โปรเจ็กต์ใหญ่ ชงครม.แพทองธาร 16 โครงการ 1.8 ล้านล้าน

Advertisement การลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญที่ทุกรัฐบาลใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และกระจายเม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจฐานราก Advertisement ล่าสุดกระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เร่งสานต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลแพทองธารให้ความสำคัญและผลักดันโครงการให้เดินหน้าต่อ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง แรงงาน วัสดุก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับอานิสงส์ จากการจับจ่าย ช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศหรือจีดีพีขยายตัวไปข้างหน้า ซึ่งแต่ละปีรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณลงทุนโครงการขนาดใหญ่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท แต่มีโครงการจำนวนมากที่ต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นจากความจำเป็นเร่งด่วน ทั้งโครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นหัวใจรวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โครงข่ายถนน อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ปรับโครงสร้างแบ่งงานให้กับสองรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยกำกับดูแล โดยมีบางหน่วยงานที่ นายสุริยะขอดูแลเองคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติแต่งตั้ง นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯรฟท.) จึงประเมินได้ว่านายสุริยะจะให้ความสำคัญกับระบบราง ไม่แพ้โครงข่ายอื่น ดัน4โครงการด่วนแสนล้าน นายสุริยะ ย้ำว่า กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดเสนอโครงการสำคัญต่อที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบได้เร็วๆนี้ สำหรับโครงการที่จะเสนอเข้ามาครั้งนี้ เป็นโครงการที่เคยเสนอต่อครม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถูกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตีกลับมา เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ ทำให้กระทรวงมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องนำเสนอกลับไปอีกครั้งจำนวน 4 โครงการ […]

เปิดดีลยักษ์ 5 กาสิโนโลกบุกไทย “สถานบันเทิงครบวงจร”

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในวงการธุรกิจบันเทิงและการท่องเที่ยวของไทย กำลังจับตามองไปที่ความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งจะเปิดทางให้มีการจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก แหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมระบุว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการกาสิโนระดับโลกอย่างน้อย 5 รายที่แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการสถานบันเทิงครบวงจรของไทย ประกอบด้วย 1. กลุ่ม Las Vegas Sands Corporation 2. กลุ่ม Wynn Resorts 3. กลุ่ม Caesars Entertainment 4. กลุ่ม MGM China Holdings Limited 5. กลุ่ม Hard Rock Cafe โดย 5 กลุ่มได้มีการสอบถามข้อมูลมายังหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล รวมทั้งประสานงานกับกลุ่มทุนไทยรายใหญ่หลายกลุ่ม เพื่อหาโอกาสในการร่วมลงทุนในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่รัฐบาลกำลังผลักดัน เบื้องต้นกลุ่มทุนเหล่านี้ไม่ติดขัดในเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดทั้งในเรื่องของคุณสมบัติผู้ประกอบการ ที่ต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาและค่าธรรมเนียมอายุ 30 ปี สามารถต่ออายุได้คราวละไม่เกิน […]

ธปท.ห้ามนำดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ มาคำนวณรวมกับหนี้ที่ค้างชำระ

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่อง การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2567 พบหนึ่งในข้อกำหนดเกี่ยวกับ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ตามประกาศของธปท.ในเอกสารแนบ 1 พบประเด็นที่น่าสนใจ คือ การกำหนดให้สถาบันการเงินผู้ให้บริการต้องไม่นำดอกเบี้ย ค่าบริการ เบี้ยปรับ และค่าใช้จ่ายตามที่ผู้ให้บริการได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุมารวมกับจำนวนหนี้ที่ค้างชำระเพื่อคิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับอีก สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อยทุกประเภท รวมถึงบัญชีเดินสะพัดของสินเชื่อวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (overdraft) ด้วย เนื่องจากการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบทบต้นมีความซับซ้อนและอาจเป็นการซำเติมลูกหนี้ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ รวมทั้งผู้ให้บริการต้องไม่กำหนดให้การเบิกใช้สินเชื่อทันทีที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเป็นเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ โดยลูกค้าต้องมีสิทธิเลือกช่วงเวลาในการเบิกใช้สินเชื่อดังกล่าวได้ตามความต้องการ หากผู้ให้บริการประสงค์จะมีผลิตภัณฑ์ที่มีเงื่อนไขให้ลูกค้าต้องเบิกใช้สินเชื่อทันที เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าบางกลุ่ม ผู้ให้บริการต้องจัดให้มีผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันที่มีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกช่วงเวลาในการเบิกใช้สินเชื่อได้ตามความประสงค์และต้องเสนอขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อนั้นให้เป็นทางเลือกไปพร้อมกัน รวมถึงต้องให้ข้อมูลสำคัญที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบทางเลือกดังกล่าวได้ กรณีที่สถาบันการเงินผู้ให้บริการใช้สิทธิตามกฎหมายในการหักเงินในบัญชีเงินฝากเพื่อนำมาชำระหนี้กรณีลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ไว้ ผู้ให้บริการต้องเหลือเงินในบัญชีเงินฝากเพียงพอให้ลูกหนี้ดำรงชีพ ยกเว้นกรณีที่ผู้ให้บริการมีบัญชีเงินฝากของลูกหนี้เป็นหลักประกัน หรือลูกหนี้แจ้งความประสงค์หักบัญชีอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดชำระสินเชื่อ   ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ

error: