สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจง ไม่รับพนักงานสอบสวนหญิงไม่เกี่ยวกับริดรอนสิทธิ แต่เพราะเกรงภาระงานจะหนักเกินไป

Advertisement   Advertisement สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ กรณีการรับสมัครเข้ารับราชการตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่เป็นเพศชายเท่านั้น ด้านเพจพนักงานสอบสวนหญิง โต้กลับบอก สตช. ไม่เคยดูแล ใครมีโอกาสที่ดีกว่าก็ไป จากกรณีการรับสมัครเข้ารับราชการตำแหน่งพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และเครือข่ายสตรีจัดเวทีเสวนาด้านความเสมอภาคทางเพศ ได้เสนอข้อเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ และมีความเห็นกรณีการรับสมัครบุคคลธรรมดา ข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าไม่คำนึงถึงความเสมอภาคตามหลักสากล เนื่องจากเปิดรับสมัครแต่เพศชายเท่านั้น  โดย พ.ต.ท. ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศดังกล่าว ว่า เนื่องจากปัจจุบันมีความขาดแคลนพนักงานสอบสวนมากถึง 2,000 ตำแหน่ง แต่ในโอกาสนี้สามารถเปิดรับได้เพียง 250 ตำแหน่งเท่านั้น ยังคงขาดแคลนพนักงานสอบสวนอีกมากถึง 1,700 ตำแหน่ง ไม่สามารถให้บริการพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ  ทั้งในปัจจุบันพนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามสถานีตำรวจต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องแบกรับภาระปริมาณงานที่สูงเกินศักยภาพที่บุคคลจะสามารถรับได้ เป็นเหตุให้มีปัญหาการลาออกจากราชการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนหญิง เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระหน้าที่ทางครอบครัวที่หนักกว่าพนักงานสอบสวนชายอีกด้วย  ในขณะที่บางส่วนก็มีสำนวนคั่งค้างเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมและกระทำอัตวิบาตกรรมดังที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งเปิดรับสมัครบุคคลธรรมดาเข้าเป็นข้าราชการตำรวจในตำแหน่งพนักงานสอบสวน โดยเปิดรับสมัครแต่เพศชายในกรณีนี้ ด้วยมีเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน โดยคำนึงสวัสดิภาพของเพศหญิงเป็นสำคัญ หาใช่การริดรอนสิทธิสตรีไม่ […]

วงการสีกากีเดือด!! เพจ ‘พนง.สอบสวนหญิง’ โต้ ‘รองโฆษกสตช.’ ไม่เคยดูแล-คดีล้น แต่บรรจุคนไม่ครบทุกจังหวัด ชวนลาออกให้สมคำชี้แจงท่าน!!

  กรณี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และเครือข่ายสตรีจัดเวทีเสวนาด้านความเสมอภาคทางเพศ​ได้เสนอข้อเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ​ และมีความเห็นกรณี​การรับสมัครบุคคลธรรมดา ข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าไม่คำนึงถึงความเสมอภาคตามหลักสากล เนื่องจากเปิดรับสมัครแต่เพศชายเท่านั้น (คลิกอ่านข่าว) ด้าน พ.ต.ท.ปองพล เอี่ยม​วิจารณ์​ รองโฆษก​สำนักงาน​ตำรวจแห่งชาติ ออกมาชี้แจงเหตุผลดังกล่าว ยืนยันไม่ใช่การริดรอนสิทธิทางเพศ แต่เนื่องจากมีพนักงานสอบสวนลาออกมาก โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนเพศหญิง และการรับแต่เพศชาย เพราะความต้องการแก้ปัญหาดังกล่าวเร่งด่วน ( คลิกอ่านข่าว ) ล่าสุด เพจพนักงานสอบสวนหญิง ซึ่งมีผู้กดไลค์กว่า 3 หมื่นคน แสดงความเห็นกรณีดังกล่าว ระบุว่า เหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับพนักงานสอบสวนเฉพาะชายเพราะพนักงานสอบสวนหญิงลาออกเยอะ? จริงหรือ? อัตราพนักงานสอบสวนหญิง มีประมาณ 400 คนทั่วประเทศ ยังแต่งตั้งให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่ได้ พนักงานสอบสวนทั้งประเทศ 8,000 ตำแหน่งรับคดีปีละ 200,000-300,000 คดีที่เป็นเลขคดี ไม่รวมที่ไกล่เกลี่ยและไม่เป็นคดีแต่มาพบ พงส. รับคดีอาญากฎหมายทุกฉบับ สตช.ไม่เคยดูแล ไม่มีการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ มีแต่การสั่งการ การลงโทษ และการสร้างความเชื่อมั่นในการทำงาน โอกาสก้าวหน้าในอาชีพก็ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานสอบสวนหญิงหรือชาย ใครมีโอกาสที่ดีกว่าก็ไปค่ะ พงส.หญิงที่เคยดำรงตำแหน่งลาออกนับตัวคนได้และไปเป็นผู้พิพากษา อัยการ dsi ปปช. และอาชีพในการบังคับใช้กฎหมาย […]

เตรียมดัน! ร้องทุกข์-สอบสวนได้ทุกที่! บัตรหาย ทำบัตรใหม่ได้เลย ไม่ต้องแจ้งความอีกต่อไป!

  คณะกรรมการพิจารณากฏหมายตำรวจ เตรียมดันกฎหมายสอบสวนคดีอาญา แจ้งความได้ทุกสน. ทำบัตรประชาชน หรือเอกสารต่างๆที่รัฐออกให้หาย ไม่ต้องแจ้งความ แต่ทำบัตรใหม่ได้เลย เมื่อวัยที่ 18 ก.ค. นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่จบวาระแรกแล้ว เหลือเพียงบทเฉพาะกาลบางประเด็นเท่านั้นที่ต้องรอไว้ก่อนเพื่อรอข้อมูลสุดท้าย ขณะเดียวกัน คณะกรรมการฯได้เริ่มต้นพิจารณาร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา ซึ่งเป็นกฎหมายกลางที่ยกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์สำคัญในขั้นตอนการสอบสวนคดีอาญาของข้าราชการตำรวจ เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกและได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น นายคำนูณ กล่าวว่า สำหรับหลักการของร่างพ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวที่ผ่านการพิจารณาแล้ว อาทิ ให้พนักงานสอบสวนในทุกสถานีมีหน้าที่ และอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ไม่ว่าเหตุจะเกิดขึ้นในท้องที่ใดก็ตาม และเมื่อรับแล้วต้องสอบสวนเบื้องต้น เท่าที่จะพึงทำได้ และส่งไปยังพนักงานสอบสวนที่มีเขตอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเร็ว สำหรับกรณีแจ้งเรื่องเอกสารประจำตัวต่างๆ ซึ่งรัฐออกให้หาย ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ แต่จะกำหนดให้สามารถไปแจ้งที่หน่วยงานของรัฐผู้ออกเอกสารนั้นที่เดียวได้เลย โดยกำหนดให้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐนั้นที่จะต้องรับแจ้งและออกเอกสารใหม่ให้ผู้แจ้ง เช่นเดียวกับกรณีที่มีการกระทำความผิดอาญาในรถไฟหรือยานพาหนะขนส่งสาธารณะ ให้ผู้เสียหายหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่เป็นเจ้าของหรือควบคุมรถไฟหรือยานพาหนะขนส่งสาธารณะมีสิทธิร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในทุกสถานี ไม่ว่าเหตุจะเกิดขึ้นในท้องที่สถานีใด นายคำนูณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่คณะกรรมการฯเคยมีความเห็นร่วมกันไว้ อยู่ระหว่างการหารือหาข้อสรุปเพื่อบรรจุไว้ในร่างพ.ร.บ.ฯอีก เช่น กำหนดให้การสอบสวนอาจทำเป็นองค์คณะได้ กำหนดให้ในคดีที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ อาจตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษนั้น ๆ เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน […]

เปิดใจสุดอัดอั้น! ตร.ชั้นผู้ใหญ่สนใจแต่ ‘สืบสวน-ปราบปราม’ ส่วน พงส.แค่ลูกเมียน้อย!

  สกู๊ปโดย : ไทยรัฐออนไลน์ "มันหนักเกินไปแล้ว… เกินจะแบก" คดีในพื้นที่มากมายมหาศาล การทำสำนวนส่งฟ้องอัยการก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไหนจะขั้นตอนวิธีการดำเนินคดีจนกว่าจะแล้วเสร็จยืดยาวออกไปหลายปีดีดัก เหตุนี้เองทำให้พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขาดแคลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นปัญหาคาราคาซัง แก้เท่าไรก็แก้ไม่ได้ ปรากฏการณ์สมองไหลจึงปะทุหนักอีกครั้งในช่วงนี้  โดยเฉพาะกรณีที่ ตำแหน่งพนักงานสอบสวน ของสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ว่างลงหลายตำแหน่ง เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ยื่นใบลาออกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ พงส.ส่วนหนึ่งกำลังเตรียมการยื่นใบลาออก เนื่องจากมีปัญหาความเครียด และปัญหาด้านสุขภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่มีเวลาพักผ่อน โดยในเบื้องต้นมีพนักงานสอบสวนได้ยื่นใบลาออก จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในสังกัด สภ.เมืองพัทลุง 2 นาย สภ.ศรีนครินทร์ 1 นาย สภ.ปากพะยูน 2 นาย รวม 5 นาย ซึ่งการลาออกของพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ ทำให้โรงพักขาดอัตรากำลัง พงส. โดยเฉพาะ สภ.เมืองพัทลุง นั้น มีอัตราว่างถึง 3 อัตรา สภ.ปากพะยูน สภ.บางแก้ว และ สภ.โคกชะงาย โรงพักละ 1 อัตรา รวม […]

ขนส่งร่อนหนังสือถึงผบ.ตร. วอนแจ้งตำรวจงดริบใบขับขี่รถสาธารณะติดจีพีเอสทั่วประเทศ หลังมีดราม่ายึดใบขับขี่รถบรรทุก

  จากกรณีที่มีการถกเถียงกันว่าตำรวจสามารถยึดใบขับขี่ได้หรือไม่ ในกรณีที่ตรวจรถบรรทุกคันหนึ่งก่อนหน้านี้ อ่านข่าวย้อนหลัง : ทำให้ดูจะๆเลย! รถบรรทุกสตาร์ทเครื่องโชว์ให้ดู เหตุใดถึงไม่ยอมให้ ตร.ยึดใบขับขี่ หลังนักข่าวช่องดังเสนอความเห็นส่วนตัวว่าผิดกฎหมาย(คลิป) รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ทำหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความอนุเคราะห์การออกใบสั่งโดยไม่เรียกเก็บใบอนุญาตขับรถสำหรับรถที่ติดเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (จีพีเอส) เนื่องจากการบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถดังกล่าว จะต้องมีการรูดใบขับขี่เพื่อแสดงตัวตน โดยนอกจากรถโดยสารสาธารณะที่ต้องติดตั้งจีพีเอสแล้ว ยังมีรถที่ใช้การขนส่งสัตว์และสิ่งของ (รถบรรทุก) และรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (รถแท็กซี่) ที่ต้องติดตั้งจีพีเอสเช่นกัน ดังนั้นจึงขอให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าพนักงานจราจรทั่วประเทศเพื่องดเว้นการเรียกเก็บใบขับขี่รถในกลุ่มดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ สาเหตุที่กรมการขนส่งทางบกต้องขอความร่วมมือดังกล่าว เนื่องจากหากไม่มีใบขับขี่รถในกลุ่มดังกล่าวจะไม่สามารถรูดบัตรเพื่อแสดงตัวตน และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมการขนส่งทางบกได้ เพราะจะไม่สามารถทราบได้ว่ารถคันดังกล่าวใครขับ และขับตามระยะเวลา หรือในเส้นทางที่กำหนดไว้หรือไม่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศดังกล่าว ส่วนทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณา     ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสันติบาล รับสมัครสอบเป็นพนักงานราชการ วุฒิ ปวช./ป.ตรี25-29มิ.ย.61

    กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 1. ช่างทั่วไป 1 อัตรา เงินเดือน 11,280 บาท ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) หรือประกาศนียบัตรที่มีหลักสูตรกำหนดระยะเวลาการศึกษาไม่น้อยกว่า 1 ปี ต่อจากวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือไม่น้อยกว่า 3 ปี, ต่อจากวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนต้น หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาช่างซ่อมบำรุง สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง สาขาวิชาช่างยนต์  มีสัญชาติไทย  มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี  ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย  ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน  ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง  ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ  ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ  ไม่เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงาน หรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น  ไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใดๆ  ไม่เป็นโรคที่ต้องห้ามตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยโรค […]

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับสมัครบุคคลภายนอกสอบรับราชการเป็นตำรวจสัญญาบัตร455อัตรา รับสมัคร1-22มิ.ย.61(อ่านรายละเอียดด้านใน)

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครและสอบแข่งขัน/คัดเลือก บุคคลภายนอกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2561 จำนวน 455 อัตรา – ประกาศรับสมัครวันที่ 25 – 31 พ.ค. 2561 – รับสมัครวันที่ 1 – 22 มิ.ย. 2561 ทาง http://www.policeadmission.org เท่านั้น – สอบข้อเขียนวันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. 2561 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://rcm.edupol.org/AdmissionDivision/                

เปิดคำสั่งโยกย้ายนายตำรวจระดับ ผู้บังคับหมู่-รองสารวัตร ทั่วประเทศ 11,726 ตำแหน่ง

  เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า เว็บไซต์กองสารนิเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่ คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในตำแหน่งระดับผู้บังคับหมู่ถึงรองสารวัตรทั่วประเทศ ในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 251-272 / 2561 โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวม 22 คำสั่ง รวม 11,726 ตำแหน่ง     คลิกอ่านคำสั่งแต่งตั้ง รอง ผบก.-สว. ทั้งนี้ สำนักงานกำลังพล ตร. มีหนังสือแจ้งให้คำสั่งทั้งหมดมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. โดยให้ไปรายงานตัวรับตำแหน่งใหม่ภายในวันที่ 18 พ.ค. คลิกอ่านคำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่

‘บิ๊กป้อม’สั่งตร.ดักทุกทางแยกใน กทม. จับมอเตอร์ไซค์ไม่สวมกันน็อค ลดเจ็บ! ลดตาย!

  สั่งตำรวจดักทุกทางแยก จับมอเตอร์ไซค์ไม่สวม”กันน็อค”สนองนโยบายรัฐบาลลดเจ็บตาย พล.ต.ต.จิรพัฒน์  ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กล่าวว่า ที่ผ่านมายังพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ดังนั้นทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้มีคำสั่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายกับรถจักรยานยนต์ทั้งคนซ้อนและคนขับที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่นครบาลเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ตนจึงได้มีคำสั่งให้ตำรวจจราจรทั้ง 88 สน. ออกมาบังคับใช้กฎหมายบนท้องถนนตามทางแยก เและเส้นทางหลักต่างๆ เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อค ซึ่งตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. เป็นต้นไป จะเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรออกปฏิบัติหน้าที่และบังคับใช้กฎหมายทุกทางแยกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม จากที่ผ่านมาผบช.น.มีคำสั่งห้ามตั้งด่านจราจร  ดังนั้นบช.น.จึงต้องชี้แจงว่าช่วงนี้หากประชาชนอาจจะเห็นตำรวจออกมาบังคับใช้กฎหมายบนท้องถนนมากขึ้น ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการตั้งด่านลอย เนื่อจากการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก  เพราะถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า  หากพบผู้กระความผิดสามารถดำเนินการออกใบสั่งจับกุมได้ทันที พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่กวดขันจับกุมผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคตำรวจราจรทั่ว บช.น.จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี  โดยจะเน้นจับปรับในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อคเท่านั้น   ส่วนข้อหาอื่นๆตนได้สั่งการให้ตำรวจราจรทำการว่ากล่าวตักเตือนประชาชนที่ฝ่าฝืนกฎหมายได้   โดยผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคมีโทษปรับ 500 บาทและห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่โดยที่ผู้ซ้อนไม่สวมหมวกนิรภัยโดยเด็ดขาด   หากฝ่าฝืนคนขับจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติมในอัตราไม่เกิน 1,000 บาท.  ข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์

2ผัวเมียเตรียมร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติจี้หาตัวมือชำแหละ หลังฝากรถกับ ตร.เหลือแต่ซาก โรงพักปัดรับฝาก ไม่รู้ไปอู่ได้ไง?(มีคลิป)

  จากกรณีสองสามีภรรยาเจ้าของเต็นท์รถมือสอง จ.นครสวรรค์ ฝากรถไว้ที่โรงพักราว 1 ปี แต่เมื่อไปรับกลับเหลือเพียงแต่ซากโครงรถ จึงร้องขอความเป็นธรรม เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำอะไหล่รถที่ฝากไว้ไปขาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ชี้แจงว่า สองสามีภรรยารับรถกลับไปในสภาพสมบูรณ์     10 พ.ค.61 ที่ร้านอำนวยคาร์เซ็นเตอร์ จ.นครสวรรค์  ซึ่งเป็นเต็นท์รถมือสองของ นายสมพงษ์ ชำนาญไพรและ นางอำนวยมุกด์ดา ชำนาญไพร สองสามีภรรยาที่นำรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรตัน ที่ถูกยึดเป็นของกลางไปไว้ที่โรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์     โดยนายสมพงษ์ เล่าว่า ตนเองไปประมูลรถยนต์คันนี้จากบริษัทสหการประมูล เมื่อปี 2558 มาในราคา 72,000 บาท หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ตนได้ขายรถยนต์คันนี้ให้ นายมานพ ชื่นอยู่ ไปในราคา 120,000 บาท ซึ่งนายมานพ จ่ายมาให้ตน 50,000 บาท และตกลงกันว่าส่วนที่เหลือจะจ่ายให้หลังจากครบ 1 เดือน เมื่อถึงเวลาตามกำหนด นายมานพ อ้างว่า ยังไม่มีเงินให้ตามที่ตกลง […]

1 6 7 8 9
error: