แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร

Advertisement   Advertisement เฟซบุ๊กเพจ “Taxi report TH” ได้โพสต์คลิปของแท็กซี่รายหนึ่ง หลังไล่ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิง 2 คน ลงกลางทาง โดยในระบุข้อความว่า เวลาประมาณเที่ยวคืนครึ่ง ได้ยืนเรียกแท็กซี่ที่อนุสาวรีย์ชัยเพื่อจะไปลาดกระบัง ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงก็ไม่มีคันไหนจอดรับ อ้างว่าแก๊สหมดทุกคัน กระทั่งทั้ง 2 คนเห็นตำรวจยืนโบกรถอยู่ จึงเดินไปหาวานตำรวจเรียกรถให้ สักครู่ก็มีรถแท็กซี่ผ่านมาแล้วจอดถามว่าจะไปไหน ทั้งคู่จึงบอกว่าไปลาดกระบัง โชเฟอร์ก็ตกปากรับคำ จึงรีบขึ้นรถไป Advertisement แต่เมื่อขึ้นไปนั่งก็เห็นความผิดปกติ เพราะโชเฟอร์ได้เอาผ้าขนหนูคลุมมิเตอร์ไว้ เมื่อขับไปได้แค่ 200 เมตร โชเฟอร์กลับพูดขึ้นว่า “คุณลงตรงนี้แหละ แก๊สผมหมด” นอกจากนี้ยังพูดอีกว่า “ทางบ้านผมกับทางบ้านคุณมันคนละทางกัน” ทั้ง 2 จึงถามว่าแล้วจอดรับขึ้นมาทำไม ทั้งยังปล่อยลงกลางทางไม่ไปส่งให้ถึงบ้าน ซึ่งโชเฟอร์กลับตอบว่า “ผมเห็นตำรวจเลยรับ ขี้เกียจมีปัญหากับตำรวจ” ขณะเดียวกันบางช่วงโชเฟอร์ยังบอกว่าทำไมไม่เรียกแกร็บ ทั้ง 2 จึงบอกว่าถ้าเรียกเดี๋ยวพวกคุณก็ไปทำร้่ายเขาอีก ก่อนที่จะลงจากรถ   ขอบคุณข้อมูลจาก : Taxi report […]

  จากกรณีที่เพจ ไม่เป็นไรหรอก ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงฝนตกย่านสยาม ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก ต้องการใช้รถแท็กซี่ แต่พบว่ามีรถแท็กซี่เปิดไฟว่างหลายคัน แต่กลับไม่รับผู้โดยสาร โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “น้ำใจแท็กซี่ที่มีให้กับพี่น้องชาวไทย สี่ทุ่มคืนวันฝนตก หึหึ ถ้าสักวันพวกเค้าเรียกร้องความเห็นใจ ควรให้ไหมครับ”ตามที่มีการเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าวย้อนหลัง : ช่างมีน้ำใจจริงๆ!! แฉแท็กซี่ย่านใจกลางเมืองกรุงวันฝนตก เปิดไฟว่าง แต่ไม่รับผู้โดยสารที่โบกกันพรึ่บ!!(มีคลิป)     ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย. นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังผู้ขับขี่แท็กซี่ ทั้ง4 คัน ที่ปรากฏในคลิปซึ่งปฏิเสธผู้โดยสารแล้ว โดยช่วงเย็นของวันที่ 3 เม.ย. เจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ขับขี่รถแท็กซี่จำนวน 2 คัน จาก 4 คัน คือทะเบียน มฏ 2592 กทม. (สีเขียว-เหลือง) และทศ 9641 กทม. (สีชมพู) มาสอบข้อเท็จจริงที่กรมการขนส่งทางบก เบื้องต้นผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คัน ยอมรับว่าได้ปฏิเสธผู้โดยสารจริงเพราะฝนตกหนักเกรงว่ารับผู้โดยสารแล้วรถจะไม่สามารถวิ่งให้บริการไปต่อได้จึงไม่รับผู้โดยสาร นายสุกรี กล่าวต่อว่า […]

  เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวว่า ตนเดินทางออกจากบ้านในช่วงเวลา 03.30 น. เพื่อร่วมวิ่งในรายการหนึ่ง ซึ่งจัดในบริเวณสะพานพระราม 8 โดยน้องชายพยายามเรียกแกร็บแท็กซี่เป็นเวลานาน แต่ไม่มีใครไป กระทั่งสุดท้ายเมื่อได้ขึ้นรถ คนขับเล่าว่า ไม่มีใครอยากไปส่งผู้โดยสารที่สะพานดังกล่าวกลางดึก เนื่องจากส่วนใหญ่ไปกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย ข้อความ มีดังนี้ เมื่อเช้าออกจากบ้านตั้งแต่ตีสามครึ่งเพื่อไปวิ่งที่สะพานพระรามแปด น้องชายพยายามเรียกแกรบหลายทีแต่ไม่มีคนไป มีคนหนึ่งกดตอบรับแล้วอยู่ๆ ก็กดยกเลิกไปดื้อๆ กว่าจะได้รถไปส่งก็อีกพัก น้องมันบ่นๆ กับพี่คนขับ เขาบอกว่า เป็นปกติ ไม่มีใครอยากไปส่งผู้โดยสารตอนกลางดึกที่สะพานพระรามแปดหรอก “ส่วนมากคนที่เรียกรถเวลานี้ก็ไปกระโดดน้ำตายกัน” “ผมว่ารู้สึกแย่ ถ้าต้องขับรถไปส่งเขาถึงที่แล้วเห็นเขากระโดดสะพาน คนขับรถส่วนใหญ่เลยไม่อยากมารับผู้โดยสารไปที่นั่น โดยเฉพาะกลางดึกแบบนี้” ตอนวิ่งเสร็จเดินข้ามสะพาน มองลงมาก็รู้สึกใจหายแกมหดหู่เหมือนกัน เหมือนว่ามันกลายเป็นพื้นที่บางอย่างที่คนจำนวนหนึ่งอยากมาเพื่อจบทุกอย่างลง อะไรทำนองนั้น     หลายคนที่เห็นโพสต์ดังกล่าวต่างแสดงความคิดเห็นตำหนิแกร๊บแท็กซี่ บางคนก็คิดว่าควรจะไปส่ง แม้ว่าผู้โดยสารลงรถแล้วจะไปทำอะไรก็ตาม บางคนก็คิดว่าหากเป็นห่วงผู้โดยสารก็ควรออกมาสังเกตการณ์ห่างๆ ก็ได้ ดีกว่าปฏิเสธ เพราะบางคนก็จำเป็นต้องออกบ้านในยามวิกาลจริงๆ ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์