แรงงานต่างด้าว

Advertisement   Advertisement เฟซบุ๊ก สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 เปิดเผยถึงห้ามแรงงานข้ามชาติประกอบอาชีพที่แย่งอาชีพของคนไทย โดยระบุว่า ย้ำเตือนอีกครั้ง ห้ามแรงงานต่างด้าวทำงานผิดประเภททั้งขายของหน้าร้านหรือแย่งอาชีพสงวนของคนไทย ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงถึง 200,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี กฎหมายกำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำอาชีพสงวนสำหรับคนไทยและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 8 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 – 100,000 บาท ส่วนนายจ้างถูกจับในข้อหาให้ต่างด้าวทำงานไม่ตรงกับใบอนุญาต หากผิดจริงมีอัตราโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อแรงงานหนึ่งคน และหากทำผิดซ้ำมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับเพิ่มเป็น 50,000-100,000 บาทต่อแรงงานหนึ่ง ทั้งนี้ งานที่ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เมียนมา ลาว และกัมพูชา สามารถทำงานได้ 2 ประเภท คือ งานกรรมกร และงานบ้าน ส่วนงานขายของหน้าร้านหรือการเป็นเจ้าของกิจการยังคงเป็นอาชีพที่ห้ามแรงงานต่างด้าวทำ ตามที่กำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามแรงงานต่างด้าวทำ บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 Advertisement หากพบแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายหรือพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำงานของแรงงานต่างด้าว […]

  วันที่ 18 มิ.ย. จากกรณีที่กลุ่มแรงงานพม่าได้หยุดงานเพื่อเรียกร้อง หลังจากที่เห็นว่าพวกตนที่เป็นแรงงานชาวพม่าจำนวน 271 คน ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างโรงงาน ไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าแรงงานและสวัสดิการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงได้เดินทางไปหารือหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี โดยกลุ่มตัวแทนได้แจ้งให้กับสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี แจ้งว่า บริษัทแห่งหนึ่งใน ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแห อวน เครื่องมือประมงของคนไทย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ในเรื่องเกี่ยงกับสิทธิ วันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าทำงานล่วงเวลา และค่าจ้างแรงงานในวันหยุด เช่น พนักงานที่เข้ามาทำงานในโรงงานแห่งนี้ ได้ค่าจ้างรายวันตามกฎหมายกำหนดจริง แต่ต้องทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 น.–20.00 น. เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงนั้นต้องได้ค่าล่วงเวลาในการปฏิบัติงานด้วยเป็นจำนวนเงิน 170 บาทเศษต่อวัน แต่พนักงานทุกคนกลับไม่ได้เงินดังกล่าว นอกจากนั้นทางลูกจ้างถูกหักค่าประกันสังคมทุกเดือน บางคนก็ยังไม่ได้บัตรประกันสังคม จึงไม่สามารถไปรับการรักษาพยาบาลได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ต่อมาทางสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี จึงได้เชิญผู้ประกอบการไปพบ และให้ดำเนินการตามที่กฎหมายแรงงงานกำหนด พนักงานในโรงงานก็รอว่า ทางผู้ประกอบการจะจ่ายเงินตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้ […]

  หลังจากทางรัฐบาลประกาศอาชีพสงวนให้คนไทยทำได้ แต่ต่างด้าวทำไม่ได้ จนเป็นที่ถกเถียงกันในหลายเดือนก่อนนั้น อ่านข่าวย้อนหลัง : สรุปแล้ว! ’39 อาชีพสงวน’ ให้ต่างด้าวทำ 10 อาชีพ อีก 27 อาชีพของลูกจ้างไทย มี 2 อาชีพไม่ชัดเจน อ่านข่าวย้อนหลัง : ปลดล็อก12อาชีพสงวนคนไทย ไฟเขียวให้ต่างด้าวทำได้ แม้ทางขณะนี้กฎหมายยังอยู่ในระหว่างพิจารณา แต่ทางเพจ กลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว เริ่มหวั่นใจถึงวิกฤตดังกล่าว หากสงวนบางอาชีพ เช่น อาชีพขายของหน้าร้าน, ทำเล็บ, งานร้านอาหาร, งานขายของ อาจกระทบต่อผลประกอบการ เนื่องจากคนไทยไม่สมัครงานในกลุ่มอาชีพดังกล่าว จึงผุดแคมเปญเชิญชวนให้นายจ้างทั้งหลายที่มีลูกจ้างเป็นคนต่างด้าวถ่ายรูป เขียนป้ายแสดงความเดือดร้อน โดยทางแอดมินเพจดังกล่าวจะรวบรวมไปยังรัฐให้รับทราบปัญหาดังกล่าวต่อไป                                 ขอบคุณข้อมูลจาก : กลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว

  จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Kwanmuang Sangkam” ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับการต่อบัตรต่างด้าว ซึ่งต้องเข้าศูนย์ OSS เพื่อจัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติ และขออนุญาตทำงานให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 มี.ค.61 นี้ จึงทำให้มีแรงงานต่างด้าวที่นายจ้างได้พามาเข้าศูนย์ OSS มีจำนวนมากและเกิดปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้น ซึ่งข้อความที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Kwanmuang Sangkam” โดยได้ระบุข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่มีผู้เเชร์มากกว่า 1 พันครั้ง ว่าดังนี้ “นโยบายที่กำหนดผิดพลาดอย่างมาก ใครจะสามารถแก้ไขได้ ดินพอกหางหมูศูนย์ one stop service กลายเป็นศูนย์ nonstop service บางคนมารอถึงสามสี่วันเสื้อผ้าชุดเดียวนอนกันกลางดินกินกลางทราย แรงงานล้นระบบเกินกว่าจะลงข้อมูลทัน ลูกเล็กเด็กแดงต้องมานอนตากแดดตากยุง ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการก็เหนื่อยล้าตามๆกัน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สะดุดหลายๆขั้นตอน เมื่อปริมาณคนเยอะเกินการควบคุมคุณภาพด้านต่างๆก็ขาดตกบกพร่อง ณ วินาทีนี้คงแก้ไขอะไรไม่ทันหรือลำบาก หวังว่าผู้เกี่ยวข้องคงสามารถนำจุดบกพร่องต่างๆไปแก้ไขปรับปรุงได้ในอีกสองปีที่จะถึง” ทำให้มีผู้คนได้แชร์ต่อๆกันไปในโลกโซเชียลนับ 1,000 กว่าแชร์และวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดเชียงใหม่ (OSS) ในหลายแง่มุม”                   […]

  อธิบดีกรมการจัดหางาน ย้ำนายจ้างเร่งพาแรงงานต่างด้าว “กัมพูชา-เมียนมา-ลาว” มาทำทะเบียนประวัติ-ขอใบอนุญาตทำงาน ภายใน 31 มี.ค.นี้ มั่นใจ รมว.แรงงาน ไม่ขยายเวลาให้แล้ว แต่สั่งปรับลดขั้นตอนทำงานให้เร็วขึ้นแทน ขู่หากพ้นกำหนด หากพบต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน เจอปรับหนัก ถึงขั้นจำคุกด้วย ขณะเดียวกัน พบต่างด้าวเข้ามาแย่งอาชีพคนไทยหนักข้อ สุดอึ้ง แม้แต่ผู้บริหารกระทรวงยังไม่รู้เรื่องแรงงานเมียนมาโผล่ขายอาหารในกระทรวงแรงงาน-ใต้ตึกที่ทำงานรัฐมนตรี หลังจากพ่อค้าแม่ค้าคนไทยเคยร้องเรียนไปยังกระทรวงแรงงาน กรณีพบแรงงานต่างด้าวเข้ามา แย่งอาชีพสงวนสำหรับคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดร้านขายอาหาร เปิดแผงขายของ ทั้งที่กระทรวง แรงงานยังไม่ปลดล็อกอาชีพเร่ขายของให้คนต่างด้าวทำหรือเป็นเจ้าของกิจการค้าขายเองได้ รวมถึงอาชีพขายของหน้าร้าน แม้มีนายจ้างคนไทยอยู่ด้วยก็ไม่สามารถทำได้ แต่ล่าสุดก็ยังมีการร้องเรียนเข้ามาที่กระทรวงแรงงานอย่างต่อเนื่อง ว่ายังมีการใช้ แรงงานต่างด้าวออกมาขายของหน้าร้าน หรือขาย อาหารเป็นจำนวนมาก ทั้งตามตลาดนัด แผงลอยริมทาง ไปจนถึงศูนย์อาหารในห้าง ใน รพ. แม้แต่ศูนย์อาหารในกระทรวงแรงงาน ใต้ตึกที่ทำงานรัฐมนตรี ก็พบแรงงานสัญชาติเมียนมามาขายข้าวแกงให้กับข้าราชการ เหมือนเป็นงานที่สามารถทำได้เป็นปกติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค. หลังได้รับการเปิดเผยจากนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) ยืนยันว่า อาชีพที่เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ต่างด้าวไม่สามารถทำได้ แม้บางอาชีพมีการปลดล็อกให้ผ่อนผันให้ทำได้ […]

  นักวิชาการ ย้ำ แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยมีข้อกำหนดชัดให้ทำงานได้เฉพาะอาชีพที่อนุญาต ชี้ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจจูงใจแรงงานต่างด้าวเข้าไทย 20 ม.ค.61 รศ.แล ดิลกวิทยรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ว่า หลังจากบอร์ดค่าจ้างมีมติให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 2561 ทั่วประเทศ อีก 5-22 บาทต่อวัน ทำให้อัตราค่าจ้างใหม่อยู่ที่ 308-330 บาทต่อวัน อาจมีผลให้คนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น และส่วนตัวก็อยากให้เข้ามาทำงาน แต่ต้องดูด้วยว่าค่าแรงที่คนต่างด้าวได้รับสูงเพียงพอที่จะจูงใจให้จากครอบครัวเพื่อเดินทางเข้ามาทำงานในไทยหรือไม่ รวมทั้งขั้นตอนการขอเข้ามาทำงานในไทย ต่อคำถามที่ว่าถ้าคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มมากขึ้นจะเกิดการแย่งงานกับคนไทยหรือไม่ รศ.แล มองว่า ไม่เกิดการแย่งงานกันทำกับคนไทยแน่นอน เนื่องจากคนไทยไม่ทำงานในอัตราแรงงานเดียวกับคนต่างด้าว เพราะมีอำนาจในการต่อรองที่มากกว่า ขณะที่งานหนักๆ คนไทยก็ไม่ทำ เช่น งานประมง งานก่อสร้าง และแรงงานหนัก ส่วนประเด็นที่กำลังเกิดข้อถกเถียงกันในโลกออนไลน์ว่า การเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวในไทย ได้เข้ามาทำงานในส่วนของอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ตามการกำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ซึ่งประกอบด้วย 39 อาชีพ เช่น การขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเข้าข่ายอาชีพห้ามคนต่างด้าวทำ  คือ งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกล ยกเว้นงานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศ รศ.แล […]

  จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กอ.รมน. และสำนักงานจัดหางานจ.สุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบร้าน 999 เลขที่ 293-35-36 ภายในตลาดเกษตร 1 เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานประกอบการขายส่ง-ปลีก สินค้าอุปโภคบริโภคและจำหน่ายทองรูปพรรณให้กับชาวเมียนมา หลังได้รับแจ้งว่าเจ้าของเป็นชาวต่างด้าว จากการตรวจสอบพบว่า มีนายวิโรจน์ วิศิษฏธัญญากุล อายุ 72 ปี เป็นเจ้าของ และมีนางมามา โม ชาวเมียนมาเป็นภรรยา ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ม.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบร้าน 999 อีกครั้ง หลังพบว่าภรรยาเจ้าของร้านชาวเมียนมาคอยดูแลร้านค้าร่วมกับลูกสาวที่เป็นคนไทย พร้อมมีลูกจ้างเป็นชาวเมียนมา 8 คน คอยช่วยขายของให้กับลูกค้าที่มาซื้อ พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 สั่งการให้เข้าทำการตรวจสอบร้าน ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบพบแรงงานชาวเมียนมากำลังรับและทอนเงินให้กับลูกค้าที่มาซื้อของ ซึ่งคือหลักฐานสำคัญในการกระทำความผิด ตามพรบ.แรงงาน ที่ห้ามแรงงานต่างด้าวขายของให้กับลูกค้า […]

  เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายสมพงษ์ แก้ววรรณดี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยกำลังหน่วยเฉพาะกิจ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกันเข้าตรวจสอบการลักลอบประกอบอาชีพค้าขายสินค้า ที่เข้าข่ายลักษณะการแย่งงานคนไทยของแรงงานต่างด้าว ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และตามคำสั่งของอธิบดีกรมการจัดหางาน (อ่านข่าวย้อนหลัง : อธิบดีกรมการจัดหางานเล็งสะสาง ปัญหาต่างด้าวเร่ขายของ แย่งอาชีพคนไทย!! )     โดยจุดแรกที่บริเวณตลาดเกาะสมุทร หมู่ 6 ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยเป็นจำนวนมาก และมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนไทยและเมียนมาเปิดร้านขายอาหารประเภทผัก เนื้อสัตว์ต่างๆ แต่ไม่พบเจ้าของร้านที่เป็นแรงงานต่างด้าว พบแต่เจ้าของหรือผู้ขายที่เป็นคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่เป็นลูกจ้างเท่านั้น     จากนั้นไปที่ตลาดคลองครุ และตลาดโรงไม้ หมู่ 7 ต.ท่าทราย พบว่าบางร้านที่มีเจ้าของร้านหรือคนขายเป็นแรงงานต่างด้าวทิ้งร้านหลบหนีไปแล้ว เหลือไว้แต่สินค้าที่วางขายอยู่หน้าร้าน ทั้งร้านขายของชำและร้านขายปลาสด โดยปลายังวางชั่งอยู่บนกิโล เจ้าหน้าที่จึงเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด นายไพบูรณ์ วังสนตระกูล จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ผู้ว่าฯสั่งการให้บูรณาการความร่วมมือกับตำรวจและฝ่ายปกครอง ค้นหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาแย่งอาชีพคนไทยเปิดแผงหรือร้านค้า ขายสินค้าตามแหล่งชุมชนต่างๆ แต่อย่าให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ทำมาหากินโดยสุจริตได้รับผลกระทบ โดยเบื้องต้นได้วางมาตรการออกตรวจพื้นที่เป้าหมายทั้งเช้าและเย็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ ด้านพล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร […]

  "บิ๊กอู๋" ไม่นิ่งนอนใจ จี้สางปัญหาต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย กรมการจัดหางาน เผย ปี 60 ดำเนินคดีไปแล้ว 1.6 พันคน เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เข้ามาประกอบอาชีพแย่งงานคนไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี และระนอง ว่า ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้กรมการจัดหางานเร่งตรวจสอบติดตาม กวดขันอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คนไทยได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ อาชีพขายของหน้าร้าน หรือเร่ขายของ เช่น ขายผลไม้ ดอกไม้ เป็นต้น เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตามกฎหมาย ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีนายจ้างและแรงงานต่างด้าวไปแล้ว โดยมีนายจ้างและสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จำนวน 246 ราย และแรงงานต่างด้าว จำนวน 1,609 คน […]