ด่วน! นายทะเบียนชี้คดียุบ “เพื่อไทย” มีมูล ปม“ทักษิณ”ครอบงำ

Advertisement วันนี้ (18 ต.ค.67) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม Advertisement จากเหตุ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้ นายทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ โดยเห็นว่า คำร้องมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ กรณีดังกล่าวมีผู้ร้องที่ถูกระบุว่า เป็นบุคคลนิรนาม น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 เป็นผู้ยื่นคำร้อง อ้างถึงพฤติการณ์ของ […]

“หมอวรงค์” เตรียมยื่น กกต. ยุบ “พรรคประชาชน”

นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงสาเหตุ ทำไมต้องเสนอยุบพรรคประชาชน โดยระบุว่า ตามที่สื่อเสนอข่าวว่า พรรคประชาชนเกิดจาก การที่นำพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มาเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันสำคัญ ของระบอบประชาธิปไตย ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ จากการตรวจสอบผ่านเว็บ กกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิดของพรรคประชาชน มีสาขาพรรค 3 สาขา ภาคเหนือ 2 สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฏหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ว่า พรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพ ถ้ามีสาขาพรรคการเมือง เหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี นั่นหมายความว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องมีสาขาครบทั้ง 4 ภาค ห้ามขาดหายไปติดต่อกัน 1 ปี ถ้าไม่ครบพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพ ข้อมูลหน้าเว็บ กกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคเพียงแค่ 2 ภาค ซึ่งไม่ครบ 4 […]

กกต.โละที่ปรึกษากฎหมายทั้งชุด หลัง”สุรพล” เป็นพยานคดียุบ”ก้าวไกล”

29 ก.ค.67 ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ปรับปรุงคณะที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้งใหม่ หลังจากที่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีต กกต. และประธานที่ปรึกษากฎหมายชุดดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. มาจากการเสนอชื่อของ กกต. แต่ละคน มีทั้งสิ้น 7 คน  ประกอบด้วย 1.นายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีตกกต.เป็นประธาน 2.นายศิริชัย จิระบุญศรี อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา 3.นายสำเรียง เมฆเกรียงไกร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4.นายอนุรักษ์ นิยมเวช อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5.นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน   6.นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  7.นายบุญรอด ตันประเสริฐ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อย่างไรก็ตาม […]

ศาลปกครอง เพิกถอนระเบียบกกต.ให้ สว.ติดประกาศแนะนำตัวออกสื่อสาธารณะได้

24 พ.ค. 67 เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบกกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ในส่วนข้อ 3 ข้อ 7 ทั้งฉบับแรก และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8 เฉพาะฉบับแรก ที่บังคับใช้ในช่วง 27 เม.ย. 67 – 15 พ.ค. 67 และข้อ 11 (2) และ (3) โดยให้ผลย้อนหลังนับตั้งแต่ระเบียบดังกล่าว มีผลบังคับใช้ทั้งสองฉบับ ในคดีที่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการสำนักข่าวประชาไท ยื่นฟ้อง กกต. และคดีที่นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และพวก รวม 6 ราย ยื่นฟ้อง กกต. และ ประธาน กกต.ร้องขอให้เพิกถอนระเบียบกกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 เนื่องจากเห็นว่า […]

มีผลแล้ววันนี้ กกต.ออกกฎผู้สมัคร สว. “ห้ามแนะนำตัวเกินA4 2หน้า” รวมถึงข้อห้ามอื่น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารแจ้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ย้ำเตือนถึงการบังคับใช้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2567 เป็นต้นไป   โดยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ศึกษาและทำความเข้าใจ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 และพึงระมัดระวังในการดำเนินการแนะนำตัวให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบกำหนด ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด กกต.จะดำเนินการตามที่กฎหมายและระเบียบกำหนดต่อไป     ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 มีรายละเอียดข้อห้ามที่ประสงค์จะลงสมัคร สว. ต้องพึงระมัดระวัง ดังนี้   กรณีใช้เอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร เอกสารต้องมีขนาดไม่เกิน A4 หรือขนาด 210 มิลลิเมตร X 297 มิลลิเมตร ระบุข้อความเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว ใส่รูปถ่ายของผู้สมัคร ประวัติการศึกษา และประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครเท่านั้น ไม่เกิน 2 หน้า และการแจกเอกสารแนะนำตัวจะกระทำในสถานที่เลือกไม่ได้   กรณีใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวด้วยตนเองด้วยข้อความเดียวกันกับกรณีใช้เอกสาร และเผยแพร่แก่ผู้สมัครอื่นในการเลือกเท่านั้น  […]

สมชัย ซัดกกต. อย่าเอาแต่ขู่ อ้างกม.มาด้วย รณรงค์ให้มาสมัครส.ว. ผิดข้อไหน ?

กรณี เพจสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า “ไม่สามารถจูงใจหรือชี้ชวนบุคคลให้สมัครเป็นส.ว.ได้” พร้อมเขียนข้อความอ้างว่า “การกรอกข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจุดยืนของตนเองให้เผยแพร่และปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ หรือสื่อสังคมออนไลน์ใด” อาจมีความผิด ตามที่ได้นำเสนอข่าวนั้น ล่าสุด (26 เม.ย.)​ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวว่า “กกต. ออกข่าวมา บอกว่า การเชิญชวนให้คนมาสมัคร ส.ว. โดยเปิดเว็ปไซต์รวบรวมชื่อ และประวัติคนที่ประสงค์เป็น ส.ว. อาจเป็นความผิด 1.ผิด พ.ร.ป. การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ผิด ระเบียบการเลือก สว. ข้อไหน มาตราไหน มีโทษอย่างไรควรระบุให้ชัดเจนด้วย ไม่ใช่แถลงข่าวลอย ๆ 2.หากเป็นการทำผิดกฎหมายจริง และ กกต. รู้ว่า ใครเป็นผู้เชิญชวน ใครเป็นผู้กระทำ ต้องแจ้งไปยังกลุ่มดังกล่าวให้ยุติการกระทำ หรือหากเป็นความผิดสำเร็จตาม กม.ใด ก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี มิฉะนั้น ถือว่า กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 3.การที่ภาคประชาชนมีการเชิญชวนให้คนมาสมัคร ส.ว.มาก ๆ […]

ศาลสั่ง ‘ปารีณา’ ชดใช้เงิน ค่าเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรี 7.6 ล้าน

18 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดราชบุรี มีคำสั่งบังคับให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรี ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ฟ้องคดี จำนวน 7,673,243.38 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงิน 7,251,091.21 บาท นับถัดจากวันฟ้อง วันที่ 19 ก.ค.66 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดย น.ส.ปารีณา ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง ถ้าไม่ปฏิบัติตามภายในระยะเวลา หรือเงื่อนไขดังกล่าว จะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับและจำขัง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง ทั้งนี้ศาลได้ปิดหมายคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มี.ค.หลังไม่มีผู้รับโดยชอบ สำหรับคำบังคับชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว เนื่องจากหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา ว่า น.ส.ปารีณา ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณี น.ส. ปารีณา เข้ายึดถือ ครอบครอง […]

กกต.มีมติส่งศาลรธน. ยุบก้าวไกล-ตัดสิทธิฯ ‘พิธา-กก.บห.’ ล้มล้างปกครอง

12 มี.ค.2567 – มีรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล แล้วตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคจากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยก่อนที่ประชุมมีมติดังกล่าวได้มีการพิจารณาผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา และความเห็นที่สำนักงานกกต.เสนอ ว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายเป็นความผิดมาตรา92(1) ตามพระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เมื่อครั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค ประกอบด้วย 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 2.นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค 3.นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 4. นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตรตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคเหนือ 6.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคใต้ 7.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคกลาง 8.นางสาวเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคตะวันออก 9.นายอภิชาติ ศิริสุนทร […]

กกต.ชี้แจง คดีเอาผิด “พิธา” ม.151 ยังไม่เสร็จสิ้น ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งทางการเมือง

16 สิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ระบุว่า ตามที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.มีมติยกคำร้องในคดีอาญา มาตรา 151 ตามข้อกล่าวหาว่า รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จากกรณีที่เป็นข่าวว่านายพิธาเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดยเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ กกต. จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพื่อพิจารณาว่าฝ่าฝืนมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 หรือไม่ประการใดนั้น กกต.ขอชี้แจงว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3 ราย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงาน กกต.กล่าวหาว่านายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด […]

“วิษณุ” ยอมรับ การโหวตนายกฯ ล่าช้า กระทบต่อการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมา ครม. รักษาการ มีนโยบายที่จะไม่พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งที่เป็นข้าราชการระดับสูง เนื่องจากคาดว่าในเดือน ส.ค. 66 จะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่ล่าสุดการเลื่อน โหวตนายกฯ จากการที่ยังไม่ได้ข้อยุติในเดือน ก.ค. 66 ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ในเดือน ส.ค. 66 ครม. ชุดใหม่ก็ยังไม่ได้เข้ามาทำงานใน ทำเนียบรัฐบาล โดยล่าสุด “นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี” ได้ให้นโยบายแกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ ครม. ว่าให้สามารถบรรจุเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รวมทั้งหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบได้ โดย ครม. จะพิจารณาให้ จากนั้นจะส่งไปที่ กกต. เพื่อพิจารณาให้ ซึ่งก็มีโอกาสมากขึ้นที่ กกต.จะพิจารณาเห็นชอบตามที่ ครม.เสนอ เพราะที่ผ่านมาในกรณีที่ กกต.ไม่เห็นชอบเป็นเรื่องของระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของคนเดิมที่ยังไม่หมดวาระ แต่หากใกล้ระยะเวลาที่คนเดิมจะหมดวาระหรือเกษียณอายุราชการแล้ว ก็คาดว่า กกต.จะอนุมัติให้เพื่อให้มีคนที่สามารถทำงานในตำแหน่งสำคัญของหน่วยงานได้ ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า การแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงขึ้นไปรัฐบาลรักษาสามารถทำได้ โดยให้หน่วยงานเสนอให้สำนักเลขาคณะรัฐมนตรีเสนอ ครม. เนื่องจากใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว จะไม่มีคนเข้ามาทำงาน เพราะประเทศต้องเดินต่อไปข้างหน้า […]

1 2 16
error: