ตร.

Advertisement เพจตำรวจโพสต์ภาพตักเตือนนักศึกษา หลังถูกคนโทร. แจ้งว่าร้องเพลงหาเงินเรียนเสียงดัง งานนี้ชาวโซเชียลซัดยับ คนแจ้งใจแคบ ทำเกินไป พร้อมให้กำลังใจน้องให้สู้ ๆ Advertisement วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองราชบุรี ราชบุรี ได้มีการโพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ โดยกำลังยืนพูดคุยกับนักศึกษาหญิง พร้อมข้อความว่า “#เปิดเพลงเสียงดัง วันที่ 11 พ.ย. 64 เวลา 07.30 น. จยย. เขต 1 เหตุเปิดเพลงเสียงดัง เบื้องต้น เป็นนักศึกษามาเปิดหมวกโชว์พลังเสียงเพื่อเป็นทุนการศึกษา ได้ว่ากล่าวให้เบาเสียงลงเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปปกติ” Advertisement อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่มีการโพสต์เรื่องดังกล่าว ชาวโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจน้องนักศึกษาในภาพกันมากมาย โดยบอกว่า น้องเขายังรู้จักทำมาหากิน พยายามหาเงินเรียนด้วยตนเอง ควรจะสนับสนุนด้วยซ้ำ คนแจ้งทำเกินไปมาก ๆ   ข่าวจาก : kapook  

ตร.ยันเฟกนิวส์ ปมคลิปเสียง ม็อบทะลุแก๊ส ถูกตร.ทำร้าย ลักเงิน3พัน เผยไม่มีใครแจ้งความ ซัดคลิปเสียง ไม่ชัดเจน บิดเบือน ใส่ความ เข้าข่ายผิดกฎหมาย วันที่ 10 ต.ค. 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม กรณีการโพสต์คลิปเสียงที่ระบุว่า กลุ่มคนจากม็อบทะลุแก๊สที่ถูกจับในวันที่ 6 ต.ค. ถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย และขโมยเงินกว่า 3,000 บาทนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบ และชี้แจงว่า จากการติดตามตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษของประชาชนจากกลุ่มผู้ชุมนุม ว่ามีเจ้าหน้าที่ตํารวจรายใดเข้าทําร้ายร่างกายและขโมยเงินตามที่คลิปเสียงไม่ทราบแหล่งที่มา ประกอบกับคลิปเสียงนั้นก็มีข้อความไม่ชัดเจน บิดเบือน ใส่ความเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีพยานหลักฐานหรือมีการเข้ามาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษตามช่องทางกฎหมายที่ได้กําหนดไว้ กองบัญชาการตํารวจนครบาลขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องเจ้าหน้าที่ตํารวจที่กระทําผิดกฎหมายและพร้อมจะดําเนินการพิสูจน์ความผิดในส่วนของคดีอาญาและคดีวินัยต่อไป ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.royalthaipolice.go.th หรือโทร 1599   ข่าวจาก : ข่าวสด

เสียงครวญจากแม่ค้าดินแดง โดน ตร.เอาปืนจ่อ ไล่ให้กลับ ขณะสลายชุมนุม เผยกลัวแต่ก็ต้องมาขายของ ไม่งั้นก็อดตาย พรุ่งนี้ก็คงต้องมาขายอีก ตร.ควรใจเย็นลงบ้าง วันที่ 20 ส.ค.64 จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ คฝ. บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกันยังคงมีประชาชนและรถที่สัญจรไปมาอยู่ ทำให้มีประชาชนโดนลูกหลงไปหลายราย รวมทั้งชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ก็ถูกลูกหลงจากกระสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ คฝ. ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ค้าขายลูกชิ้นรายหนึ่ง ที่ขายของอยู่แถวสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งก็ได้รับความเดือดร้อน จากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ คฝ. โดยกล่าวว่า ตนขายของอยู่ที่นี่ประจำ อยู่ในเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยาง เราพยายามแสดงตัวว่าเป็นแม่ค้า มาขายของ ก็มีตำรวจเอาปืนขึ้นมาจ่อแล้วบอกว่า ไม่เกี่ยวให้กลับไป ตนขายของ ทำมาหากิน ก็ไม่รู้จะให้ไปอยู่ที่ไหน ตนได้กลิ่นแก๊สน้ำตา ได้ยินเสียงยิงกระสุนยาง ก็รู้สึกกลัวมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้ก็คงต้องมาขายต่อ เพราะไม่มาขายจะเอาเงินที่ไหน เงินที่ได้จากการเยียวยาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จึงอยากฝากบอกตำรวจให้ใจเย็นลงบ้าง   ข่าวจาก : ข่าวสด

จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีการยกระดับการปราบปรามโดยใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง นั้น พบว่า มีอดีตรอง ผกก.ออกมาเตือน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ธิติธารวัฒน์ อดีตรอง ผกก.ฝอ.ภ.จว.พะเยา ได้ออกมาโพสต์เตือนการใช้กำลังในการปราบปรามผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยากให้รุ่นน้อง และนายตำรวจชั้นประทวน อย่ากระทำความรุนแรงต่อประชาชนตามที่ได้รับคำสั่งมา ด้วยชุดความคิดว่า ผู้ชุมนุมคือผู้ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง โดยระบุว่า อาจจะถูกประชาชนฟ้องร้อง ม.157 และอื่นๆ ที่จะตามมา อย่าลืมว่าอายุความคดีเหล่านี้หลายปี ปชช.เอาคืนแน่ ผมเคยเป็นนายตำรวจเหมือนพวกท่าน และผ่านการฝึกการควบคุมฝูงชนตาม พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ อย่างพวกท่านมาแล้ว ในการลงปฏิบัติหน้าที่ คฝ. เราสามารถยืดหยุ่นสถานการณ์ได้ ใช้กำลังเท่าที่จำเป็นจากเบาไปหาหนักตามที่ฝึกมา การเจรจาดีที่สุดในการยุติความรุนแรงไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด ผมอยากเตือนน้องๆ ว่า นายของพวกท่านโดน ปชช.เอาคืนแน่..แต่ผมไม่อยากเห็นตำรวจผู้น้อยอย่างพวกท่านโดนคดีตามนายเXXX เหล่านี้ไปด้วย..#ผมเตือนแล้วนะ..!!!”   ข่าวจาก : ข่าวสด

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือวิทยุในราชการตร.ด่วนที่สุด ที่ ศปม5.31/248 ลงวันที่ 26 มิถุนายน ถึง ผบช.น. ภ.1, 7 และ 9 ใจความว่า อ้างถึง ว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ ศปม5.31/246 ลง 25 มิ.ย.64 ให้ บช.น. ภ.1-9 และ ตชด. ดำเนินการตามมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด/ข้ามพื้นที่ การควบคุมพฤติกรรมและกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคและการละเมิดข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่อื่นๆที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ให้ บช.น. และ ภ.1-9 ดำเนินการตามมาตรการควบคุมแคมป์คนงานและพื้นที่ก่อสร้างในเขต กทม. จังหวัดปริมณฑล และการควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนในเขต 4 จชต., กระดาษเขียนข่าวร่วม ศปม. ด่วนที่สุด ที่ ศปม/356 […]

วันที่ 26 มิ.ย.64 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการเรียกประชุมด่วนของ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมด่วน หน่วยงาน กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 จากสถานการณ์ภายในประเทศและภูมิภาคที่ยังคงมีแนวโน้มระบาดต่อเนื่องว่า ยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทยอยจัดกำลังเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการปิดแคมป์คนงาน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากห่วงว่าหากไม่เร่งดำเนินการ แรงงานจะออกจากพื้นที่ไป ปัญหาก็จะตามมาว่าเราควบคุมกันไม่ได้จึงจำเป็นต้องจัดกำลังเข้าไปควบคุมก่อนและปล่อยให้เขาอยู่ในพื้นที่นั้น และปิดการเคลื่อนย้าย ในส่วนของรัฐบาลก็จะเยียวยา “หากเราไม่หยุดเขาก่อนและเขาออกนอกพื้นที่ไปก็จะเกิดความยุ่งยาก ถ้าเราประกาศออกไปว่าจะปิดแคมป์คนงานทั้งหมดก็จะมีปัญหาหากเขาออกไปก่อน ก่อนที่เราจะปิด ซึ่งจะต้องไปติดตามตัวในพื้นที่อื่นอีก จึงได้มีการเริ่มจัดกำลังเข้าไปดูแลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนข้อกำหนดและข้อปฏิบัติต่างๆ ทาง ศบค.จะประกาศ ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้” พล.ท.คงชีพกล่าว เมื่อถามว่าจะปิดทุกแคมป์หรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า ในแต่ละจังหวัดจะต้องเป็นผู้พิจารณาว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เสี่ยง มีการตรวจเชิงรุกและพบการติดเชื้อจำนวนมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถือพื้นที่เสี่ยงต้องควบคุมทั้งหมด แต่ถ้าน้อยกว่า 10% อาจจะไม่ปิดทั้งหมด […]