แนะนำตัวกันหน่อย
ชื่อ นิ่ม อายุ 27 ปี น้ำหนักปัจจุบัน 58 Kg. ส่วนสูง 160 Cm. เป็นคนรูปร่างอวบๆอยู่แล้ว น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตั้งแต่เด็ก โดนล้อมาตลอดชีวิต เช่น อีอ้วน หมูตอน ฮิปโป ช้าง และวัตถุที่เป็นทรงกลมทุกอย่าง ก็จะโดนล้อมาตลอด (เจ็บปวด) ส่งผลให้เป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตัวเองสุดๆ ฮืออ…
แรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
ปกติน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 65 Kg. (ก็อ้วนแหล่ะ) แต่มีช่วงปี 56-57 แบบว่ามีความสุข ปล่อยปละละเลยในการดูแลตัวเองและไม่ควบคุมการกิน ขนม ของหวาน จัดเต็ม โอ้ววว น้ำหนักพุ่งถึง 78 Kg. (กรี๊ด เกือบ 80+ หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วย) ตายๆๆ เสื้อผ้าคับหมด โดยทักตลอด อ้วนขึ้นจัง ไปทำอะไรมา อ้วนขนาดนี้ตัวจะแตกมั้ยเนี้ย (แรงเน๊าะ คนพูดก็ไม่คิดถึงจิตใจเราเลย) กลับบ้านต่างจังหวัด โดนญาติและคนใกล้ตัวทักอีกมากมาย เสียเซลฟ์ เครียด ไม่อยากเข้าสังคม รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่สวย ไม่กล้าถ่ายรูป (ความรู้สึกยากเกินบรรยาย)
ไม่ได้การล่ะ เราอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วล่ะ คือปกติแล้วก็ออกกำลังกายบ้างนะคะ แต่ไม่ค่อยต่อเนื่องและไม่ค่อยจิงจัง เอาล่ะ จากนี้ไปจะจริงจังแล้วนะ เช้าวันนั้น ( 1 กย. 57 ) ไปซื้อรองเท้าวิ่งมาใหม่ (เป็นแรงบันดาลใจในการออกวิ่งอีกครั้ง) และบอกตัวเองว่า เราต้องทำให้ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ กำลังใจสำคัญที่สุด
เอาละ ดูรูปกัน
[ads]
การออกกำลังกาย
ช่วงเช้า
05.45 – 07.00 น. วิ่งลู่วิ่งไฟฟ้าที่ฟิตเนสคอนโด ใช้เวลาวิ่งต่อเนื่อง 40 นาที Speed 7.5 -8 การวิ่งตอนเช้าได้ผลดีมากสำหรับเรานะคะ
เห็นผลเร็วมาก เบิร์นดีมากๆ
ช่วงเย็น (หลังเลิกงาน)
17.00 – 19.00 น. ที่ทำงานเราจะมีฟิตเนสและชมรมแอโรบิค มีเพื่อนเยอะด้วย สนุกดี ช่วงเย็นมีเวลาออกกำลังกายได้หลายอย่างเลยคะ
เบื่อๆก็เปลี่ยนๆ กันไป สลับๆเครื่องเล่นด้วย
เช่น – แอโรบิคต่อเนื่อง 45 นาที
– วิ่งลู่วิ่งไฟฟ้า 30 นาที
– ปั่นจักรยาน 30 นาที
– ลู่เดินกึ่งสเต็ป 30 นาที
– กระโดดเชือก 1,000 ครั้ง นับเป็นเซท เซทละ 100 ครั้ง 10 เซท
โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง/วัน ช่วง 2 – 3 เดือนแรก จะเน้นการเบิร์นมากคะ
***อยากแนะนำว่า ให้หากิจกรรมที่เราชอบ และสามารถทำต่อเนื่องได้ 30-40 นาทีต่อเนื่อง ถึงจะเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายในแต่ละวัน เช่น นิ่มชอบการวิ่ง ก็วิ่งต่อเนื่อง 40 นาทีต่อวัน เป็นต้น
และมีเพื่อนแนะนำการเวท เราก็หาข้อมูลประกอบด้วย เล่นเวทให้กระชับ และเร่งการเผาผลาญ
เราใช้การเวทตามท่าประมาณนี้ และบางวันที่ติดภารกิจ ก็พยายามเวทเทรนนิ่งอยู่ที่ห้องคะ
การควบคุมอาหาร
การทานอาหารสำคัญมาก สำหรับการลดความอ้วน ลองผิดลองถูกมาหลายวิธีแล้ว รอบนี้เราจะตั้งใจแล้วล่ะ ทำให้ถูกต้อง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และไม่ซีเรียสมาก เพราะสามารถทำได้ตลอดและไม่ทรมาน ** ช่วงเดือนแรกๆ ฟิตจัด กินน้อยลงมากๆ หลังๆ มาไม่ไหว กินน้อยเกินไป ออกกำลังกายหนักด้วย แค่เดินยังจะเป็นลม ช่วงเดือนที่สองก็ปรับเปลี่ยนวิธีการกิน ไม่อด กินให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โอเค เดินทางสายกลางดีที่สุดนะทุกคน
1. งดของหวาน ของมัน ของทอด กะทิ ขนมขบเคี้ยว เรียกว่าของอ้วนๆ ก็ลดๆ จนถึงไม่อยากกินไปเลย
2. ทำอาหารทานเอง ออกตัวก่อนว่าไม่คลีน 100% แต่เป็นคนไม่ทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว ช่วงลดความอ้วนก็ลดปรุง คือปรุงน้อยลง (เช่น กินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ปรุงเลย) เน้นผัก ปลา ไก่ ผลไม้ไม่หวาน เปลี่ยนมากินข้าวกล้อง เพราะอิ่มนาน ช่วยเรื่องการขับถ่ายด้วย
3. นับแคลลอรี่ ก็เรียกว่า ไม่แม่นมาก แต่ก็พอคำนวณคร่าว ในหนึ่งวันไม่ควรกินเกิน 1,500 Kal เพราะร่างกายสามารถเผาผลาญได้หมดและไม่เก็บมาสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน
4. ลดประมาณการกิน เช่น จากเคยกินข้าวเต็มๆจาน จนถึงพูนจาน หรือการสั่งกับข้าวพิเศษ ก็ลดลง แต่ปัญหาที่พบคือ เราจะหิวระหว่างวัน ประมาณบ่าย 2 – บ่าย 3 ก็จะเริ่มหิว วิธีของเราคือ เตรียมมันเทศนึ่ง หรือฟักทองนึ่ง ไว้กินในเวลาหิว ประโยชน์ของมันเทศมีมากมาย เราชอบมาก หาอ่านได้ทั่วไปคะ
แต่งานปาร์ตี้ สังสรรค์ก็ยังมีอยู่นะคะ แต่เลือกกิน และจำกัดปริมาณการกินด้วย
หลักๆ ที่ทำก็ประมาณนี้ ทุกๆคนก็พอจะทราบ และเราคิดว่าทุกคนทำได้ ขอเพียงใจเราเข้มแข็ง ใจเท่านั้น เปลี่ยนวิธีคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
สิ่งที่ได้มาจากความเพียรพยายาม
1. มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งการแต่งตัว และการเข้าสังคม เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การที่เราพยายามหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่า อ้วนก็สวยได้ อ้วนก็ไม่หนักหัวใคร แต่ถ้าเราได้ลองพยายาม และตั้งใจลดความอ้วนอย่างจริงจังและเมื่อมีหุ่นแบบคนปกติ ธรรมดาทั่วไป ย่อมมั่นใจกว่าจริงไหม
2. สุขภาพดีขึ้นมาก เรียกได้ว่า แทบไม่เป็นหวัดเลย ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อกระชับ
3. ความภาคภูมิใจ และสามารถลบคำสบประมาทของบางคนได้ว่า ทำไม่ได้หรอก ลดไม่ได้หรอก แต่ในเมื่อคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ อีกอย่างคือ เราไม่เคยกินยาลดความอ้วน หรืออาหารเสริมใดๆ เลย แค่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเท่านั้น
เอาละ 7 เดือนผ่านไป เย้ๆ น้ำหนักลดลงไปเป็น 20 Kg. เลยทีเดียว คนทักมากมาย นิ่มผอมลง ผอมลงแล้วสวยเลย 555
– สค.57 —> น้ำหนัก 78 Kg
– กย.57 —> น้ำหนัก 74 Kg
– ตค.57 —> น้ำหนัก 70 Kg.
– พย.57 —> น้ำหนัก 65 Kg
– ธค.57 —> น้ำหนัก 62 Kg
– มค.58 —> น้ำหนัก 60 Kg. (ช่วงน้ำหนักลงช้ามากๆ เหนื่อย เพลีย ท้อ รู้สึกหมดกำลังใจ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อเป้าหมายของเรา เพิ่มการคาร์ดิโอ เพิ่มเวทเทรนนิ่ง ลดอาหารลงอีกนิดคะ)
– กพ. 58 —> น้ำหนัก 58 Kg. (เย้ๆ ในที่สุดก็ได้ตามเป้าหมายแล้ว รวมน้ำหนักที่ลดลงไปได้ 20 Kg. เป็นไปได้จริงๆ เราทำได้ แฮ่ๆ)
สัดส่วนลดลง
รอบอก จาก 40 นิ้ว —> เหลือ 37 นิ้ว
รอบเอว จาก 33 นิ้ว —> เหลือ 29 นิ้ว
สะโพก จาก 42 นิ้ว —> เหลือ 38 นิ้ว
เสื้อผ้า จากไซต์ 2XL —> ตอนนี้ใส่เบอร์ L
เปรียบเทียบ Before After กันหน่อย
***ถึงตอนนี้ก็ยังออกกำลังกายตามปกติ โดยเพิ่มการเวทมากขึ้น เป้าหมายอยากมีหน้าท้องสวยๆแบบนี้ ในรูปคือ คุณปู ไปรยา กับคุณเจนี่ หน้าท้องสวยมาก ไอดอลเลย อยากได้แบบเน้
***ตอนนี้ก็ยังออกกำลังกายตามปกติ แต่ลดความโหดลงมานิดหน่อย ไม่ได้วิ่งตอนเช้าเลย ฮืออ เรียกได้ว่าเสพติดการออกกำลังกายไปเลย จากการลดความอ้วน ถ้าคุณได้ลองออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณจะติดคะ ถามว่าเราจะสามารถทำแบบนี้ไปได้ตลอดชีวิตไหม เราตอบว่าได้คะ ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ ทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ นอกจากหุ่นดีแล้ว ยังได้สุขภาพดีด้วย เมื่อมีแต่สิ่งดีๆขนาดนี้ ทำไมไม่ลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันละ จิงมั้ย
****กระแสตอบรับดีมากเลย ขออัฟรูปปัจจุบันให้ดูด้วยนะคะ
ปล. ถ้ากระทู้นี้ถูกใจเพื่อนๆพี่ๆชาวพันทิป ช่วยกดโหวตให้ด้วยนะค๊า อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ เพราะเห็นว่าในทุกๆ วันยังมีกระทู้ประมาณว่า ออกกำลังกายยังไง ลดความอ้วนยังไง เผื่อแนวทางของนิ่มจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ด้วยจ้า
ขอบคุณเนื้อหาจากคุณนิ่ม สมาชิกพันทิป http://pantip.com/topic/33521281
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ