000

เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า พบผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ “@farfromthesunn” ได้แชร์เรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นในโลกโซเชียล โดยเจ้าตัวได้ติดต่อหาห้องเช่าราคาประหยัด ในพื้นที่ซาห์อลาม เมืองหลวงของรัฐเซอลาโงร์ ประเทศมาเลเซีย จนกระทั่งได้พบที่พักหนึ่ง ทว่าเมื่อเห็นสภาพห้องพักแล้วถึงกับบอกว่ารับไม่ได้ สำหรับราคาค่าเช่าห้องพักที่มีแอร์ คือ เดือนละ 250 ริงกิต หรือ ประมาณ 2,000 บาท ส่วนห้องเช่าแบบที่ไม่มีแอร์เดือนละ 200 ริงกิต หรือประมาณ 1,500 บาท ดูเหมือนราคาจะเป็นมิตร แต่สภาพห้องทำเอาเจ้าตัวบอกว่ารับไม่ได้สุดๆ โดยสภาพห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอ ห้องขนาดเล็กและแคบมาก มีเพียงแค่เบาะที่นอน ซึ่งก็แทบจะเต็มพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่ทำเอากรรมการอึ้งกว่าเดิมนั่นก็คือ เครื่องปรับอากาศ ที่ติดอยู่บนผนังนั้นมีเพียงครึ่งเดียว ต้องแชร์ความเย็นกับห้องข้างๆ เจ้าของโพสต์ได้เผยภาพบทสนทนาระหว่างเขาและเจ้าของที่พัก ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวได้เห็นสภาพห้องแล้ว ก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพและถนอมน้ำใจว่า “ขอบคุณสำหรับรายละเอียดทั้งหมด หากตัดสินใจแล้วจะติดต่อกลับไปอีกที” สวนทางกับแคปชั่นโพสต์ในทวิตเตอร์ที่บอกว่า “ฉันจะไม่มีทางเช่าห้องแบบนี้ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ขอร้องเถอะเจ้าของที่พัก” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำเอาชาวเน็ตเข้ามากดรีทวีตกันสนั่น รวมไปถึงแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ว่าแบบนี้เป็นไปตามข้อกำหนดตามกฎหมายหรือไม่ และ มองว่าเป็นการเอาเปรียบผู้เช่ามากเกินไป บางคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์ว่าตนเองก็เคยเจอห้องพักแบบในภาพเช่นกัน ขณะที่หลายคอมเมนต์สงสัยว่า […]

กลายเป็นที่ฮือฮา หลังจากมีการเปิดเผยเรื่องราวของหนุ่มสายเปย์ ที่โดนคู่แชทที่เพิ่งคุยกันไม่นาน หลอกให้โอนเงินจนเกิด นัทโอนไว บีโอนหนัก ที่เสียเงินหลักแสน โดยที่พบความจริงภายหลังว่า โดนหลอกเข้าแล้ว กลายเป็นเรื่องราวแจ้งความเพื่อดำเนินคดี จนทราบว่า คู่แชทใช้รูปโปรไฟล์ปลอมมาหลอกเงิน โดยล่าสุด เพจ 123 คนดีมีน้ำใจ ได้เปิดเผยอีกเรื่อง ครั้งนีเป็นสาวสายเปย์ ที่โดนหลอกให้โอนเงินไปแล้วร่วม 3 แสนบาทเลยทีเดียว โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “โลกออนไลน์พ่นพิษ สาวเลสเบี้ยน เจอสาวสวยรูปโปรไฟล์ปานดารา คุย 1 เดือน โดนไป 307,000 บาท ชัดแล้ว นี่มันมิจฉาชีพชัดๆ สูตรเดียวกับ น้องขวัญ ของพี่นัทโอนไว # กับพี่บีโอนหนัก น้องฟาง (นามสมมติ) เดินทางมาที่ เพจ123คนดีมีน้ำใจ บอกกับทีมงานว่ามีเรื่องอัดอั้นตันใจมาก เก็บไว้คนเดียวมานานแล้วไม่รู้จะหาทางออกแก้ไขอย่างไร ไม่กล้าบอกที่บ้าน พอทราบข่าวเรื่อง “คุณนัทกับคุณบี” เลยตัดสินใจเดินทางมาที่นี้ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อ ” นา” จากกลุ่ม”ชมรมหญิงรักหญิง” โดยใช้ชื่อเฟสว่า “ขอใครสักคนที่ดูแล(ใครสักคน) […]

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 61 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่า วันนี้มาขอเข้าพบผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และมอบหลักฐานเรื่องขบวนการวิ่งเต้นคดีให้ ส่วนตำรวจจะดำเนินคดีอย่างไรต้องให้เวลาทำงานก่อน โดยภายใน 3 วันตนเองจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการวิ่งเต้นคดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนจะเป็นข้อหาอะไร อยู่ระหว่างพิจารณา แต่มั่นใจว่าจะเป็นข้อหาหนัก ทั้งนี้เชื่อว่าตำรวจคนนี้เป็น 1 ในผู้ร่วมขบวนการ เป็นพยานที่ผู้ต้องหาใช้ต่อสู้คดี ซึ่งปรากฏหลักฐานในชั้นการเบิกความของศาล ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี แต่สามารถทำให้มีผลกับคดีความได้ ส่วนที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คดีของเอมี่ อาเมเรีย จาคอป อดีตนักแสดง เรียกให้ตนเองมาสอบปากคำในวันที่ 26 กันยายนนี้ นายอัจฉริยะ ระบุว่าจะไม่มีการเดินทางมาพบ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนชุดคณะกรรมการตามที่ได้ร้องขอไปก่อนหน้านี้ เพราะยังไม่ทราบว่า คณะกรรมการชุดใหม่เป็นใครบ้าง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่จะเดินทางไปร้องกับอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีนั้น เพื่อมอบหลักฐานที่ตนเองมีซึ่งเชื่อมโยงถึงอัยการด้วย รวมถึงขบวนการนี้ มีทั้งข้าราชการและพลเรือน รวมถึงบุคคลที่แอบอ้างตัวเป็นอัยการ ให้อธิบดีอัยการพิจารณา นอกจากนี้ ตนเองยังมีพยานบุคคล […]

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่บ้านพักในอ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่น้องสปาย ที่ถูกเสี่ยอ้วนยิงเสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่เสี่ยอ้วนระบุได้ให้เงินครอบครัวน้องสปาย 7 ล้านว่า ครอบครัวไม่มีเคยหลอกลวงหรือมีความหวาดกลัวเสี่ยอ้วน เพราะเป็นเรื่องระหว่างน้องสปายกับเสี่ยอ้วน ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ที่แน่ๆคือ ลูกสาวไม่ยอมที่จะแต่งงานด้วย เพราะไม่สามารถทนความป่าเถื่อนของเสี่ยอ้วนได้ ในกรณีที่เสี่ยอ้วนกล่าวอ้างนั้น ทำให้ครอบครัวรู้สึกเสียใจและบอบช้ำมาก นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ยืนยันครอบครัวได้รับการโอนเงินจากเสี่ยอ้วนจริง เป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ปฏิเสธ แต่เสี่ยอ้วนต้องการที่จะโอนให้โดยเสน่ห์หา เพราะจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อรถและได้ซื้อไปแล้ว อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุเงินจำนวนดังกล่าวก็ถูกใช้ไปกับการจัดงานศพให้น้องสปาย ซึ่งขณะนี้บัญชีทางการเงินของครอบครัวมี 3 ธนาคาร คือ 1.ธนาคารธ.ก.ส.เป็นบัญชีของตน 2.บัญชีธนาคารธนชาต เป็นบัญชีของพ่อน้องสปาย และ 3.เป็นบัญชีธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นของน้องสปายที่เปิดได้เพียง 1 เดือนแล้วถูกยิงเสียชีวิต ยังคงมีเงิน 300,000 บาท ทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ที่พนักงานสอบสวน และคงจะไปพิสูจน์กันในชั้นศาล“กรณีที่เสี่ยอ้วนอ้างว่าครอบครัวได้ไปหลอกให้โอนเงินนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง ฉันและลูกสาวไม่เคยคิดที่จะหลอกใคร แต่ยืนยันว่าพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงต่างหากที่ไม่สามารถจะทำให้น้องสปายยอมรับที่จะไปแต่งงานได้ เพราะก่อนที่จะออกจากที่ทำงาน พฤติกรรมที่หึงรุนแรงของเสี่ยอ้วนก็คือ การเดินเข้าไปบีบคอน้องสปายถึงในกลุ่มเพื่อนที่นั่งเล่นกันอยู่ น้องสปายจึงตัดสินใจออกจากงานที่ทำกับเสี่ยอ้วนและไปเริ่มต้นใหม่ที่นครปฐม และภายหลังที่ลาออกเสี่ยอ้วนก็เคยโทรศัพท์มาหา […]