AI ชี้ พนักงานออฟฟิศมี 6 ประเภท คุณจัดอยู่ในประเภทไหน?

Advertisement McKinsey เปิดผลรายงาน พนักงาน 6 แบบที่เจอได้ในบริษัท เพื่อที่หัวหน้างานจะได้เข้าใจพนักงานของตัวเองได้ดีขึ้น โดยรายงานชุดนี้ทำขึ้นมาจาก AI ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของพนักงานในบริษัท รวบรวมข้อมูลและนำมาให้ AI วิเคราะห์ Advertisement มาดูกันว่าคุณมีพนักงานแบบไหน หรือเป็นพนักงานประเภทไหนกันแน่ ! พนักงาน 6 แบบที่เจอได้บ่อยในบริษัท 1. The Quitters ลักษณะของพนักงานประเภทนี้คือ คนที่ดูเหมือนยากลาออกจากงาน จากการศึกษาพบว่าจะมีพนักงานประเภทนี้อยู่ราว ๆ 10% สิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นแบบนี้ คือ พวกเขาไม่มีความสุขและไม่มีแรงจูงใจให้ยากทำงาน บริษัทจึงควรหาต้นตอของปัญหาที่ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่มีความสุขกับงาน และเร่งแก้ไขก่อนที่พวกเขาจะลาออกไปจริง ๆ ซึ่ง AI ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการช่วยเหลือพนักงานกลุ่มนี้ คือ การพูดคุยกันตัวต่อตัว สร้างแรงจูงใจในการทำงาน ให้โอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน หรือการให้รางวัลเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกถึงการประสบความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้รู้สึกดีกับงานมากขึ้น 2. The Disruptors ลักษณะของพนักงานประเภทนี้คือ คนที่ไม่มีความสุขกับงานที่ทำและอาจแสดงพฤติกรรมไม่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน จึงเป็นพนักงานประเภทที่บริษัทต้องรีบรับมือ เพราะคนเหล่านี้มีส่วนที่ทำให้คนในที่ทำงานรู้สึกแย่ พนักงานเหล่านี้มีประมาณ 11% ของพนักงานทั้งหมด สาเหตุหลัก ๆ […]

เร็วไปไหม? ถ้าอายุ24 ไม่มีเงินเก็บ ตัดสินใจทำเกษตรที่บ้าน

อาชีพเกษตรกรถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ก็เหนื่อยที่สุด ยังไม่นับรวมว่าต้นทุนเดี๋ยวนี้ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปุ๋ย, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, เมล็ดพันธุ์, วัสดุในการดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้กลายเป็นอาชีพที่หลายคนเลือกที่จะทำเป็นอาชีพเสริมเมื่ออาชีพหลักมีเงินมากพอแล้ว หรือไม่ก็เป็นงานไว้แก้เหงายามเกษียณ ปลูกกินแค่แปลงเล็ก ๆ ไม่ถึงกับต้องค้าขายมาก สมาชิกพันทิป สมาชิกหมายเลข 4031671 ก็เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในอาชีพนี้ แต่ความกังวลของเธอก็คือ เธอเพิ่งจะเรียนจบ อายุ 24 ปี ไม่มีเงินเก็บ จะเป็นการเริ่มต้นที่เร็วไปหรือไม่ โดยอธิบายไว้ว่า เราอายุ24ค่ะ เรียนจบมาสักพัก อยู่ทั้งเชียงใหม่เเละกรุงเทพ ค่าครองชีพสูงค่ะสำหรับเงินเดือนเด็กจบใหม่ อยู่ได้แต่ ไม่มีเงินเก็บ เป็นลูกคนเดียวภาระครอบครัวที่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรพ่อแม่เป็นข้าราชการเกษียณแล้ว  เเต่เราอยากกลับบ้านไปอยู่กับพ่อเเม่ค่ะ ท่านเเก่แล้ว อยากกลับไปใช้ชีวิตดูแลพ่อแม่ที่บ้าน ไม่มีความสุขกับชีวิตในเมืองเลย ไม่อินกับการเดินห้าง เดินตลาดเข้าร้าน รถติด เบื่อมากกับชีวิตในเมืองค่ะ ที่บ้านเกิดอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง อากาศดี ธรรมชาติสมบูรณ์ ที่บ้านมีที่ดินหลายแปลง ว่างอยู่มีน้ำลำธารไว้ทำเกษตร มีญาติเข้าไปทำสวนนิดหน่อยไม่ให้รกร้าง เราเคยกลับไปใช้ชีวิต เรียนออนไลน์ ช่วงโควิด ทำสวนไปด้วย ปลูกผักกินขาย […]

หนุ่มเครียด หัวหน้าชอบให้งานกลับมาทำที่บ้าน ถามชาวเน็ต ถ้าลาออก ดูเป็นคนขี้แพ้มั้ย?

14 ก.พ. ที่ผ่านมา สมาชิกหมายเลข 7400337 ได้ตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหาการทำงาน โดยเล่าว่า เขาทำงานที่บริษัทขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยมีระบบระเบียบเท่าไหร่นัก แต่เลือกทำงานที่บริษัทแห่งนี้เพราะว่าอยู่ใกล้บ้าน หลังเลิกงาน เขาต้องนำงานกลับมาทำที่บ้านทุกวัน มันเป็นแบบนี้อยู่ 3 เดือน ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เขาได้บอกปัญหาให้หัวหน้าฟังแล้ว แต่หัวหน้าตอบกลับมาว่า ถ้าให้เอางานมาทำตอนเช้า เกรงว่าจะไม่ทันส่งแผนงาน เลยให้ลูกน้องเอางานกลับไปทำที่บ้านแทน ในบางครั้งที่เขาทำงานผิด หัวหน้าก็ส่งไลน์มาหาให้แก้งานตอน 3-4 ทุ่ม เขาไม่โอเคกับเรื่องเหล่านี้เพราะตอนสัมภาษณ์ ทางบริษัทไม่ได้ชี้แจงว่าต้องมีการเอางานกลับไปทำที่บ้านด้วย ตอนนี้เขาเครียดมาก เพราะเลิกงานแล้วก็อยากพักสมอง ถ้าลาออกเพราะเหตุผลแค่นี้ จะดูเป็นคนขี้แพ้เกินไปไหม? ด้านความคิดเห็นชาวเน็ตแนะนำว่า หากเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้งถือว่าไม่ค่อยแปลก เพราะอาจเป็นงานด่วน แต่ถ้าให้ทำทุกวันถือว่าผิดปกติ ถ้าใช้แรงงานเกินกว่ากฎหมายที่กำหนดแต่ไม่ได้ค่าจ้างเพิ่มก็เท่ากับว่าผิดกฎหมายแรงงาน นอกจากนี้ การลาออกไม่ใช่เรื่องผิดและไม่ได้เป็นคนขี้แพ้ เพราะทางบริษัทไม่ได้ให้ทำงานตามที่ตกลงไว้ ระหว่างที่รอลาออกก็หางานใหม่ คนเราต้องรักษาสิทธิ์ เลือกรักษาร่างกายและสุขภาพจิตของตัวเอง   ข่าวจาก : ข่าวสด

หนุ่มตั้งกระทู้ปรึกษา พนักงานลาออกไปแล้ว ไลน์มาถาม’ผมได้โบนัสไหม’ ชาวเน็ตชี้ เคยมีคดีตัวอย่างลูกจ้างฟ้องแล้วชนะ เรียกโบนัสได้ด้วย!!

  หนุ่มแปลกใจ แบบนี้ก็มีด้วยหรอ พนักงานที่เพิ่งลาออกไป ไลน์มาถาม "ผมได้โบนัสไหม" เลยตั้งกระทู้ถามชาวเน็ต เผื่อว่าจะได้ความรู้ใหม่ ๆ บ้างว่าทำได้จริงหรือไม่? เป็นเรื่องที่แปลกจริงหรือไม่?     ชาวพันทิปหลายคนต่างแสดงความคิดเห็นไปต่าง ๆ นานากัน บางคนก็ชี้ว่ามันเป็นสิทธิที่ลูกจ้างจะถามได้ เพราะเขาก็ไม่รู้ เนื่องจากแต่แรกอาจไม่ได้มีการบอกเงื่อนไขกันไว้     แต่ความคิดเห็นที่น่าสนใจก็คือ ความคิดเห็นที่ 4 ที่แปะคดีตัวอย่างให้อ่านว่า เคยมีการฟ้องร้องจนชนะคดีกันมาแล้ว   ทำเป็นเล่นไป กรณีเงินโบนัสหรือเงินรางวัลพิเศษนี้ หากนายจ้างไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายอย่างชัดเจน แม้ลูกจ้างลาออกไปแล้ว นายจ้างอาจต้องจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่ลูกจ้าง กรณีเช่นนี้เคยมีลูกจ้างที่ลาออก ฟ้องเรียกเงินรางวัลพิเศษ ซึ่งจ่ายหลังจากที่ลูกจางลาออกไปแล้ว แถมฟ้องไปแล้ว ศาลฎีกาพิจารณาให้ลูกจ้างชนะเสียด้วย ด้วยเหตุที่ว่านายจ้างไม่มีหลักเกณฑ์การจ่ายที่ระบุว่า ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับเงินรางวัลนี้ต้องมีสถานะเป็นลูกจ้าง ณ วันที่จ่าย ดังนั้นกรณีเช่นนี้ นายจ้างเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ตกมาตายมาแล้วก็มีนะครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3473/2546 ตามหนังสือแจ้งเงินเดือนและเงินรางวัลพิเศษระบุว่า โจทก์มีสิทธิได้รับเงินรางวัลพิเศษโดยมิได้มีหลักเกณฑ์ว่าผู้มีสิทธิได้รับรางวัลพิเศษต้องมีสภาพเป็นพนักงานของจำเลยในวันที่จำเลยจ่ายเงินรางวัลพิเศษ ดังนั้น แม้โจทก์จะลาออกไปในภายหลัง โจทก์ก็ยังมีสิทธิได้รับเงินรางวัลดังกล่าว โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับระยะเวลาการทำงานเพื่อคิดค่าชดเชยเพิ่มขึ้นนั้น มิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและมิใช่การแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อย […]

ผมก็มีภาระ! หัวอกผู้จัดการ กลุ้มใจ ลูกน้องขอให้ควักเงินส่วนตัวเป็นแสนจัดงานเลี้ยงให้หน่อย ปรึกษาชาวเน็ต ปฏิเสธอย่างไรดีไม่ให้น่าเกลียด

  สิ้นปีเหมือนจะสิ้นใจสำหรับบางคน! เมื่อสมาชิกเว็บไซต์ สมาชิกหมายเลข 2948188 ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งกระทู้ว่า “ลูกน้องขอเงินจัด งานเลี้ยงปีใหม่ จาก ผู้จัดการ 10,000 บาท เยอะไปมั้ย ปฏิเสธอย่างไรไม่น่าเกลียด” คุณผู้จัดการได้เล่าว่า เทศกาลปีใหม่อีกแล้วครับ ผมเป็นผจก. เงินเดือนประมาณเกือบ 100k (1แสน) ลูกน้อง 100 คน ปกติปีใหม่บริษัทจะมีงานเลี้ยงของบริษัทอยู่แล้ว แต่น้องๆก็จะขอจัดงานเลี้ยงแยกของแผนกทุกปี ซึ่งเมื่อก่อนมีคนต่างชาติในแผนกเยอะช่วยกันออก และพนักงานก็คนยังไม่เยอะ พอเลี้ยงไหวออกคนละ 2-3พัน แต่ตอนนี้คนเพิ่มมาเยอะ และคนต่างชาติทยอยกลับแล้ว ปีนี้น้องก็ขอให้จัดเหมือนเดิมแล้วขอให้ ผจก.ช่วย 10,000 บาท ซึ่งผมมองว่าเยอะไปแล้วผมก็มีภาระของตัวเองด้วย จะปฏิเสธยังไงให้ไม่ด​​น่าเกลียดครับ เพราะต้องทำงานกันอีกนาน ลำบากใจมากเลย ทำให้มีคนมาแสดงความเห็น เช่น ผมเคยเป็นทั้ง พนง.และ ผจก. ผมก็ใช้หลักการว่าคุ้มไหม จริงอยู่ว่าเรามีภาระ แต่ในอนาคต เราจะมีบารมีเพิ่มมากขึ้น คิดเล่นๆนะครับ 10,000/100 คน แปลว่า เฉลี่ยคนละ100 บาท 100/12 เดือน = เดือนละ 8.25 มองด้านนี้ถือว่าคุ้มครับ […]

ไม่อยากมีปัญหาทั้งกับแฟนและเพื่อนร่วมงานแฟน! สาวกลุ้มใจ ปรึกษาชาวเน็ต ‘ทำไงดี ถ้ามีผู้หญิงที่ทำงานแฟนมาขอติดรถแฟนเราไปด้วยตลอด ทั้งทักทั้งโทรมาปลุกต่อหน้าเรา’

  ปัญหาเพื่อนที่ทำงานเป็นปัญหาเบสิคของหลาย ๆ คนที่อยู่ในวัยทำงาน บางคนก็แค่มีปัญหาเฉพาะที่ทำงาน บางคนก็ลามมาถึงที่บ้าน เช่นเดียวกับสาวสมาชิก Naeiwa ซึ่งกลุ้มใจที่เพื่อนผู้หญิงของแฟนชอบติดรถแฟนไปทำงานด้วย หนำซ้ำยังทั้งทักทั้งโทรมาปลุกต่อหน้าเธออย่างไม่มีความเกรงใจกันเลย โดยที่แฟนของเธอก็กล่าวว่า "แค่เพื่อนร่วมงานอย่าคิดมากสิ" ตามหัวข้อเลยค่ะ ถึงแม้ว่าแฟนเราจะบอกกับคนอื่นว่ามีแฟนอยู่แล้วก็จริง แต่ก็มีผู้หญิงคอยโทรคอยทักมาหาเรื่อยๆ แบบขอติดรถไปทำงานด้วย ผู้หญิงคนนั้นก็มีลูกมีสามีแล้วนะแฟนเราบอกมาแบบนี้และก็บอกเราแบบไม่ปิดบังด้วย คือเราก็รับรู้นะก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่ามันฉุกเฉินหรือเปล่า แบบว่าสายขึ้นรถไม่ทันประมาณนี้ เราว่าเราใจกว้างพอที่จะไม่พูดแบบไม่มีเหตุผล แต่หลังๆบ่อยขึ้นอ่ะ แฟนเราก็ไปรับไปส่งจนกลายกลายเป็นเรื่องจำเป็น ต้องออกเช้ากว่าเดิม  และกลับช้ากว่าเดิมเพื่อที่จะไปส่งผู้หญิงคนนี้ให้ถึงที่ทำงานและที่บ้าน บางวันโทรมาหาแฟนเรายังไม่ตื่นด้วยซ้ำ เราก็อยู่บ้านด้วย ทั้งโทรมาปลุกทั้งทัก ทำไมไม่มีมารยาทเลย เราก็คิดนะว่าสามีที่บ้านไม่ว่าบ้างหรอ?หรือเขาไม่รู้ วันนั้นเราก็เลยบ่นๆว่าทำไมไม่มีมารยาทเลย โทรมาบ้างทักมาปลุกบ้าง แฟนเราก็พูดว่า"แค่เพื่อนร่วมงานอย่าคิดมากสิ" เราเข้าใจนะว่าแค่เพื่อร่วมงานแต่ทำไมเขาไม่รู้จักมารยาทบ้างเลย และเรื่องแบบนี้เราควรคุยกับคนของเราป่าว ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น เพราะเราก็ไม่อยากให้แฟนเรามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน คนที่ต้องตัดสินใจคือคนของเรามั๊ย? ในเมื่อเราพูดตรงๆไปว่าเราไม่โอเค เขาไม่มีมารยาท แต่แฟนเรากลับเข้าใจว่าเราหึงเขา จะแสดงความบริสุทธิ์โดยการโทรหาผู้หญิงคนนั้นให้มาคุยกับเรา ต่อหน้า 3 คนเลย มันใช่เรื่องหรอคะ!! เขาคิดเองไม่ได้หรอว่าควรตัดสินใจยังไง แบบนี้เราควรจัดการกับปัญหายังไงคะ     ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่ได้อ่านเรื่องนี้ ต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ามีเรื่องไม่ปกติแน่ ๆ เจ้าของกระทู้ควรเคลียร์ให้ชัดเจนไปเลย จะได้ตัดปัญหาคาใจ บางคนก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรจริง ๆ […]

ยอดออฟฟิศในฝันของสาวๆ! บริษัทในออสเตรเลียให้พนักงานหญิงหยุดงานได้ในวันที่มีประจำเดือน

  บริษัทแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย นำเอามาตรการที่อนุญาตให้พนักงานที่เป็นผู้หญิง สามารถลาหยุดในช่วงที่มีประจำเดือนได้ โดยไม่มีการหักค่าจ้าง เรื่องนี้มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคนที่คัดค้าน     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท วิคตอเรียน วูแมน ทรัสต์ (Victorian Women’s Trust) มีพนักงานทั้งสิ้น 15 คนและเป็นผู้หญิงทั้งหมด เริ่มใช้นโยบายนี้มานาน 18 เดือนแล้ว โดยให้พนักงานหญิงสามารถลาหยุดได้ในวันที่มีประจำเดือนและเกิดอาการข้างเคียง หากพนักงานคนไหนใช้สิทธินี้ลาหยุด ก็จะไม่ถูกหักเงินเดือน ส่วนใครที่แม้จะมีประจำเดือนแต่ยังอยากทำงาน ก็สามารถมาได้ โดยทางบริษัทได้จัดที่นั่งสบาย ๆ เช่น โซฟาให้ทำงาน ด้านผู้บริหารของบริษัท กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงในวันที่ประจำเดือนมา เกือบทุกคนจะมีอาการข้างเคียง เช่นปวดหัวปวดเมี่อยจนเป็นไข้ และอยากจะพักผ่อนอยู่กับบ้าน โดยนโยบายที่ว่านี้มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้าน ฝ่ายที่เห็นด้วย ระบุว่า การให้ลาหยุดจะดีต่อสุขภาพโดยรวมของผู้หญิง แต่คนที่คัดค้านบอกว่า ถ้าหลาย ๆ บริษัทนำนโยบายนี้ไปใช้ อาจทำให้นายจ้างเลือกที่จะจ้างผู้ชายมาทำงานมากกว่าผู้หญิง เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดคนทำงาน ทั้งนี้การลาหยุดในวันที่มีประจำเดือนนั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นที่นี่เป็นที่แรก เพราะหลายประเทศในเอเชีย นำหลักการนี้ไปใช้มานานหลายปีแล้ว ทั้งอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ […]

ออฟฟิศในฝัน! บริษัทนิวซีแลนด์เล็งให้ พนง.ทำงาน ‘สัปดาห์ละ4วัน’ หลังทดลองแล้วประสิทธิภาพดีขึ้นมาก!

  เพอร์เพชวล การ์เดียน ซึ่งเป็นบริษัทรับจัดการสินทรัพย์ พินัยกรรม และวางแผนอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศนิวซีแลนด์ ทดลองลดเวลาทำงานของพนักงานเหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ วันละ 8 ชั่วโมง ตลอดเดือน มี.ค. และ เม.ย. ที่ผ่านมา  พบว่าพนักงานมีความเครียดลดลง มีความพึงพอใจต่องานมากขึ้น ทั้งยังมีสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตดีขึ้นด้วย     ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ นายแอนดรูส์ บานส์ บอกว่า ก่อนจะทดลองให้ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เขาเห็นว่าพนักงานบางคนเครียดกับการจัดการชีวิตส่วนตัวและชีวิตทำงานให้ลงตัว จึงคิดว่า ถ้าหากให้วันหยุดอีกวันเพื่อจัดการชีวิตของตัวเอง อาจจะทำให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้ ซึ่งข้อมูลจากการทดลอง ก็พบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ "สำหรับเรา การทดลองนี้ทำให้บริษัทได้งานมากขึ้น เป็นเพราะประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น และไม่มีผลเสียอะไรต่อบริษัทเลย มีแต่ได้กับได้" นายบานส์ กล่าว ผลการทดลองนี้ยังได้ยินไกลไปถึงหูรัฐมนตรีกระทรวงความสัมพันธ์และความปลอดภัยในที่ทำงาน ของนิวซีแลนด์ นายเอียน ลีส์-แกลโลเวย์ ที่บอกว่า การให้ทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และส่วนตัวก็อยากจะจับมือกับธุรกิจต่างๆ หารูปแบบการทำงานใหม่แบบนี้ ให้กับออฟฟิศสมัยใหม่ นอกจากนี้ นายบานส์ […]

1 2
error: