ติวเตอร์ดัง จี้ ศธ. เน้นเรื่องเด็กเป็นสำคัญ เหตุกราดยิงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

Advertisement จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายเข้าไปกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 30 ราย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก่อนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการเมื่อปี 2564 โดยหลังก่อเหตุได้กลับบ้านมายิงลูกและภรรยา ก่อนจะยิงตัวตายตามนั้น Advertisement ล่าสุด (6 ตุลาคม 2565) หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ประชาชนจากทุกวงการก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างมากมาย ซึ่งพี่ต้นคูน หรือ ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ ติวเตอร์ชื่อดัง ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก โดยอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนอย่างจริงจัง พร้อมแนะแนวทางออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้ 1. เรื่องกราดยิงมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้นและเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เพราะฉะนั้นถือเป็นภัยอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ในโรงเรียน จึงควรมีการซ้อมอพยพหรือการรับมือกับสถานการณ์กราดยิง นอกจากนี้ ดร.ณัฐพงศ์ ยังยกตัวอย่างโรงเรียนเพลินพัฒนา ที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมืออาชีพมาช่วยฝึกซ้อมรับมือและอพยพนักเรียนในกรณีที่มีเหตุการณ์กราดยิง เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม Advertisement 2. ในโรงเรียนควรมีการคุยข่าว คือการให้ครูประจำชั้นหรือครูที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เอาข่าวที่เกิดขึ้นและสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็กในแต่ละช่วงวัยมาคุยกัน เป็นการเพิ่มพูนทั้งความรู้และทักษะชีวิต รวมถึงความคิดด้วย และจะทำให้เด็กรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เด็กรู้ข้อมูลข่าวสารน้อยมากเหลือเกิน เด็กเล็กก็สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ เพราะทำตามวุฒิภาวะ 3. โรงเรียนถือเป็นสถานที่เปราะบางมาก ใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นบุคคลภายนอกไม่ควรที่จะเข้าไปในโรงเรียนได้ หรือถ้าเข้าไปได้ก็ควรจะจำกัดเขตไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปได้ในพื้นที่ที่เด็กอยู่ […]

ตร.แนะวิธีเอาชีวิตรอด ในเหตุกราดยิงตามหลักสากล เอฟบีไอ

ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าเหตุกราดยิง หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า Active Shooter นั้นไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เช่นเหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 50 และเหตุกราดยิงที่ห้าง เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 63 เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่าง ๆ อีกด้วย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ เอฟบีไอ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้ “หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ – เวลาไปสถานที่ต่าง […]

error: