เวียดนาม

Advertisement เมื่อไม่นานนี้โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของนักท่องเที่ยวเวียดนาม ที่ได้โพสต์เล่าประสบการณ์สุดน่ากลัว หลังจบคอนเสิร์ต “เจย์ โชว์” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ได้เรียกวินจักรยานยนต์ เพื่อไปส่งที่โรงแรม แถวประตูน้ำ ตกลงราคา 2 คน 250 บาท จากนั้นวินจักรยานยนต์ ได้พาเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยวและมืดมาก ก่อนขอเรียกเงินเพิ่ม อีก 250 บาท/คน รวมเป็น 500 บาท Advertisement Advertisement นักท่องเที่ยวสาวบอกว่า ตนเองกับเพื่อนกลับมาก เลยกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ. โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ แต่วินจักยานยนต์ยังตามมาข่มขู่เรียกค่าโดยสาร 250 บาท พร้อมทั้งอัดคลิปตนเองกับเพื่อน นักท่องเที่ยวสาวจึงขอให้ รปภ. ช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ทำให้วินฯ รีบหนีไป จากนั้นเธอจึงเรียกแท็กซี่จากจุดดังกล่าวกลับโรงแรม จ่ายค่าโดยสาร 110 บาท โดยนักท่องเที่ยวได้ขอบคุณ รปภ. ที่ช่วยเหลือ และเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนที่ต้องจำไปตลอดชีวิต   ข่าวจาก : tnews

ไวรัลในโลกออนไลน์ของเวียดนาม เมื่อเว็บไซต์ saostar รายงานว่า มีไรเดอร์ชายรายหนึ่ง กำลังยุ่งกับการดูแอพพลิเคชั่นของเขา จึงไม่ทันได้ดู ชนเข้ากับปอร์เช่โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งรถคันนี้เพิ่งซื้อมาโดยไม่มีประกัน และอาจจะต้องเสียค่าซ่อมถึง 200 ล้านด่อง โดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นที่ถนน Le Hong Phong ในโฮจิมินห์ เผยให้เห็นชายคนหนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ข้างปอร์เช่ ข้างๆ กันมีรถจักรยานยนต์ที่พังยับจอดอยู่บนพื้น โดยสังเกตว่า มีชิ้นส่วนของรถตกอยู่ด้านข้างด้วย ไรเดอร์คนดังกล่าวทุบมือลงกับพื้นซ้ำๆ โทษตัวเอง และร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้ เพราะเจ้าของรถเรียกร้องเงินจำนวนมาก ตามโพสต์ที่ได้แชร์นั้น ระบุเหตุการณ์ว่า ไรเดอร์มัวแต่ยุ่งอยู่กับการตรวจสอบแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เขา จึงชนท้ายกับปอร์เช่โดยไม่ตั้งใจ และเป็นที่กล่าวขวัญกันเพราะรถคันนี้เพิ่งซื้อมาโดยไม่มีประกัน ค่าซ่อมรถอาจสูงถึง 200 ล้านด่อง หรือราว 295,000 บาท โดยมีผู้คนมามุงดูจำนวนมาก และท้ายคลิปมีตำรวจปรากฏตัว หลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปนั้น หลายคนก็เข้ามาแสดงความเห็นใจกับไรเดอร์ แต่ก็บอกว่าเป็นบทเรียนที่ดีที่ต้องระมัดระวังในการขนส่ง อาทิ “ทำไมมันแพงจัง” “การเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถเป็นเรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มีกฎหมายห้ามใช้มือถือ เมื่อทำผิดกฎจราจร ก็ต้องทุกข์ทรมาน” tin247 รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 11 สิงหาคม พยานบอกว่า รถจักรยานยนต์ของผู้ส่งสินค้าชนท้ายรถหรู […]

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภรรยาชาวเวียดนามคนหนึ่งได้แบ่งปันวีรกรรมของสามี ที่แอบซ่อนเงินจำนวนมากไว้ที่ “เป้ากางเกงใน” และพับไว้ในตู้เสื้อผ้า โดยระบุแคปชั่นว่า “นาน ๆ ทีจะจัดตู้เสื้อผ้า ดันบังเอิญไปพบที่ซ่อนเงินของสามี ก็ว่าทำช่วงนี้ดูใหญ่จัง ผู้ชายใช้ฟังก์ชั่นนี้ซ่อนเงินกันหมด หรือมีแค่สามีของฉัน สามีของฉันอาสาพับผ้าของคนในครอบครัวมา 5 ปีแล้ว ก็ว่าทำไมดูมีความสุขจัง ตอนนี้ฉันเข้าใจเหตุผลแล้ว” เรียกได้ว่าหลังจากโพสต์เป็นไวรัล ชาวเน็ตพากันหัวเราะเมื่อเห็นที่ซ่อนเงิน “เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ากางเกงในมีกระเป๋าด้วย ขอบคุณสำหรับความรู้นี้!”, “แบงก์หมื่นดอง (ประมาณ 15 บาท) ยังซ่อนไว้ ดูก็รู้ว่าเมียเข้มงวดเรื่องเงินแค่ไหน”   ข่าวจาก : ข่าวสด

เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน โลกโซเชียลเวียดนามได้แชร์เรื่องราวสุดประทับใจระหว่างพี่น้องสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอายุมากแล้ว แต่พี่ชายยังคงทำหน้าที่ดูแลน้องสาวคนนี้อย่างดี เรื่องราวดังกล่าวเป็นของหญิงวัย 61 ปี จากจังหวัดเตี่ยนซาง ของเวียดนาม เธอเพิ่งได้แต่งงานในช่วงอายุมาก แต่มันน่าเศร้าเล็กน้อยที่พ่อแม่ของเธอได้จากไปแล้ว ไม่ทันเห็นลูกสาวคนนี้แต่งงาน ดังนั้นในวันสำคัญของเธอ พี่ชายจึงทำหน้าที่แทนพ่อแม่ มอบทองคำเป็นของขวัญวันแต่งงาน พร้อมกับไม่ลืมบอกสอนน้องสาวว่า หลังแต่งงานแล้วให้ประพฤติตัวอย่างเหมาะสม ในช่วงเวลาที่น่าจดจำเช่นนี้ ทั้งสองจึงอดร้องไห้ไม่ได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นสั้น ๆ แต่ทุกคนภายในงานก็สัมผัสได้ว่าทั้งสองพี่น้องมีความสุขมากเพียงใด คลิปครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว นอกจากจะตื้นตันกับความสัมพันธ์ของทั้งสองพี่น้องแล้ว ชาวเน็ตยังช่วยอวยพรให้กับหญิงสาว ไม่ว่าจะอายุเท่าใด หรืออยู่วัยไหน ขอแค่มีรัก เราก็สามารถมีความสุขได้เสมอ   ข่าวจาก : ข่าวสด

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า จากข้อมูลของแพทย์ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาล ห่ง หง็อก ประเทศเวียดนาม เผยเคสที่เป็นอุทาหรณ์ใกล้ตัวว่า ชายรายหนึ่งวัย 30 ปี เข้ารับการรักษาด้วยอาการหูอื้อที่ข้างซ้ายไม่หาย โดยแพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวอาบน้ำเย็นทุกคืน ทำให้เกิดการกระตุกของหลอดเลือดที่ระบายการไหลเวียนของหูชั้นใน และส่งผลทำให้เกิดอาการหูดับเฉียบพลัน ตามรายงานของแพทย์ระบุอีกว่า เวลาในการรักษาที่เหมาะสมคือไม่เกิน 2 วันหลังจากมีอาการผิดปกติ ในกรณีผู้ป่วยข้างต้น หลังจากพบหูอื้อ สูญเสียการได้ยิน ผู้ป่วยไม่ได้ไปพบแพทย์ในทันที ดังนั้นเขาจึงพลาดช่วงเวลาทอง และมีความเป็นไปได้ของการสูญเสียการได้ยินถาวร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของขั้นตอนการรักษาแพทย์ได้สั่งฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids ) ผ่านแก้วหู ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน และฟื้นฟูเซลล์ประสาทหูที่เสียหาย แทนที่จะใช้ยาฉีดและยากินแบบดั้งเดิม โดยหลังจากรักษาได้ 7 วัน การได้ยินของผู้ป่วยจะดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ ตามที่แพทย์ระบุ หูดับกะทันหันมักจะเกิดขึ้นในหูข้างเดียว โดยจะมีอาการที่ชัดเจนที่สุดในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ดังนั้น เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น สูญเสียการได้ยิน หูอื้อ วิงเวียน รู้สึกแน่นในหู ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจและแนะนำการรักษาที่เหมาะสม   […]

20 เมษายน ไชน่า ซินหัว รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ วีทีวีของเวียดนาม รายงานว่าเวียดนามนำร่องการออกสูติบัตรและมรณบัตรแบบดิจิทัลแล้วในพื้นที่บางส่วน ก่อนจะออกใช้งานทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน เหงียน ทันห์ ไฮ หัวหน้าสำนักสถานะพลเมือง สัญชาติ และการออกใบรับรอง สังกัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับวีเอ็นเอ็กซ์เพรส สื่อท้องถิ่นเวียดนามว่า ทางการได้ออกสูติบัตรแบบดิจิทัล จำนวน 223 ใบ และมรณบัตรแบบดิจิทัล จำนวน 31 ใบ ในกรุงฮานอยและจังหวัดฮานามที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ตั้งแต่วันจันทร์ (17 เมษายน) ที่ผ่านมา เหงียนกล่าวว่าประชาชนสามารถเข้ารับใบรับรองตัวจริง หรือเลือกรับใบรับรองแบบสำเนาฉบับดิจิทัลที่จะส่งไปยังอีเมล หลังจากลงทะเบียนกับหน่วยงานท้องถิ่นแล้ว โครงการนำร่องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการสร้างฐานข้อมูลประชากรอันคงที่ รวมถึงสร้างระบบการระบุตัวตน และการยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เวียดนามได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อปรับปรุงขั้นตอนการบริหารจัดการ สนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการพัฒนาความเป็นพลเมืองดิจิทัล และปรับปรุงการปกครองของท้องถิ่นทุกระดับ รายงานการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของสหประชาชาติที่เผยแพร่ทุก 2 ปี ระบุว่าภูมิทัศน์ดิจิทัลของรัฐบาลเวียดนาม ครองอันดับ 86 จากทั้งหมด 193 ประเทศ ในปี 2022 ด้านกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามตั้งเป้าติด […]

ความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023” ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ช่วงระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังเตรียมเจรจากับเจ้าภาพกัมพูชา ให้ลดค่าลิขสิขสิทธิ์ที่ตั้งไว้สูงถึง 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 27.6 ล้านบาท ขณะเดียวกันทางด้านของ Beatvn สื่อของประเทศเวียดนาม รายงานข่าวว่า สำหรับกรณีที่ ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ซึ่งเตรียมขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้ประเทศไทย โดยถือว่าสูงกว่าครั้งก่อน 80 เท่า เปรียบเสมือนชุบทองมาขาย Beatvn รายงานผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า กัมพูชา เพิ่งขายลิขสิทธิ์กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 ให้กับหน่วยงานกีฬาไทย (กกท.) ในราคา 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 28 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าคราวก่อนในซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ถึง 80 เท่า และไม่รู้ว่ามีความพิเศษเหนือกว่าซีเกมส์ครั้งก่อนหรือไม่ แต่ตัวแทนของ กกท. […]

เอเอฟพี รายงานคดีสะเทือนใจคนรักสัตว์ หลังตำรวจเวียดนามพบ ซากแมว ราว 2,000 ตัวที่ถูกฆ่าเพื่อเตรียมนำไปปรุงยาแผนโบราณ และยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย สื่อทางการเวียดนามระบุว่าเจ้าหน้าที่พบซากแมวจำนวนมากที่โรงเชือดสัตว์ในจังหวัดด่งท้าบ บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ทางตอนใต้ โดยซากแมวอยู่ในตู้แช่เย็นซึ่งอาจเตรียมส่งไปทางตอนเหนือของประเทศ เนื่องจากชาวเวียดนามบางคนเชื่อว่าสารสกัดจากกระดูกแมวจะช่วยรักษาโรคได้ เช่น หืดหอบและกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังเจอแมวที่ยังมีชีวิตอีก 480 ตัว ด้านองค์กรสวัสดิภาพสัตว์โฟร์พอว์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเมินว่าแต่ละปี อาจจะมีแมวนับล้านตัวถูกฆ่าเพื่อนำไปขายอย่างผิดกฎหมายในเวียดนาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบริโภคเนื้อสุนัขและแมวในเวียดนามถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ร้านอาหารจะปรุงเนื้อสุนัขและแมวที่ได้รับการรับรองและระบุที่มาของสัตว์ได้ ขณะที่โรงเชือดหลายแห่งในจังหวัดด่งท้าบไม่มีใบอนุญาตฆ่าสัตว์และตรวจสอบที่มาของสัตว์ไม่ได้ นอกจากนี้อุตสาหกรรมยาแผนโบราณยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้การค้าสัตว์ป่าในเอเชียดำเนินต่อไป โดยเวียดนามเป็นทั้งแหล่งบริโภคและศูนย์กลางการขนส่ง   ข่าวจาก : ข่าวสด

โลกโซเชียลเวียดนามได้แห่แชร์ภาพของเจ้าสาวคนหนึ่ง ในจังหวัดเหงะอาน ทางเหนือของเวียดนาม เธอได้แต่นั่งเศร้าโดยมีเจ้าบ่าวคอยปลอบอยู่ข้าง ๆ หลังจากเห็นงานแต่งถูกพายุฝนพังกระหน่ำ เนื่องจากฝนตกหนักและมีลมพัดแรง ทำให้สถานที่จัดงานแต่งงานถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น สภาพอากาศสุดเลวร้ายยังทำให้แขกมาร่วมงานของทั้งคู่น้อยมาก การได้เห็นวันสำคัญอ้างว้างและโดดเดี่ยว ทำทั้งคู่รู้สึกเศร้าใจ หลังจากภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงโซเชียล ผู้คนต่างให้กำลังใจคู่บ่าวสาว โดยกล่าวว่าฟ้าหลังในย่อมสดใสเสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข “วันที่ควรมีความสุขที่สุด แล้วได้มาเห็นฉากนี้ก็รู้สึกเศร้าเหมือนกันนะ”, “ฉันได้ยินมาว่างานแต่งงานกลางสายฝนนั้นโชคดี”, “คิดแง่บวกเข้าไว้ว่า ถ้าฝนตกคนมีคู่จะมีโชค” วันเดียวกัน มีงานแต่งอีกแห่งในจังหวัดเหงะอาน แน่นอนว่าสถานที่ถูกน้ำท่วมเช่นกัน แต่พวกเขาโชคดีกว่าเล็กน้อย ที่ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น แม้ฝนจะตกและลมแรงแต่แขกก็ยังมากันแน่นขนัด นั่งทานอาหารและร่วมงานแต่งอย่างมีความสุข   ข่าวจาก : ข่าวสด

เวียดนามจ่อส่งทหาร 2,000 นายคุมโควิด “บิ่ญเซือง” ป่วยอื้อ-แซงหน้าโฮจิมินห์ เวียดนามจ่อส่งทหาร – วันที่ 26 ส.ค. สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า ทางการเวียดนามเตรียมส่งกองทัพไปยัง จังหวัดบิ่ญเซือง ศูนย์กลางที่ตั้งโรงงานในภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังสาหัส และคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 คนในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ภายหลังจังหวัดบิ่ญเซืองกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่แทนนครโฮจิมินห์ กับจำนวนผู้ป่วยราว 81,000 คน โดย 1 ใน 3 เป็นผู้ติดเชื้อใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนยอดป่วยสะสมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 381,363คน และเสียชีวิตแล้ว 9,349 ราย รายงานระบุว่าทางการจังหวัดบิ่ญเซืองเตรียมรับมือหากเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่หากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในจังหวัดทะลุ 150,000 คน ขณะที่รัฐบาลกลางจะส่งกำลังทหาร 2,000 นาย พร้อมรถสถานีแพทย์เคลื่อนที่ 50 คัน และรถพยาบาลอีก 15 คัน ไปยังบิ่ญเซืองเพื่อสนับสนุนภารกิจต่อสู้โรคโควิด-19 ขณะที่นครโฮจิมินห์ยังใช้มาตรการคุมเข้มและมีเจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลังตามถนนหนทางเพื่อยับยั้งประชาชนจากการเดินทางออกนอกเคหสถาน ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางไปซื้ออาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยรัฐบาลสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารขนส่งอาหารและของใช้ต่างๆ ไปให้ประชาชนตามชุมชนตลอดช่วงล็อกดาวน์ และมีเพียงกรณีเดียวที่ยกเว้นให้ออกนอกบ้านได้สำหรับบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างฉุกเฉินเท่านั้น   […]