เปิดรายชื่อคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1” เรียงตามประกาศราชกิจจานุเบกษา

Advertisement 28 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานขั้นตอน การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หลังจากได้ทรงพระกรุณาแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม 2566 แล้วนั้น Advertisement บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว จึงนำรายชื่อเข้าตรวจสอบคุณสมบัติโดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามในหนังสือกราบบังคมทูลเกล้าฯ รายชื่อ แล้วให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งเรื่องให้กับสำนักราชเลขาธิการ รับไปดำเนินการ โดยรายชื่อคณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ เรียงตามลำดับ ตัวอักษรชื่อกระทรวง ที่เคยประกาศในราชกิจจานุเบกษา รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่จะได้รับการแต่งตั้ง ดังต่อไปนี้ Advertisement นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย […]

ประยุทธ์ แจกหนังสือผลงานรัฐบาล 3 ปี ให้ ส.ส.-ครม.

วันนี้ (25 พศจิกายน) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเป็นวาระพิจารณาเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ เช่น ญัตติเพื่อพิจารณาศึกษาสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการปิดอ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ เรื่องรายงานการศึกษา เทคโนโลยี 5G รวมทั้งความสำเร็จของการจัดประชุมผู้นำ APEC ที่ผ่านมาอีกด้วย ทั้งนี้ ในการประชุมสภา มีการแจกรายงานผลดำเนินการของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 – 25 กรกฎาคม 2565 โดยมีรูปปกหนังสือเป็นรูป พล.อ. ประยุทธ์ พร้อมรายละเอียดรายงานผลงานของรัฐบาล ทำแจกสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด รวมถึงแจกให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ซึ่งแจกวันนี้เป็นวันแรก สำหรับเนื้อหาในหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวมีเนื้อหา 370 หน้า ประกอบไปด้วยผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศตามนโยบายหลัก 12 ด้านของรัฐบาล […]

ครม. ไฟเขียวยืดเวลาเก็บแวต 7% อีก 2 ปี – ชี้ไม่กระทบประมาณการรายได้ปีงบ 65-66

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2564 มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 ก.ย. นี้ ต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2566 โดยยังคงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีในอัตราเดิม คือ 7% (รวมภาษีท้องถิ่น) หรืออัตรา 6.3% (ไม่รวมภาษีท้องถิ่น) ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคงอัตราเดิม 7% จะไม่ผลกระทบต่อการประมาณการรายได้ในปีงบประมาณพ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 เนื่องจากในการจัดทำงบประมาณได้มีการคำนวณประมาณการรายได้ โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานการคำนวณของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในอัตรา 7% แล้ว   ข่าวจาก : ข่าวสด

1 2
error: