จีน

Advertisement สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด หลังชายคนหนึ่งถูกกุ้งทิ่มนิ้วขณะล้างกุ้ง คาดว่าไม่ร้ายแรงมากนัก เพราะเป็นแผลไม่ลึก ทำให้เหตุสุดสลดเสียชีวิตด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพียง 3 วันต่อมา Advertisement ตามรายงานของเดอะ เปเปอร์ นายเซิน วัย 52 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในชนบทเสี่ยวซาน หางโจว เจ้อเจียง ประเทศจีน เลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชใกล้บ้านของเขา ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายเซินกำลังทำความสะอาดกุ้ง แต่นิ้วของเขาถูกทิ่มโดยส่วนที่แหลมคมของเปลือกกุ้งโดยไม่ตั้งใจ แต่บาดแผลไม่ลึก มีเลือดออกน้อยมาก และไม่เจ็บปวดมากนัก ครอบครัวจึงไม่ได้พาไปรักษา อย่างไรก็ตาม หนึ่งวันต่อมา บาดแผลของนายเซินเริ่มีอาการบวมและเจ็บปวด จากนั้นนิ้วของเขาก็มีสีดำอมม่วง ในช่วงกลางคืนมีไข้, หนาวสั่น, อาเจียน และแขนซ้ายมีอาการบวมจนหนาขึ้น เมื่อโทรหาลูกชายเพื่อเล่าอาการของเขาให้ฟัง นายเซินหมดสติและล้มลงกับพื้น หลังจากถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล แพทย์ชี้ให้เห็นว่ าไม่เพียงแต่ต้องตัดนิ้วหัวแม่มือซ้ายของนายเซินที่เป็นสีดำเท่านั้น แต่ผิวหนังของแขนซ้ายของเขายังเป็นสีดำและมีแผลพุพองสีดำปรากฏขึ้น ดร.หลู่ หยวนเฉียง ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งแรกของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง กล่าวว่า เดิมทีนายเซินต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคไตเรื้อรัง โดยบาดแผลที่นิ้วของเขาติดเชื้อจากเชื้อแอโรโมแนส Advertisement แพทย์กล่าวว่า ทีมแพทย์ได้ดำเนินการช่วยเหลือนายเซินทันที […]

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มเพื่อนสาวชาวจีน 3 คนได้เช่าบ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านที่มี 3 ห้องนอน และ 1 ห้องนั่งเล่น ผ่านการแนะนำของบริษัทที่เป็นนายหน้าให้เช่าบ้าน โดยวันที่เธอไปตรวจสอบบ้านพร้อมกับตัวแทนบริษัท เธอได้กลิ่นแปลกๆ ทันทีที่เธอเดินเข้าไป และก็สังเกตเห็นว่าการตกแต่งภายในดูใหม่มากๆ พวกเธอไม่ได้คิดอะไรเลยเซ็นสัญญาเช่ากับบริษัทตัวกลางดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นกรรมสิทธิ์ จ่ายเงินมัดจำค่าเช่าจำนวน 1 เดือน นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมคนกลาง ค่าธรรมเนียมทรัพย์สิน ค่ามัดจำไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,750 หยวนหรือราว 72,000 บาท ก่อนย้ายเข้าไปอาศัยอยู่อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เพียงหนึ่งเดือนหลังจากย้ายเข้ามา พวกเธอก็มีอาการผิดปกติต่างๆ เช่น ผมร่วง วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และเจ็บคอ ต่อมาจึงตัดสินใจติดต่อหน่วยงานให้เข้าทดสอบสาร “ฟอร์มาลดีไฮด์” ในบ้าน ซึ่งผลปรากฏว่าปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ในบ้านอยู่ที่ 0.331 มก./ลบ.ม. ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 0.080 มก./ลบ.ม. อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อทราบสาเหตุของอาการผิดปกติทางร่างกาย เธอจึงส่งรายงานผลการทดสอบไปยังบริษัทนายหน้าจัดหาบ้านหลังนี้ เพื่อขอเงินคืนในส่วนที่ควรจะได้รับ แต่สุดท้ายคำร้องขอของเธอกลับถูกปฏิเสธ อีกทั้งยังถูกตัวแทนบล็อกช่องทางการติดต่อ ขณะที่ทางด้านบริษัทยืนยันว่า […]

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนคนหนึ่ง ที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจีน โดยจบจากสาขาโลจิสติกส์ แต่เขากลับเลือกที่จะไปเป็นพนักงานส่งของในแอปฯ ส่งอาหาร ตามรายงานระบุว่า หนุ่มชาวจีนรายนี้จบการศึกษาในสาขาโลจิสติกส์ จากมหาวิทยาลัยเทียนจินด้วยผลงานการเรียนที่ดี หลังจากสำเร็จการศึกษา งานที่เขาสามารถทำได้อย่างมืออาชีพมีจำกัด เขาต้องทำงานเป็นคนส่งของเป็นเวลา 3 ปี เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในความคิดของใครหลายๆ คน คนส่งของคืองานที่ไม่ต้องการการศึกษาใดๆ แม้แต่เด็กประถมก็สามารถทำได้ สิ่งนี้เป็นที่ยอมรับไม่ได้สำหรับผู้มีการศึกษาสูงเช่นเขา หลายความเห็นบอกว่าเขาไร้ความสามารถ ไม่มุมานะพอ และพยายามหางานในออฟฟิศเหมือนเพื่อนๆ แม้ว่าจะเจอคำดูถูก แต่ชายหนุ่มอธิบายถึงเหตุผลของการเลือกทำอาชีพนี้ว่า สภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหางานที่น่าพอใจได้ ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเช่นเขา ได้รับเงินเดือนเพียง 3,000 หยวนต่อเดือนหรือราว 14,000 บาท ขณะที่การทำงานเป็นผู้ส่งสินค้า แม้จะเป็นงานหนักแต่มีรายได้มากกว่านั้นมาก โดยเขามีรายได้ 400,000 หยวนหรือราว 2 ล้านบาทใน 3 ปี ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 11,000 หยวนหรือราว 53,000 บาทต่อเดือน เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขาได้เงินมากๆ เขาสามารถทำงานอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงสายตาของสังคม อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวหนุ่มรายนี้เปิดเผยเรื่องเงินเดือนของเขา ทำเอาชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ต่างแสดงความตกใจ และบอกตรงกันว่า […]

8 ส.ค. 66 เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ได้รายงานกรณีน่ายกย่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานส่งอาหารในจีน หลังจากสามารถช่วยเหลือหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังคิดสั้น ด้วยแผนการสลับตัว ตามรายงาน เมื่อวันที่ 22 ก.ค. พนักงานส่งอาหารในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีนได้รับคำสั่งซื้อที่ผิดปกติ ในคำสั่งซื้อมีข้อความระบุว่า “นี่จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของฉัน และฉันอยากให้มันเป็นมื้อที่อิ่มท้อง” พร้อมระบุสถานที่จัดส่งเป็นดาดฟ้าของอาคารพักอาศัย ทางพนักงานส่งอาหารรีบแจ้งตำรวจ และตำรวจได้วางแผนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลูกค้ารายนี้จะลงมือทำร้ายตัวเอง ซึ่งแผนการคือให้ “นายเหวิน เจียหลิน” เจ้าหน้าที่ตำรวจวัย 24 ปี สวมเครื่องแบบพนักงานส่งอาหาร และนำคำสั่งซื้อไปส่งตามที่อยู่ที่ระบุไว้ ขณะที่นายเหวินขึ้นลิฟต์ไปบนชั้นดาดฟ้า ลูกค้ารายนี้ได้โทรมาถามเกี่ยวกับคำสั่งซื้อ ซึ่ง ณ จุดนั้น นายเหวินต้องตอบกลับอย่างแนบเนียน และเมื่อถึงชั้นดาดฟ้า นายเหวิน ยังคงคุยกับลูกค้าต่อไปในขณะที่ส่งของให้เขา ในขณะที่ลูกค้ายื่นมือมารับอาหาร นายเหวินรีบโผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพาเขาไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย พร้อมกับปลอบโยนเขา “อย่ากลัวเลย เรามาพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจของคุณกันดีกว่า” นายเหวินบอกกับชายคนนั้น ตามรายงาน ลูกค้ารายนี้มีอายุ 18 ปี ก่อนทำการสั่งอาหารมื้อสุดท้าย เขาได้ทะเลาะกับพ่อแม่อย่างหนัก ซึ่งหลังจากสงบสติอารมณ์ ครอบครัวได้พาตัวเขากลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย   ข่าวจาก : […]

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สาวคนหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ของจีน ได้ออกมาโพสต์วิดีโอแฉวีรกรรมสุดแสบของมนุษย์ป้า โดยเล่าว่า ลูกพี่ลูกน้องของเธอได้ไปทานบุฟเฟ่ต์หม้อไฟที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เมื่อลูกพี่ลูกน้องลุกจากที่นั่งเพื่อไปตักอาหาร จู่ๆ ป้าโต๊ะข้าง ๆ ก็ลุกขึ้นมาแล้วนำอาหารจากฝั่งตนเองที่ทานไม่หมด นำไปเทใส่หม้อบนโต๊ะของลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งป้าไม่มีท่าทีรู้สึกผิดแม้แต่น้อย ยังคงหัวเราะกับสิ่งที่ทำลงไป ต่อมาลูกพี่ลูกน้องได้กลับมาที่โต๊ะและนั่งทานอาหารตามปกติ แต่พวกเขากลับรู้สึกว่ายิ่งทานยิ่งไม่อร่อย อีกทั้งยังสังเกตเห็นว่าป้าโต๊ะข้าง ๆ ยิ้มตลอดเวลา พวกเขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติจึงแจ้งให้พนักงานทราบ เมื่อทางร้านตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็ต้องอึ้งพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของมนุษย์ป้ารายนี้ ทางร้านจึงรับผิดชอบด้วยการยกเว้นค่าอาหาร และขอโทษเพื่อให้เหตุการณ์สงบลง อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นค่อนข้างน่าสยดสยอง และกังวลว่ามนุษย์ป้ารายนี้อาจป่วย ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าค่อนข้างร้ายแรง เธอจึงหวังว่าคู่กรณีจะออกมาชี้แจงและขอโทษลูกพี่ลูกน้องของเธอโดยเร็ว   ข่าวจาก : ข่าวสด

โลกโซเชียลของจีนได้แชร์วิดีโอของสามีคนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่ารักและเปย์ภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกสุด ๆ เพียงแค่ภรรยายอมเดิน เขาก็พร้อมที่จะให้เงินเธอก้าวละ 100 หยวน หรือราว ๆ 500 บาท เรื่องราวดังกล่าวเป็นของสามีจากมณฑลจี๋หลิน ของจีน เขากล่าวว่า ภรรยาเพิ่งผ่าคลอด โดยแพทย์ได้แนะนำให้เธอลุกจากเตียงและออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่เธอบอกว่ามันค่อนข้างลำบาก เพราะเธอจะเจ็บแผลเมื่อเดิน เพื่อเป็นการให้กำลังภรรยา เขาจึงคิดกติกาขึ้นมาโดยยื่นข้อเสนอว่า หากเธอยอมลุกเดิน เขาพร้อมจ่าย 100 หยวนต่อก้าว ซึ่งเขาค่อย ๆ พาเธอเดินออกกำลังกายเป็นเวลากว่า 20 นาที ภาพเหล่านี้นี้ทำให้ชาวเน็ตหลายคนอิจฉา และพากันชื่นชมความสัมพันธ์ที่สวยงามระหว่างสามีและภรรยา “ความสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างสามีภรรยานั้นน่ารักมาก”, “จริง ๆ แล้วเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดหรอก แต่เป็นการที่สามีจะอยู่เคียงข้างกับภรรยาเสมอ”   ข่าวจาก : ข่าวสด

9 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เล่ย หวู่เจ๋อออกจากบ้านของเขาในเมืองเยว่หยาง มณฑลหูหนาน โดยไม่รู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะไม่ได้เห็นหน้าลูกชายของเขาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ เล่ย หวู่เจ๋อทิ้งเล่ย เยว่ฉวน ลูกชายวัย 4 ขวบให้เล่นภายใต้การดูแลของเพื่อนบ้านคนหนึ่งของเขา ทว่าดันเกิดข่าวร้ายไม่คาดคิด เพื่อนบ้านหญิงคนดังกล่าวบอกตำรวจในภายหลังว่า พวกเขาได้พบกับชายที่น่าสงสัยบนถนน ซึ่งภายหลังได้วางกับดักจับเด็กและลักพาตัวเขาไปโดยที่เธอไม่ได้สนใจ ทำให้เล่ย หวู่เจ๋อเศร้าเสียใจและรู้สึกผิดกับตัวเองมานาน หลังจากการลูกชายถูกลักพาตัว เขาและภรรยาก็มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนแต่เขาไม่เคยหมดความหวังว่า สักวันหนึ่งจะได้เห็นหน้าลูกชายอีกครั้ง เล่ย หวู่เจ๋อและภรรยาซื้อของขวัญวันเกิดให้ลูกชายทุกปีแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ พร้อมอุทิศทั้งชีวิตเพื่อตามหาลูกชายด้วยการถือรูปลูกชายของเขาและหยุดผู้คนที่สัญจรไปมาเพื่อถามว่าพวกเขาเห็นเด็กคนนี้บ้างหรือไม่ เสนอรางวัล 250,000 หยวน (ราว 1,212,078 บาท) สำหรับเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับลูกชาย รวมถึงโพสต์แผ่นพับทั่วประเทศจีน ออกอากาศสารคดีเรื่อง “Twelve Years of Finding a Son” และออกวิทยุกระจายเสียง กว่า 22 ปีที่เล่ย หวู่เจ๋อใช้เวลาตามหาลูกชายของเขา ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนกับพ่อแม่เด็กคนอื่น ๆ ที่หมดหวังที่จะตามหาลูกที่ถูกลักพาตัวไป รวมถึงได้เห็นพวกเขาหลายคนกลับมาอยู่กับลูกหลานอีกครั้ง ทำให้เล่ย หวู่เจ๋อมีความหวังว่า สักวันหนึ่งเขาก็จะได้กอดลูกชายไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง […]

29 มิถุนายนที่ผ่านมา “แซม” ร้านเรือธงในเขตการค้าเสรีเฉียนไห่ เซินเจิ้น ประเทศจีน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมการขายถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยักษ์รุ่นลิมิเต็ด ขนาด 45 ซม.ภายในบะหมี่ถ้วยยักษ์บรรจุบะหมี่คัพถ้วยเล็กมากกว่าสิบถังและมี 7 รสในกล่อง ปัจจุบันมีขายเฉพาะในร้านค้าเรือธงในเซินเจิ้นและมีจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เล่มเท่านั้น และจำกัด 2 ถัง/คน ซึ่งก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัว มีการพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนบนแพลตฟอร์มโซเชียล เป็นผลให้กลายเป็นสินค้าขายดีในร้านทันทีที่เปิดตัว งานนี้ ทำตัวห้างแทบแตก ชาวเมืองเซินเจิ้นไปจับจ่ายซื้อของและเช็กอินจำนวนมาก ภายในครึ่งวันขายหมดเกลี้ยง จนชาวเน็ตบางคนเยาะเย้ยสิ่งนี้ “คุณเคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไหม” เท่านั้นไม่พอ ด้วยความเป็นไวรัลจนกลายเป็นที่นิยมของตลาดจึงเกิดการเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่ง เพิ่มสูงขึ้นเกือบสองเท่าจาก 168 หยวน (ราว 815 บาท) เป็น 300 – 500 หยวน (1,400 – 2,425 บาท)บางรายถึงกับประมูลโดยตรงทางอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์ม เรียกเสนอ “ราคาเดียว 500 หยวน ไม่มีค่าขนส่งและไม่มีการต่อรอง” อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร้านค้าแซมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ขนาดยักษ์ ในอดีต บริษัทยังเปิดตัวโทปเบอโรนสวิส […]

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวน่าเหลือเชื่อ แม่รายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองเหิงหยาง มณฑลหูหนาน ประเทศจีน จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจมณฑลเจียงซู แจ้งว่าลูกชายของคุณแม่ถูกควบคุมตัวในข้อหาเมาแล้วขับ ผมต้องการยืนยันกับคุณไม่เช่นนั้นจะปล่อยตัวเขาไปไม่ได้ เมื่อได้ยินดังนั้นเธอถึงกับตกตะลึงไปสักพัก เพราะลูกชายคนเดียวของเธอเสียชีวิตไปเมื่อ 15 ปีก่อน แล้วทำไมตำรวจมณฑลเจียงซูถึงบอกว่าเขาถูกควบคุมตัวอยู่ เขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจกล่าวว่าชายที่เมาและขับนั้น สามารถบอกข้อมูลครอบครัวทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง และเมื่อตำรวจส่งรูปถ่ายของชายคนนั้นมาให้ ผู้เป็นแม่ก็ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่ลูกชายของเธอ เพราะหากลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันเขาก็จะมีอายุเพียง 36 ปี แต่ชายในภาพดูสูงอายุมาก น่าจะมีอายุเกือบ 50 ปี ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้มีการตรวจดีเอ็นเอ น่าแปลกที่ผลตรวจยืนยันว่าพวกเขาเป็นพ่อและลูกโดยกำเนิด เมื่อตำรวจนำชายคนดังกล่าวกลับมาบ้านเกิด ตอนลงจากรถบัส พ่อ แม่ พี่สาว และพี่เขยของเขา ก็รออยู่ที่ประตูแล้ว แม่น้ำตาไหลทันทีเมื่อเห็นลูกชายที่ไม่ได้เจอกัน 15 ปี จากนั้นลูกชายก็เริ่มพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เขาเล่าว่าในปี 2547 ขณะที่เขาและแฟนสาวของเขากำลังช้อปปิ้งอยู่ พวกเขาถูกกลุ่มอันธพาลขโมยเงินและเอกสารไป เขาต้องการปกป้องแฟนสาวแต่แขนหักเช่นกัน ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 4 เดือน แฟนสาวก็ซึมเศร้าและจากไป ชีวิตของเขาตอนนั้นจู่ๆ กลายเป็นคนมือเปล่า […]

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า น้องหลินหลิน เด็กหญิงชาวจีนวัย 15 ปีจากมณฑลเสฉวน กลายเป็นเด็กม.ต้นเพียงคนเดียวในมณฑลที่สามารถเข้าเรียนต่อเนื่องจนจบปริญญาโทได้โดยไม่ต้องสอบ เนื่องจากผ่านการคัดเลือกให้เข้าเรียนในโครงการห้องเรียนเยาวชนของมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง ซึ่งจัดเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของจีน ตามรายงานระบุว่า น้องหลินหลิน ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตหวานต๋าในเมืองกว่างหยวน มณฑลเสฉวน เป็นผู้มีผลการเรียนวิชาฟิสิกส์เป็นเลิศมาโดยตลอด เธอมักสอบได้ 100 คะแนนเต็มเป็นประจำ อีกทั้งยังเคยคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์นักเรียนมัธยมต้นระดับชาติ แถมยังเคยได้รับเลือกให้เป็นผู้ประกาศเสียงตามสายของโรงเรียนด้วย นอกจากพรสวรรค์แล้วเธอยังเป็นคนที่ขยันและไม่ย่อท้อ ชอบท้าทายตัวเองอยู่เสมอ “ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง ก็ควรจะพยายามตั้งแต่ตอนยังเป็นวัยรุ่น จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำ” คำกล่าวของเด็กสาวผู้ฝันอยากเป็นหมอช่วยรักษาผู้คน อย่างไรก็ตาม หลินหลินได้บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า ความสำเร็จจากการมุ่งมั่นของเธอในครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากทางโรงเรียนและครู อีกส่วนหนึ่งมาจากแม่ของเธอที่คอยให้กำลังใจสนับสนุนเธอตลอดมา เธอยังฝากถึงทุกคนที่มีความฝันแบบเดียวกันว่า ทุกชีวิตไม่มีใครราบรื่น โดยเธอมักจะพบกับความยากลำบากในกระบวนการเรียนรู้ แต่เมื่อเผชิญกับความยากลำบาก เราต้องปรับความคิดของเราให้ทันเวลาและมีความมั่นใจและเชื่อมั่นอย่างมากที่จะเอาชนะความยากลำบาก ทั้งนี้ ห้องเรียนเยาวชนเป็นการศึกษารูปแบบพิเศษของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีเพียง 3 แห่งทั่วประเทศจีน ได้แก่ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi’an Jiaotong University) มหาวิทยาลัยตงหนาน (Southeast University) และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน (University of Science and Technology […]