งบพร้อมนับถอยหลัง “ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ” มีผลเมื่อไหร่

Advertisement ประเด็นการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ชั้นผู้น้อย โดยเฉพาะข้าราชการแรกบรรจุ ให้มีอัตราเงินเดือนในระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ภายใน 2 ปี ตามโยบายของรัฐบาล มีความชัดเจนแล้ว ภายหลังจากพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา Advertisement การันตีแหล่งวงเงินที่จะนำมาใช้ในการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ กลุ่มแรกบรรจุ ที่มีวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี โดยภายใต้พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 กำหนดรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจน ภายใต้วงเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ซึ่งตั้งไว้จำนวน 842,001 ล้านบาท ทั้งนี้ในรายละเอียดวงเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ปีงบประมาณ 2568 ได้กำหนดรายการที่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินข้าราชการ ไว้ดังนี้ Advertisement เงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ ตั้งไว้วงเงิน 13,000 ล้านบาท เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ ตั้งไว้วงเงิน 5,000 ล้านบาท เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ตั้งไว้วงเงิน 354,500 ล้านบาท […]

เริ่มพรุ่งนี้ 1 พ.ค. ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-เงินบำนาญขั้นต่ำ 11,000 บาท

30 เมษายน 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (28 พฤศจิกายน 2566) อนุมัติปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี นั้น วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) คือวันที่มติดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก นอกจากดูแลข้าราชการแรกเข้าแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญดูแลข้าราชการที่เกษียณและได้รับเบี้ยหวัดบำนาญอีกด้วย โดยคณะรัฐมนตรียังได้ออกพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567 ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญคือการปรับปรุงอัตราเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ เพื่อกำหนดให้ผู้ได้รับ หรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วต่ำกว่า เดือนละ 11,000 บาท ให้ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเพิ่มขึ้นตามอัตราที่กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยจะมีผลในวันที่ 1 พฤษภาคม […]

เปิดแผนขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 25,000 บาทภายใน 4 ปี

31 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึง การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ว่า ในปี 2567 จะปรับขึ้นในระดับหนึ่ง และปี 2568 จะปรับขึ้นอีกครั้ง ส่วนจะปรับขึ้นได้เต็มที่ จะต้องดูเศรษฐกิจของประเทศและรายได้ของประเทศ แต่เชื่อว่าจะสามารถทำตามนโยบาย ที่ได้ประกาศไว้เมื่อครบ 4 ปี ทั้งนี้การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการส่วนหนึ่ง ดูจากฐานการพิจารณาของเอกชนประกอบด้วย ทั้งนี้ นโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้นระบุว่าจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการในระดับปริญญาตรีที่ 25,000 บาทต่อเดือน   ข่าวจาก : bangkokbiznews

ครม. เห็นชอบหลักการ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 1.8 หมื่นบาท

28 พ.ย. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบหลักการให้มีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2567 และปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะทำให้เงินเดือนของข้าราชการบรรจุใหม่อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณ 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค. หน้า หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณ ประกาศใช้แล้ว สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอื่นๆ ที่เข้ามารับราชการก่อน และยังไม่ถึงระดับชำนาญการ (C8) และยังมีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาทต่อเดือน จะมีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นไปให้อยู่ในที่สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ โดยในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนให้กับข้าราชการที่เข้ามารับราชการก่อนและเงินเดือนยังไม่ถึง 18,000 บาท […]

ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ อาจเพิ่มให้ชั้นผู้น้อยบรรจุใหม่

(27 พฤศจิกายน 2566) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตอนหนึ่งในช่วงของการรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2566 ถึงการปรับ “ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ” ว่า คงต้องรอติดตามว่าจะนำเสนอเข้ามายังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) หรือในสัปดาห์หน้าหรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่า การปรับอัตราเงินเดือนรอบใหม่จะไม่ใช่การขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ “เรื่องขึ้นเงินเดือนคงต้องรอเรื่องเข้าครม.วันพรุ่งนี้ หรือไม่ก็สัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะไม่ใช่ขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ แต่อาจดูไปที่ระดับข้าราชการเข้าใหม่แรกบรรจุ ที่มีฐานเงินเดือนอาจจะต่ำเมื่อเทียบเงินเดือนภาคเอกชน แต่ทั้งหมดคงต้องรอรายละเอียดและวิธีการเข้าครม. ก่อนแต่ในแง่การช่วยยืนยันว่าจะไม่ได้ทำทั้งระบบ” นายดนุชา ส่วนการทำช่องว่างทางการคลังเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งถือเป็นการจัดลำดับการใช้จ่าย ขยายฐานรายได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ ซึ่งจะต้องทำให้ช่องว่างทางการคลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่รายจ่ายสวัสดิการต่าง ๆ พบว่า มีรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการของรัฐที่ออกมาในช่วงที่แล้ว โดยมาตรการบางตัวอาจจะต้องทำควบคู่กันไปกับการสร้างความสามารถรายได้ของบุคคลให้มีรายได้มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการพิจารณา ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ นั้น นายนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้นัด 4 หน่วยงานทั้ง สำนักงาน ก.พ. , สศช.กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ […]

ไม่ได้ขึ้นส่งเดช! ‘วิษณุ’มั่นใจแจงเหตุผลได้ ปมขึ้นเงินเดือนขรก.ตุลาการ-องค์กรอิสระย้อนหลังถึงปี’57

  วิษณุ’ มั่นใจ แจงเหตุผลสนช. ได้ หลังครม.เสนอร่างพรบ.ขึ้นเงินเดือนข้าราชการตุลาการ-องค์กรอิสระ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เกี่ยวกับการขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการตุลาการ ศาล อัยการและองค์กรอิสระ ถือเป็นการขึ้นเงินเดือนย้อนหลังในระยะเวลาที่นานเกินไปหรือไม่ ว่า เรื่องดังกล่าวหากเข้าสู่สภาก็คงอธิบายให้สภาฟังได้ อย่างกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ได้มีการจ่ายเงินเดือนย้อนหลังไปถึงปี 2548 ซึ่งในช่วงเวลานั้นได้มีการปรับเงินเดือนให้กับข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และพลเรือน ศาล อัยการไปแล้ว แต่กสม.คือข้าราชการที่ตกสำรวจ เพราะตัวเลขยังไม่นิ่ง จึงตกลงกันว่าจะทำกันต่อไปจนกว่าตัวเลขจะนิ่ง เมื่อนิ่งเมื่อไหร่ก็จะย้อนหลังให้ จึงต้องย้อนให้เขาเป็นพิเศษกว่าคนอื่น อย่างไรก็ตาม เราได้จัดเงินให้เขาแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถใช้เงินนั้นได้ เพราะติดขัดเล็กน้อยที่เรื่องกฎหมายและเทคนิค ครั้งนี้จึงจำเป็นต้องทำให้เขาและทำอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม ตามที่ทุกคนได้ประโยชน์ “มั่นใจว่าชี้แจงได้ ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือประหลาด เป็นเรื่องธรรมดา ไม่อย่างนั้นถ้าจะย้อนกันส่งเดช ทำไมไม่ย้อนไปให้ไกลหรือสั้นกว่านั้น เรามีการถามกันในครม.แล้วว่า ทำไมจะต้องย้อนไปถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2557 คำตอบคือก็ไปย้อนดูเงินเดือนในตอนนั้นสิ […]

ครม.ขึ้นเงินเดือน10%ให้ข้าราชการศาล-องค์กรอิสระ มีผลย้อนหลัง 1ธ.ค.2557

  หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นเงินเดือนร้อยละ 10 ในส่วนของข้าราชการศาลและองค์กรอิสระ โดยในส่วนของศาลเห็นชอบให้ปรับขึ้นเงินเดือนทั้งของศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ระดับประธานศาลของแต่ละศาล จนถึงข้าราชการระดับล่างสุด เช่นเดียวกับองค์กรอิสระ ให้มีการปรับขึ้นตั้งแต่ระดับประธานสูงสุดจนถึงพนักงานองค์กรอิสระล่างสุดเช่นกัน มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ด้วย ครม.ได้ตีกลับการเสนอปรับขึ้นเงินเดือนในส่วนของข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภา พล.ท.สรรเสริญ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงว่าถ้าปรับขึ้นจะถูกสังคมครหาว่าเป็นการเพิ่มเงินเดือนให้ตัวเอง จึงให้ยุติการปรับขึ้นเงินเดือนดังกล่าวไป แต่ครม.เห็นชอบให้บรรจุตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นข้าราชการการเมืองอีกตำแหน่ง ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราเงินเดือนในอนาคตอีกครั้ง นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบปรับอัตราค่าจ้างสำหรับแรงงานมีฝีมือใน 4 กลุ่ม 16 สาขาอาชีพ โดยให้มีค่าจ้างต่ำสุดที่ 340 บาทต่อวัน และสูงสุดที่ 580 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับทักษะในแต่ละสาขาอาชีพและสภาพเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ด้วย ด้านพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รายงานในที่ประชุมถึงความคืบหน้าโครงการไทยนิยมยั่งยืน ว่าจะมีคณะกรรมการลงไปสำรวจว่าประชาชนต้องการสิ่งใด และให้ความรู้กับประชาชนด้วย พล.ท.สรรเสริญ ชี้แจงว่า  โครงการนี้เป็นโครงการในฝันของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้สังคมเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนสู่อนาคต ข่าวจาก : จส.100

error: