ยกเลิกแล้ว ตำรวจจีนลาดตระเวนในไทย ผู้ว่า ททท. น้อมรับ สื่อสารผิดพลาด

Advertisement 14พ.ย.66 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยล่าสุด กรณีแนวคิดให้ตำรวจจีนมาร่วมลาดตระเวนกับตำรวจไทย ว่าขณะนี้ยกเลิกแนวคิดดังกล่าวแล้ว ถึงแม้จะมีการสื่อสารต่อสาธารณะ แต่เนื่องจากชื่อของโครงการมีคำว่า “ลาดตระเวน” ทำให้มีเสียงสะท้อนในสังคม จนกลายเป็นกระแสเชิงลบ ขอน้อมรับเสียงสะท้อนของทุกคน ขออภัยที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน Advertisement ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้มาจากเจตนาที่ดี แต่ใช้คำสื่อสารไม่ตรงความหมาย ทำให้สังคมกังวลกับแนวคิดที่สื่อออกไป เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ แต่แนวคิดของโครงการนี้ เป็นความร่วมมือในการประสานข้อมูลระหว่างตำรวจ 2 ประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดท่องเที่ยว พร้อมกับการเชิญตำรวจของจีนมาดูงานในแหล่งท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้มั่นใจว่า เรายกระดับดูแลนักท่องเที่ยว Advertisement ด้าน นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีนี้ ณ ทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่มีแนวทางที่จะให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนร่วมกับตำรวจไทย ศักยภาพตำรวจไทยดีมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจท่องเที่ยว มีการทำงานอย่างหนักร่วมกัน เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ เพราะผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีการจัดตำรวจท่องเที่ยวไปประจำในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น วัดพระแก้ว รวมถึงทำงานร่วมกับกรมเจ้าท่าเพื่อดูแลบริเวณท่าเรือที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ   ข่าวจาก : tnews

เปิดเงื่อนไข แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สินค้าอะไรบางที่ซื้อได้ – ไม่ได้

เงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสินค้าได้-ไม่ได้ จากการแถลงข่าวนโยบายแจกเงิน เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่องเงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่สามารถซื้อสินค้าประเภทใดได้บ้าง หลังนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เคาะวงเงิน 6 แสนล้านแจกกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ คือ เงินเดือนไม่เกิน 70,000 บาทต่อราย และ/หรือ มีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท นั้น สำหรับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้สิทธิ์ใช้โดยกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ครอบคลุมการใช้จ่ายในระดับอำเภอ ยึดตามบัตรประชาชน โดยโครงการฯจะสิ้นสุดในปี พ.ศ.2570 โดยแหล่งที่มารัฐบาลจะใช้วงเงิน 6 แสนล้านบาทเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ คือ 5 แสนล้านบาทจะมีการใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ส่วนอีก 1 แสนล้านบาท รัฐบาลจะนำเงินไปใส่ในกองทุนเสริมสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S Curve) เพื่อใช้ในการให้สิทธิประโยชน์ในการดึงอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาลงทุน โดยกองทุนนี้จะใช้ในการดึงดูดการดึงบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 […]

‘นายกฯ’ ลั่นแจก 1 หมื่นถ้วนหน้า ไม่ทบทวน แต่พร้อมรับฟังทุกฝ่าย

6 ตุลาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 20 นาที จากนั้นนายเศรษฐาได้เดินทางกลับเพื่อไปตรวจเยี่ยมอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าได้ขอให้ ส.อ.ท.ทำแอ๊กชั่นแพลนเพื่อย่อยข้อเสนอทั้ง 8 ข้อ จากนั้นจะให้ทีมงานร่วมหารือกับ ส.อ.ท.ในแต่ละข้อเสนอเพื่อแก้ไขและผลักดันร่วมกันต่อไป นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้เสนอนายกรัฐมนตรี 8 ข้อเสนอหลักจาก 70 ข้อ เน้นพัฒนา 3 ด้านคือ การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การขับเคลื่อนจีดีพีให้เติบโตมาก และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบบีซีจี 8 แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ 1.การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมอีสออฟดูอิ้งบิซิเนส และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.การพัฒนาบุคลากร เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งระบบ 3.การบริหารจัดการด้านพลังงานทั้งระบบรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน 4.การส่งเสริมการส่งออก การค้า และสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5.การยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมและดิจิทัล 6.การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า และการมุ่งสู่เป้าหมายเน็ตซีโร่ 7.การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี […]

“เศรษฐา” ประกาศทุ่ม “5.6 แสนล้าน” เดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่ต้องห่วง ก.พ.นี้ ได้ใช้แน่นอน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า การฟื้นฟูรายได้ รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 ด้วยการอัดฉีดเงิน 560,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นระดับชุมชน กระตุ้นอุปสงค์ ก่อนขับเคลื่อนอุปทาน สิ่งที่รัฐได้กลับมา คือ ภาษี ในระยะเวลา 6 เดือน ให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ “ไม่ต้องห่วงครับใช้ได้แน่นอนภายในเดือน ก.พ.นี้” นายเศรษฐากล่าวและว่า สำหรับค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นจะขยับค่าแรงไปถึง 400 บาทต่อวันให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นก้าวแรก   ข่าวจาก : มติชน

นายกฯ ส่งต่อเงินเดือน-เบี้ยประชุมทุกบาท ให้มูลนิธิต่างๆ เพื่อผู้ด้อยโอกาส

28 ก.ย. 66 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือนที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตลอดการดำรงตำแหน่งให้มูลนิธิฯ ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เปราะบางที่ต้องการการช่วยเหลือ   นายชัย กล่าวว่า นายกฯ มีดำริว่า “การให้” เป็นเรื่องที่ดี ตามแต่กำลังศรัทธาของแต่ละคน นายกฯจึงตั้งใจเริ่มที่ตัวเองก่อน ขณะที่รัฐบาลเองมีหลายนโยบายที่พยายามอย่างมากในการมุ่งสร้างประโยชน์สุข และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทย โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้เด็กที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบ ทั้งยังสามารถได้รับการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งทั้งหมดของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทั้งหมด หลังจากได้รับมาแล้วรวมเป็นเงิน 125,590 บาทต่อเดือน (เงินเดือนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 75,590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท) ขอส่งต่อให้กับกลุ่มที่เปราะบาง ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ทันที แต่สิ่งที่ทดแทนไม่ได้ คือหน้าที่ของรัฐที่ต้องดำเนินการสนับสนุนมูลนิธิต่างๆ เป็นการช่วยเหลืออีกทางหนึ่งซึ่งทำได้เร็วกว่าการพึ่งระบบของรัฐที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องอาศัยการทำผ่าน พรบ. ต่างๆ ตามกลไกของรัฐสภาในการดำเนินการเพียงอย่างเดียว   นายชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการคัดเลือกองค์กรที่จะได้รับความช่วยเหลือนั้น […]

โฆษก รบ.แจง บิลค่าไฟเดือน ก.ย. ฉบับที่ออกก่อนมติครม. ใครไม่ได้ส่วนลด จะคืนให้บิลหน้า

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่ ครม. มีมติลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการพิมพ์และส่งใบแจ้งหนี้ค่าไฟของรอบเดือนกันยายน 2566 ออกไปบางส่วนแล้วประมาณ 8 ล้านฉบับ หรือประมาน 30% ก่อนที่จะมีมติครม.ลดค่าไฟฟ้าออกมา ดังนั้น ถ้ามติออกมาก่อน ทำใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ออกให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจะเป็นบิลตามมติ แต่ถ้าวางใบแจ้งไปแล้วแต่ผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่ได้ชำระเงิน จะปรับปรุงบิล เวลาผู้ใช้ไฟฟ้าชำระเงินจะเป็นยอดใหม่ที่ลดแล้ว ส่วนกรณีสุดท้าย ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายเงินไปแล้ว ตามใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ลดราคา ขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องกังวล จะไปคืนให้โดยนำไปลดกับใบแจ้งหนี้ค่าไฟเดือนถัดไป   ข่าวจาก : thebangkokinsight

“เศรษฐา” สั่งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี มีผล20ก.ย.นี้เป็นต้นไป

18 กันยายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ลงนามโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่20 กรกฏาคม พ.ศ. 2548 และได้ประกาศการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้มาตรการต่าง 1 ที่บัญญัติไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เข้าดำเนินการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและประชาชน ภายในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง นั้น โดยที่ปรากฏว่า ในปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี อยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐสามารถใช้มาตรการต่าง ๆ เข้าควบคุม ระงับยับยั้ง และแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา11 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2566 เป็นต้นไป

นายกฯ เอาจริง ตั้ง KPI กวาดล้างผู้มีอิทธิพล ขู่ “ผู้ว่าฯ-ผบก.-กอ.รมน.” ถ้าเอาไม่อยู่ ต้องรับผิดชอบ!

13 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ส่วยและปืนเถื่อนว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กวาดล้างผู้มีอิทธิพล สีดำ สีเทาทั้งหลาย เนื่องจากนายกฯระบุว่า ที่ผ่านมามีคำสั่งไปหลายรอบ แต่ไม่เคยได้ผลเป็นรูปธรรม รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวจะถือเป็น KPI (ตัวชี้วัดผลการทำงาน) ของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจในจังหวัดนั้นๆ กอ.รมน. จังหวัด ด้วย “ท่าน (นายกรัฐมนตรี) บอกว่า ถ้าเอาเรื่องนี้ไม่อยู่ 3 ท่านนี้ต้องรับผิดชอบ ถ้าอยากจะรักษาตำแหน่งเอาไว้ต้องตอบสนองนโยบายนี้ ต้องให้ราบคาบรวดเร็ว รวมถึงยาเสพติดด้วย”   ข่าวจาก : มติชน

“การบินไทย” รับสนองนายกฯ เพิ่มไฟลต์กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ไปจีนถี่ขึ้น รับนโยบายฟรีวีซ่า

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังเข้าหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติยินดีและมีความพร้อมในการร่วมขับเคลื่อนการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณความต้องการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียที่ได้รับการคาดหมายว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายฟรี วีซ่า (Free Visa) ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่กำลังจะมาถึง การบินไทยจึงปรับแผนเริ่มทำการบินในเส้นทางกรุงเทพ-ภูเก็ต ไป-กลับ เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม ด้วยเครื่องบินลำตัวกว้าง ซึ่งมีความจุ 292 ที่นั่ง ให้บริการในชั้นธุรกิจ 30 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 262 ที่นั่ง ด้วยความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดเที่ยวบิน ดังนี้ เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต เที่ยวบินที่ TG201 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 08.00 น. ถึงภูเก็ตเวลา 09.25 น. เส้นทางภูเก็ต-กรุงเทพฯ […]

นักวิชาการ ชม “เศรษฐา” ตอบคำถาม “ชวน” เต็ม10ไม่หัก ไม่ธรรมดา หวั่นใจแทนฝ่ายค้าน

ในการประชุมร่วมรัฐสภา คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สองนั้น ช่วงหนึ่งที่ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายตอนหนึ่ง โดยมองว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นนายกฯที่ไม่ด้อยกว่าคนอื่น แต่มีข้อเสนอแนะว่าอย่าไปล้ำเส้น ก็คืออย่าไปติดคุก อย่าต้องหนี้ออกต่างประเทศ อย่าทำอะไรก็ตามที่มีปัญหาเมื่อท่านพ้นตำแหน่ง พร้อมขอให้อยู่ครบ 4 ปี โดยไม่ต้องติดคุกเพราะทุจริต เน้นย้ำว่าเป็นนักธุรกิจมาเล่นการเมือง ไม่ควรเจอชะตากรรมเพราะเกรงใจลูกพี่ และการทำงานควรเอาอดีตเป็นบทเรียน หลังจากนั้น นายเศรษฐาได้ชี้แจงว่า แม้ว่าจะเป็นนักธุรกิจมาก่อน ยืนยันว่าที่ตนมายืนตรงนี้ ตนรักประเทศชาติ มีความต้องการที่จะเห็นพี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น การที่ได้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ได้มายืนในรัฐสภาอันทรงเกียรตินี้ ตนมีความตั้งใจ ตนมาด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ตนมาด้วยความตั้งใจที่จะทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ย้ำ เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทันที มีนักวิชาการ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการเมือง แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เริ่มจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นถึงกรณดังกล่าว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก […]

1 2 3 4
error: