หดหู่! พ่อค้าหมูกระทะเครียด ขายของไม่ได้ ไม่มีเงินจ่ายหนี้นอกระบบ

Advertisement เกิดเหตุสลด! พ่อค้าหมูกระทะเครียด ขายของไม่ได้ไม่มีเงินจ่ายหนี้นอกระบบ จุดไฟเผาตัวเองสาหัส เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 2 ก.ค. 2564 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีคนจุดไฟเผาตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในซอยสุขุมวิท 75 ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ Advertisement ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง มุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก บริเวณกลางถนนพบร่างนายสมเจตน์ ( ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี อาชีพขายหมูกระทะแบบเดลิเวอรี่ ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายถูกไฟไหม้ทั่วทั้งตัว เจ้าตัวได้เปิดเผยถึงสาเหตุทั้งน้ำตาว่า เพราะไม่มีเงินไปชดใช้หนี้นอกระบบ ไม่มีทางออกเกิดความเครียดจึงตัดสินใจทำลงไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Advertisement สอบถามญาติผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่าตนเองก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่มีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าน้าชายจุดไฟเผาตัวเอง ส่วนสาเหตุนั้นตนคิดว่าคงเครียดเรื่องหาเงินมาไม่พอจุนเจือครอบครัว เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีประกอบกับมีโรคโควิด 19 ระบาด ทำให้ขายของไม่ได้มากว่า 10 วันแล้ว จึงเกิดความเครียดเพราะตนเองเป็นเสาหลักหาเงินเพียงคนเดียว ส่วนปัญหาเรื่องอื่นน้าชายก็ไม่เคยเอ่ยปากพูดให้ฟัง นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนบ้าน อีกว่าก่อนเกิดเหตุได้กลิ่นน้ำมัน และเกิดแสงเพลิงขึ้น มีเสียงของผู้บาดเจ็บร้องด้วยความเจ็บปวด จึงรีบพากันแบกถังน้ำไปช่วยดับไฟ ส่วนเพื่อนบ้านอีกรายเล่าว่า […]

ใครขายไม่ดีบ้าง? ผู้ประกอบการครวญ เศรษฐกิจตอนนี้ซบเซามากที่สุดในรอบ15ปี!

  นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ถือว่าเหมาะสม สอดคล้องกับการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท แม้เศรษฐกิจในประเทศจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่ได้แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญมากนัก ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินบาทยังแข็งค่าเล็กน้อย ดังนั้นภาคเอกชนจึงมองว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในขณะนี้ “ยอมรับว่าหากมีการปรับดอกเบี้ยขึ้น จะยิ่งส่งผลกระทบให้เงินบาทแข็งค่า ส่งออกก็ยิ่งลำบาก เอกชนมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น แต่หากจะดอกเบี้ยขึ้นก็ควรทำในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้นชัดเจนที่ประมาณ 5-6% เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยอาจมีโอกาสขยายตัวได้ 5-6% จากการลงุทนโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่จะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีจำนวนมาก ประกอบกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุน ส่งผลให้มีกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะครึ่งปีแรกจะเห็นชัดเจนได้มากขึ้น” นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% อีกสักระยะหนึ่ง เพราะไทยยังมีความจำเป็นต้องมีการลงทุนในปีหน้าอีกจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับการนำเข้าสินค้าทุนยังไม่ได้ขยายตัวแบบผิดปกติ การผลิตยังไม่ได้เร่งตัวมาก การลงทุนไม่สูง จนถึงขั้นทีต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรง ดังนั้นเมื่อมองปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน จึงเชื่อว่ายังไม่ใช่จังหวะที่ธปท.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ นางแก้วเก้า เผอิญโชค นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย กล่าวถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตว่า หากมีการปรับขึ้นจริงแน่นอนว่าจะต้องมีผลต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กเพราะต้องรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้มากขึ้นหากมีการกู้เงินมาใช้ประกอบธุรกิจ แต่ขณะเดียวกันก็จะส่งผลบวกต่อคนที่มีเงินฝากในธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเงินฝากเช่น […]

error: