ช่างสักขอโทษ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แจงทำหลังเลิกงานแล้ว ปมดราม่าสักคิ้วในสถานที่ราชการไม่เหมาะสม

Advertisement จากรณีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว 2 โพสต์ภาพช่างสักคิ้วคนหนึ่งที่กำลังกำลังสักคิ้วให้กับลูกค้าผู้หญิง ซึ่งสวมชุดข้าราชการภายในห้องทำงาน ส่วนอีกภาพเป็นกลุ่มเพื่อน ยืนดูขณะที่ช่างกำลังสักคิ้วอยู่ โพสต์นี้มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า การสักคิ้วในเวลาและสถานที่ดังกล่าวเป็นการเบียดบังการทำงานในเวลาราชการหรือไม่ รวมถึงความไม่เหมาะสมในเรื่องของสถานที่ Advertisement Advertisement ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังช่างสักคิ้วรายนี้ คือ น.ส.พิชชาพลอย อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาชีพสักคิ้ว เปิดเผยว่า ตนเองเป็นช่างสักคิ้วอยู่ที่ จ.ชลบุรี เปิดร้านมา 8 ปีแล้ว แต่บ้านเกิดอยู่ จ.พิษณุโลก ขณะนี้แม่ไม่สบาย และร้านสักคิ้วที่ชลบุรีมีลูกค้าลดลง จึงถือโอกาสกลับมาเยี่ยมแม่และหารายได้ไปด้วย โดยรับสักคิ้วตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งในวันดังกล่าวตนเองเดินทางไปสักคิ้วให้กับลูกค้า 1 คน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ยืนยันว่าไปสักคิ้วให้ลูกค้าเป็นช่วงหลังเลิกงาน ไม่ใช่ในเวลาราชการแต่อย่างใด ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้สัก เพียงเดินมามุงดูเท่านั้น เมื่อสักเสร็จเรียบร้อยตนเองก็ตระเวนไปสักคิ้วให้ลูกค้าท่านอื่นๆ ต่อ อย่างไรก็ตามตนเองยอมรับผิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ใช้สถานที่ราชการเป็นสถานที่สักคิ้วให้ลูกค้า ยอมรับว่ามีความไม่เหมาะสม ขอโทษหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เสื่อมเสีย และขอโทษลูกค้าที่ปรากฏเป็นข่าวออกไป ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก.   ข่าวจาก : สำนักข่าวไทย

ดีใจที่โรงเรียนเปิดเทอมซะที! สาวอัดอั้น โพสต์ระบายปัญหาที่ทำงานซึ่งเป็นสถานที่ราชการ บรรดาแม่ๆ ชอบเอาลูกมาเลี้ยงไม่เกรงใจคนอื่น!

  สมาชิกหมายเลข 733998 ได้โพสต์ “ดีใจที่โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอม ที่ทำงาน (โรงเลี้ยงเด็ก) จะได้สงบสุขเสียที” โดยโพสต์ระบายร่ายยาว ว่า ที่ทำงานเป็นสถานที่ราชการ ในกลุมงานจะมีมนุษย์แม่เอาลูกมาเลี้ยงช่วงปิดเทอมอยู่ 2 – 3 คน ถ้าวันไหนพวกนางเอาลูกมาพร้อมกันนรกแตกมาก วันก่อนเด็กมาพร้อมกัน 3 คน (อีกคนเพื่อนลูกนาง เจอกันเลยชวนมาเล่น) ปกติเด็กก็เล่นเสียงดัง คุยตลอดอยู่แล้ว แต่เมื่อช่วงปลายอาทิตย์ที่แล้วพีคค่ะ ลูกนางเล่นไปกรี๊ดไป ช่วงบ่ายเล่นซ่อนแอบค่ะ 3 คน วิ่งวนรอบโต๊ะเรา ซึ่งมันจะมีช่อง ซอก เด็กชอบเข้ามา ด้านหลังมีปลั๊กไฟ สายแลน กลัวอุปกรณ์พังมาก เพราะทำงานสำคัญ วันพฤหัสก็บอกไปแล้วค่ะ วันศุกร์มาวิ่งอีก บอกนางแม่มันไปแล้ว ว่าให้บอกลูกหน่อยว่าตรงนี้มาเล่นไม่ได้เพราะมีปลั๊กไฟ แม่มันบอกว่า “ก็บอกลูกแล้ว” แล้วก็ทำหน้ายิ้มๆ นางเคยบ่นกับคนอื่นว่าเอาลูกมาที่ทำงานบางคนเค้าก็ไม่เข้าใจว่ามีความจำเป็นไม่มีคนดู ลูกนางเคยมีวีรกรรมไปเล่นในห้องสมุดของที่ทำงาน ทำหนังสือขาด ปรากฏว่าจนท. ตรวจเจอ (ติดกล้องวงจรปิดไว้ เห็นตอนเด็กหยิบหนังสือมาเล่นแล้วทำขาด) นางแม่มันก็ต้องใช้ค่าเสียหายไป นางมาเล่าว่าถามลูกแล้วไม่ยอมรับ พ่อมันบ่นว่าทำไมหนังสือขาดง่ายเอามาวางโชว์ เพลียจิตแทนที่จะโทษว่าลูกตัวเองซน […]

error: