โรงเรียนอนุบาล

Advertisement 4 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.พบพระ จ.ตากว่า แก๊งลักเด็กที่อำเภอพบพระ จ.ตาก ยังคงใช้รถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ยังออกก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองออกลาดตระเวน โดยในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ แก๊งลักเด็กกลุ่มนี้ ได้ลงจากรถยนต์มาล็อกคอเด็กที่กำลังนั่งเล่นอยู่บนศาลาหน้าโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลพบพระ ขึ้นไปบนรถยนต์ แต่เด็กไหวตัวทัน กัดเข้าที่แขนคนร้ายอย่างแรง จนคนร้ายร้องและปล่อยมือที่ล็อกคอ จนเด็กกระโดดรถลงมาจากรถได้ และวิ่งหนีสุดชีวิตเข้าไปในโรงเรียน ส่วนคนร้ายได้ขับรถยนต์หนีไป โดยเด็กที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ชื่อคือ ด.ช.อชิระ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 เป็นบุตรชายของนายโกหล่าย บิดา กับนางมะหน่อย มารดา ทั้งคู่เป็นแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมาทำงานใน อ.พบพระ หลังจากเกิดเหตุ ครูในโรงเรียนได้ประสานผู้ปกครอง นำเด็กชายไปแจ้งความตำรวจ สภ.พบพระ ซึ่งทางตำรวจได้สอบปากคำกับเด็ก Advertisement ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุ ครูที่โรงเรียนได้สอบถาม ด.ช.วชิระ และปิดประตูโรงเรียน ห้ามคนภายนอกเข้าไป พร้อมกับตรวจสอบ และเช็กจำนวนนักเรียน ในโรงเรียนทั้งหมด พบว่า นักเรียนยังอยู่กันครบ นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์กับเด็กในโรงเรียนให้ระมัดระวังกับกลุ่มคนที่ไปขโมยเด็ก […]

(4 ก.ย.65) เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ร้องเรียนจากประชาชนชุมชนท่าทราย และ น.ส.สุจิตรา ไหมพรม อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนสมานพิชากร ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าขณะนี้ทางโรงเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เนื่องจากทรายจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าลงไปอุดตันท่อระบายน้ำ ของชุมชน ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายลงท่อได้ทันทีเหมือนที่ผ่านมา จนทำให้โรงเรียนถูกน้ำท่วมขังในระดับ 30 เซนติเมตร โดยเฉพาะห้องเรียนของชั้นอนุบาลที่อยู่ชั้นล่างกับห้องพักครูได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนในชุมชนอีกประมาณ 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมขัง อีกหน่วย ทำให้ทางโรงเรียนเป็นห่วงว่าจะไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียนได้ โดย น.ส.สุจิตรา ไหมพรม ผอ.รร.สมานพิชากร กล่าวว่า ว่าขณะนี้ทางโรงเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เนื่องจากทรายจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าลงไปอุดตันท่อระบายน้ำ ของชุมชน ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายลงท่อได้ทันทีเหมือนที่ผ่านมา จนทำให้โรงเรียนถูกน้ำท่วมขังในระดับ 30 เซนติเมตร โดยเฉพาะห้องเรียนของชั้นอนุบาลที่อยู่ชั้นล่างกับห้องพักครูได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนในชุมชนอีกประมาณ 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมขัง อีกหน่วย ทำให้ทางโรงเรียนเป็นห่วงว่าในวันพรุ่งนี้จะไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียนได้ น.ส.สุจิตรา กล่าวอีกว่า หลังโรงเรียนเด็กอนุบาลแห่งนี้ถูกน้ำท่วมขังเแนครั้งที่ 2 แล้ว ตอนนี้น้ำได้ไหลเข้าเข้าท่วมภายในห้องเรียน จนทำให้อุปกรณ์การเรียนและพื้นห้องเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมดเกือบทุก ห้อง […]