‘บิ๊กป้อม’ พร้อมคุมกลาโหมต่อ แต่รอทาบทามก่อน
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
พิธีมอบคืนโฉนดที่ดิน “คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม” ครั้งที่ 9 ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนกว่า 1,000 รายในพื้นที่ภาคเหนือมารับมอบโฉนดคืน โดยสามารถไกล่เกลี่ยได้ 1,001 ราย รวมโฉนด 1,087 ฉบับ รวมเนื้อที่ 1,248 ไร่ 1 งาน 68.2 ตารางวา มูลค่า 1,182,821,518 บาท พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การคืนโฉนด คืนความสุขให้กับประชาชนครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม คืนความสุขให้กับประชาชน และต้องการให้ประชาชนมีความสุขและรักใคร่ สามัคคีปรองดองกัน ซึ่งถ้าหากว่ารัฐบาลนี้ยังคงได้เป็นรัฐบาลต่อไปก็ขยายผลขอคืนโฉนดให้นำมาคืนให้กับประชาชนอีก สำหรับโครงการพิธีมอบคืนโฉนดที่ดิน “คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม” นั้น ทาง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้ “ปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไข โดยเน้นย้ำให้มีการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่อง และต้องดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย […]
วันที่ 14 มี.ค. ที่สโมสรค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประชุมติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่า และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ที่สถานการณ์รุนแรงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผลการตรวจวัดดัชนีคุณภาพอากาศหรือ AQI จากเว็บไซต์ Airvisaul.comระบุว่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกต่อเนื่องกัน 4 วันแล้ว ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการดำเนินการต่างๆ ของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ที่ร่วมกับทุกหน่วยงานดำเนินการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้เยี่ยมชมยุทโธปกรณ์ดับไฟป่า พร้อมให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ไปเยี่ยมชมการทำม่านน้ำที่ระดมรถบรรทุกน้ำและอุปกรณ์จากหลายหน่วยทำการฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นไปบนอากาศรอบคูเมืองเชียงใหม่ ที่บริเวณประตูท่าแพ วนรอบไปทางประตูเชียงใหม่ และช่วงหน้าโรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ ของจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนนั้น ทางรัฐบาลมีความห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดกับสุขภาพประชาชนเป็นอย่างมากและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหา ซึ่งเมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วจะพบว่า สาเหตุหลักมาจากการเผาในพื้นที่ป่า ฉะนั้นการจะแก้ไขปัญหาหรือลดปัญหาได้จะต้องหาวิธีการควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด จึงจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ส่วนการฉีดพ่นละอองน้ำนั้น อาจจะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่อาจจะไม่มาก ทั้งนี้อยากเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ทั้งทางกองทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมไปถึงทุกอำเภอและทุกหมู่บ้านตำบล ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการนำระบบ Single Command มาใช้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องประสานความร่วมมือการตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์ปัญหา เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม […]
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้า การสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาส.ว. เพื่อพิจารณาจัดทำรายชื่อ 400 คน ส่งให้คสช. พิจารณาแต่งตั้งเป็นส.ว.สรรหา 194 คนนั้น ล่าสุดในวันนี้ (8 มี.ค.) พล.อ.ประวิตรได้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาส.ว.นัดสุดท้าย ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) เพื่อดำเนินการคัดรายชื่อทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมส่งให้คสช.พิจารณาต่อ ส่วนแนวทางคัดเลือกของคณะกรรมการคัดเลือก ส.ว. ต้องเป็นบุคคลที่เข้าใจการเมือง มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ความสามารถหาทางการเมืองได้ ประคองสถานการวิกฤติการเมืองเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะ การเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะงาน สว.ไม่ง่าย ต้องหาคนที่ทำงานการเมือง เข้าใจการเมืองได้ดี ต้องทำงานร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากเลือก ดังนั้น บุคลิก บารมี […]
‘ประวิตร’ นั่งประธานสรรหา ส.ว. 400 คน เพื่อส่งให้ คสช. คัดเหลือ 194 คน ไม่ตอบ ส.ว. จะโหวตพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกหรือไม่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับนั่งเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 194 คน และกำลังพิจารณาจะเรียกประชุมในเร็ววันนี้ สัดส่วนของ ส.ว. จากมาจากหลากหลายทั้งข้าราชการ พลเรือน และสายอาชีพอื่น แต่จะไม่มีทหารที่รับราชการอยู่ รวมทั้งไม่มีทหารที่กำลังจะเกษียณอายุราชการด้วย แต่จะคัดจากคนทั่วไป พร้อมถามกลับว่าทหารที่ยังรับราชการจะไปเป็น ส.ว. ได้อย่างไร ส่วนจะดึงจาก 200 รายชื่อที่ กกต. เสนอมาแต่ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว. 50 คนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่ายังไม่แน่ใจ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่เปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการ และไม่ตอบเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลว่า ส.ว. ที่แต่งตั้งมาจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ ไม่เลือกตามเสียงประชาชน โดยตอบเพียงว่า “แล้วแต่คุณ” ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯจะต้องคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมมา 400 […]
พล.อ.ประวิตร ปัดออกความเห็นเรื่องการกระทำของ แก๊งโจ๋วัดสิงห์ แย้มให้เจ้าหน้าที่สอบก่อน ว่าต้องส่งปรับทัศนคติไหม เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นแก๊งงานบวชบุกเข้าทำร้ายร่างกายผู้อำนวยการ ครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ (ม.ว.ส) ถ.เอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. หลังไม่พอใจถูกเตือนให้ขบวนแห่นาคช่วยงดใช้เครื่องเสียงเนื่องจากโรงเรียนมีการสอบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับอยู่และดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ ส่วนจะมีการนำตัวมาปรับทัศนคติหรืออบรมหรือไม่นั้น ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานสอบสวนไปก่อน เมื่อถามว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นลักษณะผู้มีอิทธิพลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่าถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะตักเตือนอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ข่าวจาก : springnews
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศ ที่จะนำคณะนายกรัฐมนตรีไปตรวจราชการที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ เกิดใบพัดขัดข้อง หลังขึ้นบิน 45 นาที ต้องบินวนกลับมาเปลี่ยนเครื่องใหม่เป็น CN295 ของกองทัพบกแทน ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเก่าแล้ว ขณะนี้ก็กำลังมีแผนปรับเปลี่ยนซึ่งจะต้องดูงบประมาณ โดยก่อนขึ้นบินเจ้าหน้าที่ก็ตรวจเช็กแล้ว เมื่อถามว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นถือได้ว่างบประมาณของกองทัพยังมีความจำเป็นในการนำไปซื้อยุทโธปกรณ์หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ก็มีความจำเป็น เพราะเครื่องนี้เก่าแล้ว ใช้มานาน 30 กว่าปีแล้ว ซึ่งงบประมาณของกระทรวงกลาโหมก็ถือว่ามีความจำเป็นในการซื้อยุทโธปกรณ์ รวมถึงที่ผ่านมางบประมาณของกระทรวงกลาโหมก็ใช้ไปตามความจำเป็น ไม่ได้มากขึ้น งบประมาณเท่าเดิมทุกอย่างประมาณ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นสามารถหักล้างข้อกล่าวหาบางพรรคการเมืองที่หาเสียงจะลดงบประมาณกองทัพได้หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า งบประมาณกระทรวงกลาโหมมีความจำเป็น เพราะต้องใช้ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาชน และใช้ในการป้องกันประเทศ […]
วันนี้ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก Korn Chatikavanij แสดงความคิดเห็นกรณีการตัดงบกองทัพ พร้อมกับอธิบายข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งระบุข้อความดังนี้… ข้อเท็จจริงเรื่องงบกระทรวงกลาโหม ผมไม่มีเจตนาจะปกป้องหรือกล่าวหาใคร แต่หากดูจากตารางจะเห็นว่า.. 1. งบทหารเพิ่มขึ้น(เกือบ) ทุกปีจริง แต่ตามจริงงบทุกกระทรวงก็เพิ่มขึ้นตาม GDP ที่สูงขึ้นเหมือนกัน 2. ปีเดียวที่กล้าปรับลดงบทหารลงไปคือ ในสมัยคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตรเป็นรมว. กลาโหม) 3. หากวัดจากสัดส่วนต่อ GDP เราจะเห็นว่างบทหาร ไม่ได้ผิดปกติ และลดลงต่อเนื่องในยุค คสช. 4. แต่ละประเทศจะมีการจัดสรรงบทหารตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ของตน ปกติจะใช้วิธีเปรียบเทียบกับขนาดของเศรษฐกิจ (GDP) ซึ่งจะเห็นว่ามีทั้งตํ่ากว่าและสูงกว่าเรา การใช้งบรัฐไม่ว่าจะงบประมาณรายจ่ายประเภทใดก็ตาม (รวมถึงงบทหาร) ต้องโปร่งใส แต่ทุกฝ่ายไม่ควรเพิ่มเงื่อนไขความแตกแยก โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริง ประชาชนควรดูพฤติกรรมของทุกรัฐบาลในอดีตว่า เคยมีท่าทีอย่างไร พรรคที่ประกาศว่า ..งบทหารต้องลดลง เคยมีการปรับงบทหารลงในยุคที่มีอำนาจหรือไม่ ในสมัยเราเป็นรัฐบาล กลาโหมร้องของบซื้อเรือดำน้ำ คุณอภิสิทธิ์ถามว่า ‘ทหารเรือเราใช้เรือดำน้ำเป็นหรือยัง?’ และจึงมีนโยบายให้ไปฝึกมาก่อนที่คิดจะซื้อ สุดท้ายไม่ได้มีการจัดซื้อเรือดำน้ำในยุคเรา […]
วันนี้ (18 ก.พ.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และแกนนำเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ กรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไล่ให้ผู้ที่เสนอปฏิรูปเกณฑ์ทหาร ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน โดยระบุว่า “ไม่ใช่แค่ตัดงบ 10% เท่านั้น แต่ยังต้องลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลที่มากเกินภารกิจ เอากองทัพออกไปจากการเมือง เพิ่มประสิทธิภาพกองทัพและทำงานตรงตามภารกิจ ที่สำคัญต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ผู้นำกองทัพจะต้องฉลาด และไม่เป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยเสียเอง” ไม่ใช่แค่ตัดงบ 10% เท่านั้น แต่ยังต้องลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลที่มากเกินภารกิจ เอากองทัพออกไปจากการเมือง เพิ่มประสิทธิภาพกองทัพและทำงานตรงตามภารกิจ ที่สำคัญต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ผู้นำกองทัพจะต้องฉลาดและไม่เป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยเสียเอง pic.twitter.com/SiIFoWz0cG — watanamuangsook (@watanamuangsook) 18 กุมภาพันธ์ 2562 ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เห็นด้วยกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ โดยเมื่อเวลา 13.15 […]
"บิ๊กปัอม" สั่งดูแลเข้ม "วันวาเลนไทน์" กวดขันสถานบันเทิง สถานบริการ แหล่งมั่วสุมของเยาวชน หวั่นเด็กถูกล่อลวง เสียความบริสุทธิ์ วันที่ 13 ก.พ. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับตำรวจและฝ่ายปกครองทุกจังหวัด ร่วมกันเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในทุกพื้นที่ ในห้วงวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความรัก ที่หนุ่มสาวต่างแสดงความรักอันบริสุทธิ์ต่อกัน โดยย้ำให้เพิ่มความเข้มงวด กวดขันสถานบันเทิงและสถานบริการที่เป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน ที่อาจถูกชี้นำไปในทางที่ผิด หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อป้องกันเหตุร้าย และเหตุอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยการแสดงออกถึง ความรัก ความจริงใจและความปรารถนาดีกับประชาชนทุกคน พร้อมทั้งร่วมกันสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือทุกครอบครัว ได้พิจารณาใช้โอกาสวันแห่งความรักนี้ ร่วมกันเฝ้าระวังและดูแลลูกหลาน เยาวชน ในกรอบของศีลธรรมอันดีด้วยความรักความเข้าใจกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างพลังทางสังคมและลดปัญหาต่างๆ ที่จะมีขึ้น ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์