี้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง แต่หากข้อความที่โพสต์เป็นเพียงถ้อยคำที่ไม่สุภาพไม่ถึงกับเป็นการเสียดสี เหยียดหยาม หรือดูหมิ่นนายจ้าง จึงไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงหากนายจ้างเลิกจ้าง โดยที่ไม่เคยตักเตือนลูกจ้างเป็นหนังสือก่อน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้กับลูกจ้าง นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่จะเลิกจ้างลูกจ้างต้องดูความเหมาะสมแล้วแต่กรณี หากไม่ใช่การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อนายจ้าง แล้วนายจ้างกลับเลิกจ้าง ก็จะเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมได้ ทั้งนี้ นายจ้าง หรือลูกจ้าง มีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาด้านแรงงาน สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ […]

มิซูบิชิ ยันเลิกจ้างพนักงานรายวัน 157 คน ตามความเหมาะสม

จากกระแสข่าว บริษัทผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ปลดพนักงานกระทันหัน ส่งผลกระทบถึงบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ว่าจากการสอบถามไปยังผู้บริหารของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องจริงว่าได้เลิกจ้างพนักงานซึ่งเป็นส่วนของซัพคอนแทรก หรือลูกจ้างรายวัน (ที่ผ่านมาเอเยนซี่) เป็นผู้จัดหาตามความต้องการให้เพียงพอกับกำลังการผลิตรถในแต่ละช่วงเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันพนักงานที่มีอยู่ทุกประเภทจำนวน 6,994 คน แบ่งเป็นพนักงานประจำ 4,613 คน พนักงานชั่วคราว 714 คน และสัญญาจ้างซัพคอนแทรก (ลูกจ้างรายวัน) นั้นมีจำนวน 1,640 คน “สำหรับพนักงานที่เลิกจ้างล่าสุดเป็นประเภทซัพคอนแทรก ที่ไม่ได้เป็นแรงงานฝีมือมีเพียง 157 คนจากทั้งหมด 1,640 คนเท่านั้น ซึ่งสามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความเหมาะสม ส่วนพนักงานประจำและชั่วคราวยังทำงานตามปกติไม่ได้ถูกเลิกจ้างแต่อย่างใด แต่ถ้ามีการเพิ่มกำลังการผลิตรถให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ทางบริษัทฯจะใช้แรงงานที่ผ่านมาเอเยนซี่เป็นเรื่องปกติ นอกจากนียังได้รับการยืนยันว่าส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยุทธ์ศาสตร์การผลิตรถยนต์ทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปตลาดต่างประเทศ รวมทั้งยังเดินหน้าผลิตมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจและมิราจ เหมือนเดิม”   ข่าวจาก : dailynews

ครูสาวร้องสื่อ ถูกโรงเรียนเอกชนเลิกจ้างกะทันหัน โดยไม่มีค่าตอบแทน

22 เม.ย. 67 นางเจนจิรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งของ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว หลังถูกโรงเรียนเอกชนที่ตนเองทำงานมานานนับเกือบ 10 ปี บอกเลิกจ้างงานอย่างกะทันหัน แถมยังไม่มีเงินตอบแทนใดๆ โดยนางเจนจิรา กล่าวว่า เริ่มทำงานอยู่กับโรงเรียนเอกชนแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2558 ได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 11,500 บาท ตลอดระยะเวลาที่ทำงานในตำแหน่งครูผู้สอนมาทางโรงเรียนเองก็ยังไม่มีการบรรจุให้เป็นครูโรงเรียนเอกชนตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. แต่วันนี้ที่ตัดสินใจเดินทางมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เนื่องจากการถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหัน โดยถูกบอกเลิกจ้างเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 67 และมีผลทันที ซึ่งทางโรงเรียนให้เหตุผลเพียงว่าแบกรับภาระไม่ไหว โดยที่ตนไม่ตั้งตัว ทำให้มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ปัจจุบันต้องตกงาน ไร้ซึ่งรายได้ วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม และยังเดินทางมาที่สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานราชการอีกด้วย นางเจนจิรา กล่าวว่า แต่คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่ก็ดูจะมีความหวังแค่เลือนราง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สำนักงานแจ้งว่า ถ้าได้ผลเร็วจะต้องเดินทางไปร้องเรียนยังศาลแรงงานภาค 6 ซึ่งอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ด้วยตนเอง เนื่องจากโรงเรียนเอกชนนั้นกฎหมายแรงงานไม่ได้คุ้มครองครูเอกชน และกระบวนการขั้นตอน การติดตามเรื่องช่วยเหลืออาจจะล่าช้า โดยวันนี้ครูโรงเรียนเอกชนบางรายก็ได้นำหลักฐานของการถูกหักเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ครูของโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ ซึ่งเป็นสลิปการโอนเงินทอนคื […]

ทวิตเตอร์ประกาศลอยแพพนง.อีกรอบกว่า200คน-สร้างความมั่นคงให้บริษัท

บีบีซี รายงานว่า บริษัททวิตเตอร์มีแผนเลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีกอย่างน้อย 200 คนหรือประมาณร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50 จากพนักงานทั้งหมดกว่า 7,500 คนตั้งแต่นายอีลอน มัสก์ เข้ามารับตำแหน่งประธานบริหารในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างในรอบนี้ หนึ่งในนั้น คือ เอสเธอร์ ครอว์ฟอร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทวิตเตอร์ เพย์เมนต์ส ที่ดูแลรูปแบบการสมัครรับการยืนยันเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า (Twitter Blue) โดยเธอได้ทวีตข้อความหลังถูกโดนเลิกจ้างว่า “ฉันรู้สึกว่าการที่ฉันมองโลกในแง่ดีและการที่ทำงานหนัก ไม่คิดว่าบริษัทจะตอบแทนฉันแบบนี้ แต่ฉันก็ภูมิใจในทีมของฉันอย่างสุดซึ้ง” ขณะเดียวกัน มาร์ติจิน เดอ คูอิจ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสและผู้ก่อตั้งเครื่องมือจดหมายข่าว Revue ทวีตข้อความว่าเขาพบว่าเขาตกงานหลังจากถูกล็อคไม่ให้ใช้อีเมลที่ทำงาน ขณะที่อีลอน มัสก์ ทวีตข้อความเช่นกันว่า “หวังว่าคุณจะมีวันอาทิตย์ที่ดี เป็นวันแรกของชีวิตที่เหลือของคุณ” ทั้งนี้ นายมัสก์ได้กล่าวในที่ประชุมสุดยอดรัฐบาลโลก (World Government Summit) ที่ดูไบว่า “ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องทำให้องค์กรมีเสถียรภาพ และต้องแน่ใจว่าองค์กรอยู่ในสถานะทางการเงินที่ดี และคาดว่าปลายปี 2566 น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการหาคนอื่นมาบริหารบริษัท เพราะฉันคิดว่าสถานะของฉันอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงสิ้นปีนี้”   ข่าวจาก : […]

error: