นักธุรกิจ

Advertisement เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ โจว ยาน (นามสมมุติ) หญิงสาวจากครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ ได้บังเอิญพบรักกับ เจิ้ง เค (นามสมมุติ) นักธุรกิจ ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ทั้งคู่ตกลงคบหาจนแต่งงาน และตัดสินใจมีบุตรผ่านการอุ้มบุญที่สหรัฐอเมริกา รวมทั้งสิ้น 8 คน อย่างไรก็ตาม ความสุขกลับสั้นเพียงไม่กี่ปี เมื่อโจว ยาน ได้รับรู้ความจริงว่า เจิ้ง เค มีภรรยาอยู่แล้ว และใบทะเบียนสมรสที่เธอมีเป็นของปลอม ชีวิตครอบครัวที่เคยอบอุ่น พังทลายลงในชั่วพริบตา Advertisement โจว ยาน เล่าว่า เธอและเจิ้ง เค พบกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ เธอหลงใหลในความเอาใจใส่และดูแลเหมือนพ่อของเขา ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงาน โดยที่โจว ยาน ไม่รู้ความจริงว่าเขามีครอบครัวอยู่แล้ว ความฝันอยากมีลูก ร่วมสร้างครอบครัวสุขสัน นำพาพวกเขาไปสู่การตัดสินใจอุ้มบุญที่สหรัฐอเมริกา มีทายาทรวม 8 คน Advertisement หลังใช้ชีวิตด้วยกันมานานหลายปี โจว ยาน เพิ่งทราบความจริงว่า เจิ้ง เค มีภรรยาอยู่แล้ว เธอรู้สึกเหมือนโดนหลอกลวง […]

นักธุรกิจเจ้าของบ้านจัดสรรชื่อดังสุราษฎร์ใจป้ำ ยกโรงแรมตาปีกลางเมืองให้บุคลากรทางการแพทย์ และ จนท.ภาคสนามพักใช้ฟรี โดยเจ้าของรับภาระจ่ายค่าน้ำ-ไฟ พนักงานดูแลให้ใช้แบบไม่อั้น เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ที่โรงแรมตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางไปรับหนังสือและรับมอบกุญแจห้องพักโรงแรมจาก นายพิริยะ ธานีรณานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบ้านสวยกรุ๊ป และตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัย ป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 62 ซึ่งเป็นนักธุรกิจบ้านจัดสรรใน จ.สุราษฎร์ธานีและเจ้าของโรงแรมตาปี ยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ที่แสดงความจำนงมอบอาคารและพื้นที่โรงแรมตาปีทั้งหมดให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เป็นที่พักของบุคลากรทางการแพทย์และ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องที่ปฎิบัติภารกิจในสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า2019(โควิด-19) นายพิริยะ นักธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ปัญหาการระบาดโรคโควิด-19 เข้าใจและเห็นใจคณะแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนอย่างหนักต่อสถานการณ์ ที่ยากลำบาก จึงขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านเดินหน้าแก้ไขปัญหาทำภารกิจให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน โดยขอยกโรงแรมตาปีทั้งหมดที่มีอยู่ประกอบด้วย ห้องพัก 100 ห้อง พร้อมเตียง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และตู้เย็น ห้องประชุมขนาดกลาง ที่จอดรถ 50 […]

แฉนักธุรกิจติดโควิดจากไทย ใช้ผลตรวจปลอม หลอกเจ้าหน้าที่-บินกลับไต้หวัน เมื่อวันที่ 4 พ.ค เว็บไซต์พีทีเอสของไต้หวัน รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไต้หวัน หนึ่งในนั้นเป็นนักธุรกิจ อายุประมาณ 50 ปีที่ได้ใช้ผลตรวจโควิด-19 ปลอมเพื่อลักลอบเดินทางกลับเข้าไต้หวัน วันที่ 1 พ.ค. ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานว่ามีการยืนยันผลตรวจของนักธุรกิจชาวไต้หวันติดเชื้อโควิด -19 แต่ทางการไม่สามารถติดตามตัวคนไข้ได้ ผลปรากฎว่านักธุรกิจคนดังกล่าวได้เดินทางกลับไต้หวันไปแล้ว ในวันที่ 2 พ.ค. ด้วยสายการบิน EVA Air เที่ยวบิน BR212 ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวัน ยืนยันว่า นักธุรกิจรายนี้ได้เดินทางมาถึงไต้หวันวันที่ 2 พ.ค. และมีไข้สูงในขณะเดินทาง หลังจากนั้นเขาจึงถูกส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาและสังเกตการณ์ สืบทราบภายหลังว่านักธุรกิจคนดังกล่าวได้ปลอมแปลงเอกสารผลตรวจโควิด-19 จากประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและกักตัว การกระทำดังกล่าวถูกประณานเป็นวงกว้างในหมู่ลูกเรือว่านักธุรกิจที่ติดเชื้อโควิด-19เห็นแก่ตัวและขาดความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างไรก็ตามพนักงานของสายการบินเปิดเผยว่าผู้โดยสารต้องแสดงผลการรับรองการตรวจโควิด-19 ก่อนที่จะเดินทางเข้าไต้หวัน ทั้งนี้การตรวจว่าเอกสารนั้นเป็นของจริงหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเช่นกัน ศบค.ไทย ได้ออกจดหมายแจ้งเตือนญาติและผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดนักธุรกิจไต้หวันคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลไทม์ไลน์ของนักธุรกิจไต้หวันทันที   ข่าวจาก : khaosod

  20 ก.ค.61 ล็อกอิน สมาชิกหมายเลข 4675333 โพสต์ระบายในเว็บไซต์ https://pantip.com/topic/37882404 ถึงความทุกข์ที่ขอเงินพ่อมาเปิดกิจการเองไม่ได้ โดยระบุข้อความว่า… พ่อผมถือว่าโหดไปไหมครับ หรือ ปกติแล้ว พ่อทำกิจการ  เราไปช่วยพ่อทำ   พ่อให้เงินเดือนแค่เร็ทลูกจ้าง (พอๆกับลูกจ้างพม่า  9 พันบาทต่อเดือน) กิจการก็รายได้ดี   ผมเห็นรายรับ รายจ่ายทุกวัน  หักลบค่าใช้จ่ายทุกอย่างหมด กำไรหลัก 2-3แสน  ต่อเดือน เคยถามพ่อว่า ขอมากกว่านี้ได้ไหม  (เร็ทถือว่าเราเป็นลูก  ขอพิเศษ) พ่อกลับตอบว่างั้นก็ต้องเปิดกิจการเอง   เราขอเงินพ่อเปิดกิจการ  พ่อไม่ให้  ขอกู้ก็ไม่ให้กู้ บอกแค่ว่า  เอาเงินเดือน(อันน้อยนิด)  ไปสะสมเอง(ซึ่งไม่รู้กี่ปี)แล้วหาทางดิ้นรนเปิดเอาเอง บอกแค่ว่าอยากมีรายได้เยอะๆ  ต้องทำเอง  ดิ้นรนเอง ประกอบกับเห็นบัญชีรายรับ รายจ่าย  สมุดธนาคารของพ่อทุกใบ  ทำบัญชีให้พ่อเลยเห็นทุกอย่าง  รวมๆแล้วหลายล้าน(ไร้หนี้สินด้วย)   ทำไมช่วยลูกไม่ได้ ถือว่าโหดไปไหมครับสำหรับพ่อผม ปล.ข้ออ้างเดียวพ่อตายไปก็ตกเป็นของเรา   ผมไม่ไว้ใจครับ  พ่อมีเมียน้อย ถ้าพ่อตายไม่รู้จะตกถึงผมสักกี่% ผมยังไม่แน่ใจว่าพ่อจะให้ผมด้วยซ้ำ สมบัตินะครับ   […]